กุศลขั้นทานกับขั้นศีลมีปัญญาประกอบได้ไหม


        ผู้ถาม กุศลขั้นทานกับขั้นศีลมีปัญญาประกอบได้ไหม

        สุ. ต้องรู้ว่าปัญญาคือความเห็นถูก ความเข้าใจถูก ไม่เลือกกาลเทศะ บุคคล เรื่องราว สถานที่ เมื่อมีเหตุปัจจัยของสภาพธรรมใดเกิดสภาพธรรมนั้นก็เกิด แล้วเราก็มาพูดถึงเรื่องราวสถานที่ต่างๆ แต่ว่าให้รู้ว่าจริงๆ แล้วก็คือปรมัตถธรรม

        ผู้ถาม ทีนี้การที่ปัญญาจะเจริญขึ้นได้ก็ต้องมีความเข้าใจในธรรมเพิ่มขึ้น

        สุ. แน่นอน

        ผู้ถาม ถ้าสมมุติว่าไม่ได้ฟังธรรม

        สุ. คิดเอง

        ผู้ถาม คิดนึกไปทางกุศล

        สุ. ก็เป็นกุศล

        ผู้ถาม แต่ก็ไม่ได้มีปัญญา

        สุ. ก็ถ้าไม่มีความเห็นถูก ไม่มีความเข้าใจถูก จะใช้คำนี้ได้อย่างไรไม่ใช่ชื่อที่ใครจะเอาไปใช้ได้ แต่เป็นลักษณะที่มีความเข้าใจถูก เห็นถูก

        ผู้ถาม แต่ว่ากุศลทุกชนิดแม้เพียงเล็กน้อยก็มีปัจจัยหรือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ปัญญาเจริญขึ้นได้

        สุ. แล้วแต่ว่าเป็นกุศลที่ประกอบด้วยปัญญาหรือไม่ประกอบด้วยปัญญา หรือเป็นหนทางที่จะทำให้เกิดปัญญา หรือไม่เป็นหนทางที่จะทำให้เกิดปัญญา ไม่ใช่ว่ากุศลทุกประเภท ไม่เป็นไปในเรื่องของปัญญาก็ไม่เป็นปัจจัยให้เกิดปัญญา

        ผู้ถาม แต่ก็ให้ผลเป็นวิบากที่ดีแค่นั้น

        สุ. ถูกต้อง ขณะเห็น ขณะได้ยิน ขณะได้กลิ่น ขณะลิ้มรส ขณะรู้สิ่งที่กระทบสัมผัส ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย

        ผู้ถาม ถ้าเราไปอยู่ในภพที่ไม่ได้มีโอกาสฟังพระธรรม แล้วเราเจริญกุศลขั้นทาน และศีล ในขณะนั้นจะมีปัญญาเกิดร่วมด้วยได้ไหม

        สุ. ขณะที่ท่านพระสารีบุตร และท่านพระมหาโมคัลลานะซึ่งความจริงขณะนั้นก็ยังไม่ใช่ท่านพระสารีบุตรกับท่านพระมหาโมคัลลานะ ดูมหรสพ ท่านคิดยังไง เคยได้ยินได้ฟังความคิดของท่านในขณะที่กำลังดูมหรสพไหม ท่านก็คิดว่าแม้แต่คนที่กำลังแสดงอยู่ก็ต้องตาย และตัวท่านก็ต้องตาย ทำไมถึงคิดอย่างนั้นในขณะนั้นซึ่งคนที่ดูก็กำลังสนุกสนานไปตามเรื่องราว โศกเศร้าไปตามเรื่องราว แต่ก็มีปัจจัยที่จะทำให้ความคิดนั้นเกิดขึ้น เอาชื่อท่านพระสารีบุตรหรือท่านพระมหาโมคัลลานะออก ความคิดนั้นเกิดเพราะอะไร น้อมไปในความเข้าใจถูกอย่างไร แม้เพียงเล็กน้อยก็โน้มเอียงไปแม้แต่ในความคิดแล้วแต่ระดับขั้นของความคิดที่ได้สะสมมา

        ที่มา ...

        พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 188


    หมายเลข 10353
    25 ม.ค. 2567