พาลเพราะไม่รู้


    พาลที่แท้จริงคือความไม่รู้ และอกุศลธรรมทั้งหลาย ดังนั้นประโยชน์คือความ เข้าใจถูกในสภาพธรรมตามความจริง ซึ่งจะทำให้พ้นจากพาลคือการละคลาย ดับความไม่รู้ และกิเลสอกุศลทั้งหมด


    ท่านอาจารย์ พอได้ยินคำว่าพาล ต้องรู้แล้วว่าหมายความถึงความไม่รู้ และอกุศลทั้งหลาย เพราะฉะนั้นความไม่รู้ และอกุศลทั้งหลายเป็นอันตรายกว่าเพราะเหตุว่าอยู่ที่เรา ถ้าอยู่ที่คนอื่นเขาเป็นคนพาล และเวลาที่คนอื่นรู้จักคนที่เราที่มีกิเลสมากมาย หนาแน่นประพฤติดี ก็บอกว่าเราเป็นคนพาลในความรู้สึกของเขา แต่ทั้งหมดก็คือธรรม

    ลักษณะของพาลก็คือสภาพที่ไม่รู้อะไร เพราะฉะนั้น ก็ไม่สามารถที่จะประพฤติปฏิบัติ ในทางที่ถูก ในทางที่เป็นประโยชน์ ในทางที่ดีงามได้ เพราะฉะนั้นน่ากลัวกว่า เพราะว่าเดี๋ยวนี้พาลอยู่ไหน เราไปมองดูคนพาล คนโน้นก็พาล คนนี้ก็พาล แล้วคนที่เป็นที่ยึดถือว่าเป็นเรา พาลหรือไม่ ยังมีอกุศลหรือไม่ ยังมีความไม่รู้หรือไม่

    เพราะฉะนั้นการศึกษาธรรมเพื่อเข้าใจธรรม ความไม่รู้ ถ้าไม่มีการได้ยินได้ฟังธรรมเลยจะไม่รู้เลยว่าไม่รู้ และเป็นพาลเพราะไม่รู้ เพราะเหตุว่าเมื่อไม่รู้แล้วก็มีกิเลสอื่นๆ มีทั้งความติดข้อง และมีทั้งความโกรธ มีทั้งความสำคัญตน ทุกอย่างที่ไม่ดีทั้งหมดซึ่งเป็นลักษณะของคนพาล ก็เพราะมาจากความไม่รู้

    เพราะฉะนั้นแทนที่จะคิดถึงพาลที่อื่น ก็คิดถึงธรรมที่เป็นพาลที่ตนจะเป็นประโยชน์มาก เพราะเหตุว่าจะทำให้สามารถเข้าใจได้ ยังเป็นพาลอยู่หรือไม่ ศึกษาธรรมะต้องตรงเพราะอะไร เพราะไม่รู้ ไม่รู้อะไร ไม่รู้ความจริงของสิ่งที่มีจริงๆ ก็เข้าใจผิด แล้วก็ยึดถือสิ่งนั้นว่าเป็นเรา หรือเป็นเขา เป็นวัตถุสิ่งต่างๆ เพราะไม่รู้

    ด้วยเหตุนี้กว่าจากความไม่รู้ซึ่งเป็นพาล ซึ่งทำให้ประพฤติเป็นไปในสังสารวัฎตามความไม่รู้ สู่การที่จะเริ่มเข้าใจความจริงว่า ธรรมที่ต่างกับพาลก็คือความเข้าใจถูก ความเห็นถูกความจริงของสิ่งที่มี เพราะตราบใดที่ยังไม่รู้ความจริงของสิ่งที่มี ก็เหมือนกับเห็นเป็นคนอื่นไปหมด โดยที่ไม่เห็นตัวเอง เพราะฉะนั้นใครเป็นพาล รู้เลย

    ผู้ฟัง เมื่อไหร่ที่ไม่รู้ความจริง รับรู้ ๖ ทางแล้ว ก็ไม่รู้ความจริง ก็เป็นพาล

    อ.อรรณพ หมายความว่าเพราะความไม่รู้จึงไม่รู้ว่าตัวเองก็เป็นพาล

    ท่านอาจารย์ ความไม่รู้นั้นแหละเป็นพาล กิเลสทั้งหลายเป็นพาล มีชีวิตอยู่โดยเป็นคนพาลที่ไม่รู้ตัว เพราะเหตุว่าคิดว่าไม่เป็นพาล ไม่ได้ไปทำความเดือดร้อนให้ใคร แต่เมื่อไม่ใช่บัณฑิตก็ต้องเป็นพาล แต่ความเป็นผู้ตรงไม่ต้องมีใครบอก ก็รู้ได้ว่าพาลคืออะไร นี่คือจากการฟังพระธรรม แล้วก็บัณฑิตคือใคร คืออะไร ไม่ใช่เราตัดสินเอง แต่เพราะเหตุว่าทรงแสดงไว้ว่าอกุศลทั้งหลายก็เป็นพาล

    อ.อรรณพ มองไปที่ดอกไม้นี้สวย แล้วพาลอย่างไร

    ท่านอาจารย์ ก็ไม่รู้ความจริงว่าเป็นแต่เพียงสิ่งที่ปรากฏเท่านั้น หลับตาแล้วก็ไม่มี หายไปไหน ไม่มีจริงๆ แค่หลับตาต้องไม่มีแน่นอน เห็นไหม แค่นี้ก็ไม่รู้ แล้วจะเป็นบัณฑิตหรือ หรือว่าไม่รู้ตัวว่าเป็นพาล จนกว่าจะเข้าใจถูกต้องว่าเมื่อไม่รู้ความจริงนั่นคือพาล เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไม่รู้ก็เกิดความติดข้องพอใจ มากหรือน้อย ถ้ามากก็ทำทุจริตกรรมได้ บางคน เดินผ่านที่ไหนก็เด็ดดอกไม้ อะไรทำให้เป็นอย่างนั้น เห็นก็ไม่รู้ จึงทำให้เกิดอกุศลเพิ่มขึ้นๆ จนถึงทำทุจริตกรรมได้ อวิชาเป็นเหตุให้เกิดอะไร

    อ.อรรณพ สังขาร

    ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้นการศึกษาธรรมก็ต้องฟัง และก็ฟังให้เข้าใจจริงๆ ไม่ข้าม พอได้ยินคำว่าสังขารแล้วจึงสามารถรู้ว่า อวิชาเป็นปัจจัยให้เกิดสังขารอะไร ธรรมเป็นเรื่องที่ละเอียดมาก เพราะเหตุว่าถ้ากล่าวถึงสังขารธรรม หมายความถึงสิ่งต่างๆ ที่กำลังปรากฏขณะนี้เกิดแล้วจึงปรากฏ ถ้าไม่มีปัจจัยที่จะทำให้เกิด ก็เกิดไม่ได้เลย แต่ไม่รู้ถึงว่าอะไรเป็นปัจจัยให้แต่ละหนึ่งที่กำลังปรากฏในขณะนี้เกิดขึ้น ความไม่รู้นั้นก็ทำให้ไม่รู้ต่อไปอีก ไม่รู้ต่อไปอีก จนกระทั่งสามารถที่จะเกิดอกุศลมากมาย


    หมายเลข 10583
    15 พ.ค. 2567