ธรรมวินัยที่กล่าวไว้ชั่ว


        อ.อรรณพ ความเข้าใจถูกตามพระธรรมคำสอน ทำให้ไม่ต้องได้รับทุกข์โทษจากการ ไปเชื่อในคำสอนที่ผิด


        อ.อรรณพ ผู้ที่เกียจคร้าน ในธรรมวินัยที่กล่าวไว้ชั่ว ย่อมอยู่เป็นสุข

        ท่านอาจารย์ อันนี้ไม่สงสัย ใช่หรือไม่ ไม่ต้องไปนอนกลางดินกินกลางทราย ใช่หรือไม่ ไม่ต้องไปอยู่ป่าช้า ไม่ต้องไปอยู่ที่ไหนๆ ใช่หรือไม่ คุณเบญจมาศรู้แล้ว ว่าต่อไปนี้ ไม่ต้องไปเป็นทุกข์ นอนที่ไหนอีกต่อไป ที่เป็นทุกข์ซ้ำอีกทีก็ได้ จะได้จำไว้

        อ.อรรณพ ผู้ที่เกียจคร้าน ในธรรมวินัยที่กล่าวไว้ชั่ว ย่อมอยู่เป็นสุข

        ท่านอาจารย์ บอกใครๆ ได้เลย ที่เขาอยากจะไปเป็นทุกข์ ว่าผู้ที่ไม่ไปเป็นสุข ไม่ไปทำตามคำที่กล่าวไว้ชั่ว เพราะว่าไม่สามารถจะไปรู้อะไร ในสถานที่อย่างนั้นได้

        อ.อรรณพ ผู้ที่ปรารภความเพียร ในธรรมวินัยที่กล่าวไว้ชั่ว ย่อมอยู่เป็นทุกข์

        ท่านอาจารย์ ชัดเจนที่เราจะต้องไม่ละเลย แต่ละคำ เพื่อใคร ยังมีละเอียดกว่านั้นอีก แต่ตอนนี้เป็นเพียงเบื้องต้นให้เห็นว่า อะไรเป็นธรรมวินัยที่กล่าวไว้ชั่ว ซึ่งถ้าประพฤติปฏิบัติตามด้วยความเพียรก็ต้องเป็นทุกข์ แต่ถ้าไม่ประพฤติปฏิบัติตามธรรมวินัยที่กล่าวไว้ชั่ว เป็นสุขแน่ๆ และธรรมวินัยที่กล่าวไว้ชั่ว ละเอียดมาก ถ้าไม่พิจารณาก็อาจจะเข้าใจว่ากล่าวไว้ดีแล้ว เช่นมีคนกล่าวว่าผู้ที่ฟังธรรมที่มูลนิธิไม่ได้รักษาศีล กล่าวไว้ชั่วหรือไม่ เพราะเขารู้หรือไม่ ว่าศีลคืออะไร และไม่ใช่ตัวตนไปรักษา ที่สำคัญที่สุด ถ้าคิดว่าเป็นตัวตนที่ไปรักษา เป็นคำกล่าวที่ชั่วหรือไม่ ไม่มีประโยชน์เลยในการที่จะฟังธรรมเข้าใจ ไม่เห็นว่ารักษาศีล จะเห็นได้อย่างไร ศีลเป็นนามธรรม มีทั้งกุศลศีล อกุศลศีล อัพยากตศีล และศีลมีตั้งแต่อินทรียสังวรศีล ใครจะรู้อินทรียสังวรศีล ขณะนี้สติกำลังรู้ที่ลักษณะของสภาพธรรม ด้วยความเข้าใจที่ได้ฟังแล้ว ไม่ต้องไปนั่งขอสมาทานกับใคร ไปบอกใครว่าสมาทานศีล ไม่ใช่ว่าหมายความว่าจะต้องไปนั่งขอศีล และคิดว่านี่เป็นการเริ่มต้นของการที่จะปฏิบัติธรรม เข้าใจผิดหมดเลย

        ธรรมเป็นสิ่งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ดีแล้ว การสนทนาธรรม การไตร่ตรองให้ตรงตามความเป็นจริง ผู้นั้นเพียรในทางที่ถูกต้อง ในทางที่กล่าวไว้ดีแล้ว ว่าเพียรเพื่อที่จะเข้าใจถูก ไม่หลงไปในคำชั่ว เข้าใจผิด ได้ยินคำว่าศีล สมาธิ ปัญญา ก็คิดว่าจะต้องไปขอศีลด้วย รักษาศีล ใครจะรู้ ไม่มีใครสามารถรู้ได้เลย วันนี้รักษากี่ข้อ ใช่หรือไม่ คนอื่นรู้ไม่ได้เลย

        เพราะฉะนั้นไม่ใช่ไปตามคำที่เข้าใจว่า การเข้าใจธรรมไม่มีประโยชน์ ถ้าไม่ได้รักษาศีล ขณะที่เข้าใจก็เป็นกุศลศีลแล้ว จะต้องไปรักษาอะไรในเมื่อเกิดแล้วด้วยความไม่ใช่เรา ไม่ใช่เป็นตัวเรา ไปนั่งรักษาศีล เพื่อที่จะได้ไปสู่สมาธิ และปัญญา คำสอนที่เผิน และไม่ทำให้มีความเข้าใจที่ถูกต้อง ไม่สามารถที่จะอยู่เป็นสุข เพราะว่าต้องมีการเกิดดับเป็นทุกข์อยู่ร่ำไป โดยเข้าใจผิด เพราะว่าศีลไม่ได้มีแต่เฉพาะในพระพุทธศาสนาเท่านั้น ศีลเป็นธรรม ธรรมประเภทไหนเกิดขึ้น ก็เป็นปกติเป็นความเป็นไปของธรรมนั้น เป็นศีลของกุศลบ้าง อกุศลบ้าง ความเข้าใจธรรมสำคัญที่สุด ที่จะเป็นผู้ที่ตรง และรู้ว่าอะไรเป็นคำชั่ว คือคำที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งไม่นำมาซึ่งความสุข แต่จะนำมาซึ่งความทุกข์

        อ.อรรณพ อย่างที่ว่ามูลนิธิไม่มีศีล ก็เป็นการกล่าวที่ผิด

        ท่านอาจารย์ แล้วเราก็ไม่ได้ไปฆ่าสัตว์ที่ไหน จะว่าเราไม่มีศีลหรือ ก็เป็นเรื่องที่พูดไป ด้วยความไม่รู้ และก็เข้าใจเผินมาก คำชั่วไม่สามารถที่จะทำให้พ้นทุกข์ได้ ต้องพิจารณาโดยละเอียด ถึงจะรู้ได้ว่าคำใดชั่ว และคำใดดี

        อ.คำปั่น ก็ตรงกันทั้งหมดเลย

        ท่านอาจารย์ จะรีบชวนกันไปขอสมาทานรักษาศีลหรือไม่ เพราะเข้าใจผิดคิดว่าต้องเป็นอย่างนั้น กับการที่ฟังธรรม และเข้าใจ การที่จะรักษาศีลขอสมาทานศีล ๕ งดเว้น มีมากมายใช่หรือไม่ แต่เขาฟังธรรม เข้าใจธรรมหรือไม่ ก็เป็นการชักชวนเพียงว่า เริ่มต้นด้วยการรักษาศีล แต่ว่าไม่ได้มีความเข้าใจเลย ก็เป็นตัวตนที่รักษาศีล ธรรมก็เป็นเรื่องที่ละเอียด เข้าใจธรรม ขณะที่เข้าใจธรรมเป็นศีลหรือไม่

        อ.คำปั่น เป็น

        ท่านอาจารย์ ก็เป็นศีล แล้วอย่างไร เราเข้าใจธรรมนี่เราไม่ได้มีศีลหรือ เข้าใจเมื่อไหร่ก็เป็นศีลเมื่อนั้น เป็นกุศลศีล


    หมายเลข 11478
    3 มี.ค. 2567