ทบทวนปัจจัย - อัญญมัญญปัจจัย


    ปัจจัยที่ ๓  โดยอัญญมัญญปัจจัย   ชื่อเป็นภาษาบาลี   แต่ว่าลักษณะของสภาพธรรม   ไม่ต้องมีชื่ออะไรก็ได้   แต่ว่าต้องใช้ชื่อ   เพื่อที่จะแสดงให้เห็นลักษณะของการเป็นปัจจัย   ของธรรมที่อาศัยกันเกิดขึ้น   ถ้าโดยอัญญมัญญปัจจัย   หมายความว่า สภาพธรรมที่เป็นปัจจัย   และสภาพธรรมที่เป็นปัจจยุปบันนธรรมต่างก็อาศัยซึ่งกันและกัน   หมายความว่าในขณะที่โลภมูลจิตเกิดแล้วก็มีเจติสกเกิดร่วมด้วย   โลภมูลจิตเป็นอัญญมัญญปัจจัยของเจตสิกซึ่งเกิดร่วมด้วยทั้งหมด   และเจตสิกซึ่งเกิดทั้งหมดนั้นก็เป็นอัญญมัญญปัจจัยแก่โลภมูลจิต

    คือโลภมูลจิตต้องอาศัยเจตสิกที่เป็นปัจจยุปบันนธรรม   และเจตสิกซึ่งเป็นปัจจยุปบันนธรรมต้องอาศัยจิตซึ่งเป็นปัจจัย  ทั้งปัจจัยและปัจจยุปบันนธรรมต่างต้องอาศัยกันและกัน   จึงเป็นอัญญมัญญปัจจัย   เพราะเหตุว่าบางครั้ง หรือบางขณะ   หรือว่าบางสภาพธรรม  ปัจจัยทำให้ปัจจยุปบันนธรรมเกิด   โดยที่ว่าปัจจัยนั้นไม่ได้อาศัยปัจจยุปบันนธรรมเลย  เช่น จิตเป็นปัจจัยให้จิตชรูปเกิด  ถูกไหมคะ   เพราะเหตุว่ารูปซึ่งเกิดจากรรมก็มี   รูปซึ่งเกิดจากจิตก็มี   รูปซึ่งเกิดจากอุตุก็มี   รูปซึ่งเกิดจากอาหารก็มี   ถ้ากล่าวถึงจิตตชรูป   หมายความว่ารูปนี้ต้องอาศัยจิตเป็นสมุฏฐานจึงเกิดมีขึ้นได้   ถ้าไม่มีจิต  จิตตชรูปจะเกิดไม่ได้เลย   อย่างคนที่ตายแล้วนี้   ไม่มีจิตตชรูปอีกเลย   เพราะเหตุว่าจิตไม่เกิด

    เพราะฉะนั้นถ้าเป็นจิตตชรูปแล้ว จะเกิดขึ้นได้ต้องอาศัยเพราะจิตเกิดขึ้นในขณะนั้นเป็นสมุฏฐาน   เป็นธรรมที่ก่อตั้งให้รูปเกิดขึ้น  แต่จิตชรูปไม่ได้เป็นที่อาศัยเกิดของจิต   เพราะฉะนั้นจิตตชรูปไม่ใช่อัญญมัญญปัจจัย  แต่สำหรับจิตต้องอาศัยเจตสิกเกิด   และเจตสิกต้องอาศัยจิตเกิด   ต่างต้องอาศัยซึ่งกันและกัน   เพราะฉะนั้นตต่างก็เป็นอัญญมัญญปัจจัยซึ่งกันและกัน

    นี่ก็เป็นธรรมดาในชีวิตประจำวัน   เพียงแต่ว่าทรงแสดงให้ละเอียดขึ้นว่า  สภาพธรรมแต่ละอย่างซึ่งอาศัยกันเกิดขึ้น   เป็นปัจจัยโดยอย่างไร  เท่านั้นเอง   แต่ถ้าเข้าใจแล้ว   ก็เป็นการทบทวนโดยสภาพของปัจจัยนั้นๆ   ซึ่งชื่อเป็นภาษาบาลีจริง   แต่ว่าสภาพธรรมก็คือสภาพธรรมตามปกติ   แต่ว่าเป็นปัจจัยโดยปัจจัยอย่างไรบ้าง

    มีข้อสงสัยไหมในเรื่องนี้   อัญญมัญญปัจจัย 

    เหมือนกับไม้ ๓ อัน   ซึ่งต้องอาศัยกันจึงตั้งอยู่ได้   ถ้าเอาอันหนึ่งอันใดออกไปเสีย   ก็ไม่สามารถจะตั้งอยู่ได้  ฉันใด  อัญญมัญญปัจจัย  ก็ฉันนั้น 

    ถ้าบอกว่า  จิตเป็นอัญญมัญญปัจจัย  ต้องรู้เลยว่า สิ่งซึ่งเป็นปัจจยุปปันนที่จิตนั้นทำให้เกิด  จิตต้องอาศัยปัจจยุปบันนนั้นด้วย  มิฉะนั้นจะไม่ใช้คำว่าอัญมัญญปัจจัย   หรือถ้ากล่าวว่า   เจตสิกเป็นอัญญมัญญปัจจัย   ก็จะต้องรู้ทันทีว่า   เมื่อเป็นปัจจัย  หมายความว่าเป็นสภาพธรรม   ที่ทำให้สภาพธรรมอื่นเป็นปัจจยุปบันนเกิดขึ้น   และสภาพของปัจจัยนั้นต้องอาศัยปัจจยุปบันนด้วย  จึงจะเป็นอัญญมัญญปัจจัยซึ่งกันและกัน

    นี่ก็  ๓ ปัจจัยแล้ว  คือ  สหชาตปัจจัย ๑  สัมปยุตตปัจจัย ๒   อัญญมัญญปัจจัย ๓   ในขณะจิตเดียวเท่านั้น  มีหลายปัจจัยที่จะทำให้สภาพธรรมนั้นเกิดขึ้นเป็นไปชั่วขณะเดียว


    หมายเลข 6045
    26 ส.ค. 2558