พระธรรมนำสุข


        ความเข้าใจธรรมะ จะเกื้อกูลให้ชีวิตประจำวัน มีความเดือดร้อนใจน้อยลง เช่น มีความเป็นมิตรเป็นเพื่อน แทนที่จะมีความโกรธแค้นชิงชังกัน ซึ่งไม่มีประโยชน์อะไรเลย


        เวลาที่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ความเข้าใจถูกอยู่ที่ไหน ต้องไม่ลืมว่า มีกรรม และมีผลของกรรม แล้วอีกอย่างหนึ่ง ใครเปลี่ยนใจใครได้ไหม คนกำลังโกรธ ไปบอกเขาว่า อย่าโกรธนะ ตกนรกนะ โกรธแล้วไม่ดีนะ ร่างกายจะไม่แข็งแรง จะเจ็บไข้ได้ป่วย เขาจะโกรธต่อไปไหมคะ หรือเขาจะหยุดโกรธเพราะเราพูดอย่างนี้ เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้เลยทั้งสิ้น เพราะถ้าเข้าใจธรรมะมากขึ้นจะอยู่เป็นสุข เพราะความเข้าใจธรรมะที่จะรู้ว่า ขณะใดเป็นอกุศล และขณะใดเป็นกุศล และธรรมะก็คือมีปัจจัยเกิดขึ้น ใครก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ถ้ามีความเข้าใจมั่นคงในเรื่องกุศล ที่สำคัญมากก็คือเรื่องความเป็นมิตร หรือความเป็นเพื่อน ซึ่งมาจากคำว่า “มิตตะ” ภาษาบาลีก็ใช้คำกับคำว่า “เมตตา” ทั้ง ๒ คำ

        เพราะฉะนั้น หมายความถึงอะไร ความเป็นมิตร ความเป็นเพื่อน พูดได้ แต่ความลึกซึ้ง และความจริงใจอยู่ที่ไหน ถ้าเป็นเพื่อนในภาษาไทย ก็คือความเป็นมิตร หรือเมตตา หมายความถึงความหวังดีกับบุคคลนั้น พร้อมที่จะช่วยเหลือทุกโอกาส ไม่คิดร้าย ไม่โกรธเคืองด้วย ขณะใดที่โกรธ ขณะนั้นไม่ได้เป็นมิตรเลย และขณะนั้นก็เป็นอกุศลจิตสะสมไว้บ่อยๆ ต่อให้มีสิ่งที่ดีรอบข้างก็ไม่เป็นสุขก็ได้ เพราะความขุ่นเคืองใจ หรือเป็นเหตุที่มีกำลังถึงกับทำอกุศลกรรมได้ ตามข่าวที่ได้ยินบ่อยๆ ไม่มีอะไรเลยก็ฆ่ากันตาย แค่คำพูดคำเดียว หรือการกระทำเพียงเล็กน้อย เพราะกำลังของกิเลสเป็นปัจจัย

        เพราะฉะนั้น จะเป็นอย่างนั้น หรือ ใครทำ ใครโกรธ ทำแล้วใครได้รับผลของกรรม เพราะฉะนั้น ก็เป็นเรื่องที่ว่า ถ้าเข้าใจธรรมะจริงๆ จะไม่เดือดร้อน แต่มีความเป็นเพื่อน คือ เข้าใจแล้วเห็นใจว่า จิตใจของแต่ละคนไม่เหมือนกันเลย บางคนก็สะสมอกุศลมามาก บางคนก็สะสมกุศลมามาก แล้วเราจะทำอะไรได้ นอกจากรักษาจิตของตนเอง ด้วยการเข้าใจถูกต้องว่า เป็นมิตร ไม่ใช่เป็นศัตรู ไม่ใช่หวังร้าย อะไรดีกว่ากันคะ เป็นมิตรดีกว่า เพราะอะไรคะ เราอยากให้คนอื่นเป็นมิตรเราใช่ไหมคะ หรือเราอยากให้คนอื่นหวังร้ายต่อเรา เราเพียงอยากให้เขาเป็นมิตรกับเรา แล้วทำไมเราไม่อยากเป็นมิตรกับเขา หรือ แทนที่จะคอยให้เขามาเป็นมิตรกับเรา เราซิคะที่จะเป็นมิตรกับคนอื่น ไม่เดือดร้อนเลย

        เพราะฉะนั้น ธรรมะทั้งหมดนำมาซึ่งความสุข ถ้าเข้าใจจริงๆ ไม่เป็นทุกข์ไม่เดือดร้อนด้วย แต่ที่สำคัญที่สุด คือ บังคับบัญชาไม่ได้ ฟังอย่างนี้ เข้าใจอย่างนี้ แต่มีปัจจัยที่จะขุ่นใจ ขุ่นใจก็ต้องโกรธ แต่ก็ได้ยินได้ฟัง เห็นโทษว่าอะไรดีกว่ากัน ในขณะที่กำลังจะโกรธ บางคนฟังธรรมะไม่นาน ก็บอกว่า นึกได้ว่า ขณะนั้นเป็นธรรมะที่ไม่ดี ขณะนั้นก็เลยไม่โกรธ

        เพราะฉะนั้น ขึ้นอยู่กับความเข้าใจจริงๆ เพราะอะไรคะ ทุกคนต้องจากโลกนี้ไปแน่นอน เพราะฉะนั้น ธรรมะที่ควรระลึกอยู่เสมอก็คือไม่มีใครรู้วันตาย ไม่รู้ว่าจะตายวันไหน เวลาไหน เมื่อไรด้วยอาการอย่างไร เพราะฉะนั้น เมื่อจะตายเดี๋ยวนี้ควรมีเมตตา ความเป็นมิตร หรือความเป็นเพื่อน เพราะถ้ามีความเป็นมิตรจริงๆ จะไม่ทำร้ายด้วยวาจา หรือกายแม้สักเล็กน้อยก็ไม่มี แล้วก็เป็นประโยชน์กับคนนั้นเอง ใครก็ช่วยเราไม่ได้ ถึงเวลาไปนรก ไปเพราะกรรมที่ได้ทำไว้

        เพราะฉะนั้น เห็นเลยว่า ขอให้เขาอย่าได้ไปสู่นรกก็เมื่อขอให้เขาได้เข้าใจธรรมะ หรือขอให้เขาเป็นคนดี นี่คือความหวังดี แต่ไม่ใช่ไปท่องเสร็จก็โกรธ อย่างนั้นไม่ได้เข้าใจความเป็นมิตร ไม่ต้องพูด ไม่ต้องบอก แต่พร้อมทันทีที่เห็นใครก็ไม่หวังร้ายเลย และพร้อมจะช่วยเหลือเกื้อกูล


    หมายเลข 10289
    18 ก.พ. 2567