อารัมมณาธิปติปัจจัย - อารัมมณูปนิสสยปัจจัย - นิพพาน
นิพพานเป็นอารัมมณาธิปติปัจจัย แต่ว่าเป็นเป็นอารัมมณูปนิสสยปัจจัยของใครบ้างแล้ว พอพูดถึงนิพพาน ทุกคนก็ต้องยกไว้ว่า เป็นอารมณ์ที่ประณีต ที่ดับกิเลส เป็นโลกุตตระ สงบอย่างยิ่ง เพราะเหตุว่าไม่เกิดขึ้น ไม่ดับไป ไม่สามารถที่จะเป็นที่ตั้งของความยินดีพอใจได้เลย เพราะฉะนั้นนิพพานปรมัตถ์เป็นอารัมมณาธิปติปัจจัยโดยสภาพของนิพพาน แต่ใครต้องการนิพพานบ้างแล้วหรือยัง ถ้ายัง ก็ยังไม่เป็นอารัมมณูปนิสสยปัจจัย คือ ยังไม่มีกำลังมากที่จะให้จิตเริ่มขวนขวายที่จะอบรมเจริญหนทางข้อปฏิบัติที่จะให้รู้แจ้งนิพพานได้
เพราะฉะนั้นถึงแม้จะมีการฟังแล้วก็เข้าใจว่า นิพพานเป็นอารัมมณาธิปติปัจจัยก็จริง แต่ขึ้นอยู่กับจิต ว่าสภาพธรรมของนิพพานที่เป็นอารัมมณาธิปติปัจจัยนั้น จะเป็นอารัมมณูปนิสสยปัจจัยให้จิตเริ่มที่จะประพฤติปฏิบัติ ศึกษา ขวนขวาย เพื่อที่จะให้ประจักษ์แจ้งในลักษณะของนิพพานหรือยัง
เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่า การที่จะบรรลุถึงนิพพาน ไม่ใช่ว่าอยู่ดี ๆ ไม่รู้อะไรเลย เพียงแต่ปรารถนาอยากจะถึงก็ไปนั่งจดจ้องเพื่อที่จะให้ถึงนิพพาน แต่ต้องเข้าใจว่า แม้แต่นิพพาน ซึ่งเป็นอารัมมณาธิปติปัจจัยนั้น ได้เริ่มเป็นอารัมมณูปนิสสยปัจจัยแก่มหากุศลญาณสัมปยุตต์แล้วหรือยัง เพราะเหตุว่าหลายท่านก็อาจจะได้ฟังว่า นิพพานเป็นสภาพธรรมที่ดับกิเลส และมีความเห็นด้วย ขณะนั้นอย่าลืม อธิปติปัจจัยว่า เป็นอธิปติปัจจัยประเภทไหน เป็นฉันทาธิปติ หรือว่าเป็นวิริยาธิปติ หรือว่าเป็นจิตตาธิปติ หรือว่าเป็นวิมังสาธิปติ
เพราะเหตุว่าถ้าไม่มีเหตุผลมากกว่านั้น เพียงแต่ได้ยินได้ฟังว่า นิพพานเป็นธรรมที่ดับกิเลส ขณะที่มีความเห็นถูกอย่างนั้น ขณะนั้นเป็นจิตตาธิปติได้ โดยที่ยังไม่ใช่วิมังสาธิปติ เพราะเหตุว่ายังไม่ได้พิจารณา ไตร่ตรอง สอบทานจนกระทั่งเห็นจริง ๆ ว่า การที่สามารถจะประจักษ์แจ้งลักษณะของนิพพานได้จริง ๆนั้น จะต้องด้วยการอบรมเจริญปัญญาอย่างไร