ลูกศรอาบยาพิษ


        อ.อรรณพ กิเลสมีโทษต่อจิตดุจลูกศรอาบยาพิษ โดยเฉพาะโลภะ และโมหะนั้น เป็นกิเลส ที่ยากจะรู้ได้ ซึ่งก็เป็นในขณะนี้ที่กำลังติดข้องในสิ่งที่ปรากฏ


        อ.อรรณพ ความว่า ไม่รู้ว่ากิเลสมีอยู่ในตัวเรา คือในจิตสันดานของเรา คือไม่รู้โดยถ่องแท้อย่างนี้ว่า ธรรมดากิเลสเหล่านี้ หยาบคาย ร้ายแรง ควรละทิ้ง ไม่ควรเอาไว้ คล้ายกับลูกศรอาบยาพิษก็ปานกัน

        ท่านอาจารย์ ตอนนี้รู้จักลูกศรแล้วใช่หรือไม่ ลูกศรหนึ่งคืออะไร ลูกศรมีเยอะ ความไม่รู้ กำลังไม่รู้แท้ๆ คิดดู หาลูกศรเจอหรือยัง

        อ.อรรณพ หายากที่สุดก็คือโมหะ อวิชชา ความไม่รู้

        ท่านอาจารย์ เดี๋ยวนี้ไง ก็ยังไม่เห็น จนกว่าปัญญาเท่านั้นที่เริ่มเห็นว่า แข็งเป็นแข็ง เห็นเป็นเห็น ได้ยินเป็นได้ยิน ไม่รู้ก็คือไม่รู้ กำลังไม่รู้ว่าเห็นเดี๋ยวนี้กำลังเห็น เกิดขึ้นแล้วดับ ไม่รู้ ไม่มีรูปร่างอะไรที่จะมาแสดงว่า ตัวเองไม่รู้ แต่กำลังไม่รู้จริงๆ ในสิ่งที่กำลังปรากฏ ก็เริ่มรู้จักลูกศร ว่าลูกศรนี้จะค่อยๆ ออกไปได้ ก็ด้วยการฟังพระธรรมเข้าใจ และถ้าลูกศรนี้ออกไป ลูกศรอื่นก็ออกไปด้วย ตามๆ กัน

        อ.อรรณพ ในสังยุตตนิกาย สคาถวรรค ก็ยิ่งเตือนมาก ความว่า แทงที่หัวใจด้วยลูกศร คือตัณหา ที่ถูกซัดไปด้วยอวิชชา เหมือนถูกแทงด้วยลูกศรคือหอกที่อาบยาพิษ

        ท่านอาจารย์ เวลานี้รู้จักลูกศรคืออวิชชา ความไม่รู้ เมื่อสักครู่นี้ ถ้าถามว่าลูกศรอยู่ไหน รู้สึกจะหากันใหญ่เลย ลูกศรอยู่ไหน อยู่นี่ อยู่ที่เห็นแล้วไม่รู้นั่นแหละลูกศร อยู่ที่ได้ยินแล้วไม่รู้นั่นแหละลูกศร หาลูกศรให้เจอก่อน ถ้ามีใครถาม ลูกศรอยู่ไหน อยู่นี่ ที่ไหน ที่ความไม่รู้สิ่งที่กำลังปรากฏ อาบยาพิษด้วย ทำร้าย เพราะเหตุว่าจะทำให้มีการติดข้องในทุกสิ่งทุกอย่าง

        อ.อรรณพ โลภะเกิด สบายใจ และจะเป็นลูกศรที่อาบยาพิษอย่างไร

        ท่านอาจารย์ โลภะติดข้อง โลภะชอบทุกอย่าง เวลาที่เกิดโลภะรู้สึกว่ามีความรู้สึกที่เป็นสุข หรือว่าก็เฉยๆ ไม่เดือดร้อน แต่ความไม่รู้ว่าสิ่งที่ชอบมีหรือไม่ แค่นี้ ไม่ต้องไปไหนเลย สิ่งที่กำลังติดข้อง มีหรือไม่

        อ.อรรณพ มีแล้วก็ไม่มี หมดไป

        ท่านอาจารย์ หมายความว่าก่อนมี ไม่มี ใช่หรือไม่

        อ.อรรณพ ไม่มี

        ท่านอาจารย์ ยังไม่เกิดก็ไม่มี แต่เมื่อใดที่เกิดแล้วดับไป ติดข้องในสิ่งที่ปรากฏเมื่อเกิด แล้วไม่เหลือ แค่นี้ บัณฑิตหรือยัง ที่จะเห็นความจริงว่า ความจริงเป็นอย่างนี้แน่นอน ไม่มีชาตินี้ ไม่มีคนนี้ ที่นั่งอยู่ตรงนี้ แล้วก็มี แต่ความจริงก็ไม่มีอีกเลย เมื่อจากโลกนี้ไป ทางตาหนึ่งโลก สิ่งที่ปรากฏทางตา มีเมื่อปรากฏเเล้วหมด พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบำเพ็ญพระบารมีที่จะตรัสรู้ และได้ตรัสรู้ความจริงด้วย สมกับที่เป็นพระมหาโพธิสัตว์ ที่จะทรงรู้ทุกสิ่งทุกอย่างโดยประการทั้งปวง ซึ่งไม่มีใครสามารถที่จะคาดคะเน พระปัญญาคุณของพระองค์ได้เลย สิ่งที่พระองค์ทรงแสดง ให้คนอื่นได้รู้ก็เพียงแค่ อุปมาเหมือนใบไม้ ๒-๓ ใบในกำมือ กับพระปัญญาที่รู้ทุกอย่าง เหมือนใบไม้ในป่า ต้นไม้กี่ต้น เพียงแค่ประโยคสั้นๆ ที่พระองค์ได้ประจักษ์แล้ว จากไม่มี แล้วก็มี แล้วก็หามีไม่ แสดงว่าเราติดข้อง ถ้าสิ่งนั้นยังไม่เกิดก็ไม่ติดข้อง เพราะยังไม่มีให้ติดข้อง แต่เมื่อสิ่งนั้นเกิด และติดข้อง สิ่งนั้นก็หมดไป แค่นี้ ฟังไปนานเท่าไร กว่าจะรู้ว่าแท้ที่จริงก็คือไม่มี หมดแล้วทั้งนั้น แต่เหมือนมีตลอดเวลาเพราะการเกิดดับสืบต่อเร็วมาก ต้องมีปัญญาที่สามารถจะเข้าใจความจริง และก็ค่อยๆ รู้ความจริงนั้น โดยความเป็นอนัตตา ไม่ใช่ไปรีบเร่ง ขวนขวาย ทำอะไรที่จะให้หมด หมดไม่ได้ ยิ่งกว่าภูเขาเลากาใช่หรือไม่ สิ่งที่สะสมมาในแสนโกฏกัปป์ ในความไม่รู้ และในความติดข้อง แล้วจะให้หมดไปทันทีไม่ได้ แต่เป็นผู้ที่ตรง เข้าใจคำนี้จริง ถูกต้อง จากไม่มีเลย แล้วก็เกิดมี แล้วไม่มีเลย ไม่มีเสียดีกว่า ดีไหม ไม่ต้องเกิดขึ้นเสียเลย ให้มี ดีหรือไม่ เพราะว่าเกิดแล้วก็เหมือนไม่เคยเกิด และก็ไม่มีอย่างเดิม แค่นี้ กว่าจะฟัง เเล้วก็สิ่งที่กำลังกล่าวถึงก็คือเดี๋ยวนี้เอง ก่อนเห็นไม่มีเห็น พอมีเห็น เห็นก็ดับ ก่อนที่จะมีสิ่งที่เกิดปรากฏกับมหาภูตรูปที่กระทบตา ไม่มีมหาภูตรูปนั้น ยังไม่เกิดก็ไม่มี แต่พอมีแล้วเกิดแล้ว กระทบตาแล้ว ปรากฏแล้ว มีชั่วขณะ แล้วก็หมดไป ถ้าไม่มีการเกิดจะมีอย่างนี้หรือไม่

        อ.อรรณพ ถ้าไม่เกิด ก็ไม่มีทุกข์กาย

        ท่านอาจารย์ ไม่มีทุกอย่าง

        อ.อรรณพ ไม่มีทุกอย่างเลย

        ท่านอาจารย์ ดีไหม

        อ.อรรณพ ต้องดี

        ท่านอาจารย์ กว่าจะคิดออก ความจริงเป็นอย่างนี้ และใจที่หนาแน่นไปด้วยอกุศล ไม่เข้าใจความจริงนี้ และไม่ยอมเข้าใจด้วย แต่ถ้าเป็นคนตรง เป็นอย่างนี้ก็จะต้องเป็นอย่างนี้ จนกว่าหมดเหตุที่จะให้เกิดขึ้น ดูราวกับว่า มีแต่โลภะ แต่ความจริงมีทุกข์ด้วย ร้องไห้ด้วย เสียใจด้วย เสียดายด้วย โกรธด้วย ทุกอย่างด้วย เพราะโลภะ ใช่หรือไม่ ทุกข์ดีไหม

        อ.อรรณพ ไม่ดี

        ท่านอาจารย์ จะไม่มีทุกข์ เมื่อไม่มีโลภะ ใช่หรือไม่

        อ.อรรณพ ถูกต้อง

        ท่านอาจารย์ จะสุขสักเท่าไร จะทุกข์สักเท่าไร จะตื่นเต้นสักเท่าไร จะมีความสำคัญอะไรในชาตินี้ หน้าที่การงานอะไร สักเท่าไร ก็เพียงแค่ชาตินี้


    หมายเลข 11466
    9 มี.ค. 2567