ทบทวนปัจจัย - เหตุปัจจัย ๒
เวลาที่โลภมูลจิตดวงที่ ๑ เกิด เป็นปัจจัยให้เจตสิกเกิดร่วมด้วยกับรูป แต่เมื่อกล่าวโดยเหตุปัจจัย ไม่ใช่จิต แต่ต้องเป็นโมหเจตสิก และโลภเจตสิกซึ่งเป็นเหตุปัจจัย เพราะฉะนั้น ปัจจยุปบันของเหตุปัจจัย ๒ เหตุนี้ ก็คือเจตสิกอื่น ๆที่เกิดร่วมด้วย และโลภมูลจิตและจิตตชรูป
เวลาที่กล่าวถึงจิตตชรูป ไม่ได้หมายความว่ารูปนั้นเกิดเพราะจิตประเภทเดียว แต่ต้องเกิดเพราะจิตและเจตสิกซึ่งเกิดร่วมกันเป็นปัจจัย เพราะฉะนั้นเวลาที่โลภมูลจิตเกิดขึ้น อย่าลืมว่านอกจากเจตสิกจะเกิดร่วมกันแล้ว ก็ยังมีรูปเกิดร่วมด้วย รูปของโลภมูลจิต ดีไหม ? รูปของโลภมูลจิตหรือว่ารูปที่เกิดเพราะโลภมูลจิตเป็นปัจจัย ดีหรือไม่ดี ? โลภมูลจิตเป็นอกุศล เพราะฉะนั้นจิตตชรูป คือ รูปซึ่งเกิดเพราะโลภมูลจิต จะเป็นรูปที่ดีหรือว่าไม่ดี ? เป็นอนิฏฐารมณ์ หรือเป็นอนิฏฐารมณ์ ?
“ดี” ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่า เป็นกุศลหรืออกุศล เพราะเหตุว่ารูปเป็นกุศลหรืออกุศลไม่ได้
เวลาที่โลภมูลจิตเกิดขึ้น แล้วก็โลภมูลจิตดวงที่ ๑ เป็นโสมนัสสหคตัง ทิฏฐิคตสัมปยุตตัง อสังขาริกกัง เวลาที่มองดูการกระทำของบุคคลที่มีความเห็นผิด มีการกระทำทางกายต่าง ๆ มีการกราบไหว้สิ่งที่เคารพซึ่งด้วยความเห็นผิด ไม่ใช่ด้วยความเห็นถูก อาจจะมีวาจาที่กล่าวสรรเสริญสิ่งที่เคารพด้วยความเห็นผิด ไม่ใช่ด้วยความเห็นถูก ในขณะเหล่านั้นทั้งหมดเป็นอะไร ? เป็นจิตตชรูปที่เกิดเพราะความเห็นผิด เพราะฉะนั้นการกราบไหว้ ดูเพียงภายนอกนี้ ดีหรือไม่ดี ? แต่ถ้าไหว้ผิด กราบผิด ด้วยความเห็นผิด ดีหรือไม่ดี ? เพราะฉะนั้นก็จะมองเห็นได้ว่า อาการภายนอกย่อมเกิดจากจิต ซึ่งยากที่จะรู้ได้ แม้การกราบไหว้ ถ้าเป็นการกราบไหว้ด้วยจิตที่ผ่องใส ด้วยปัญญาหรือว่าด้วยความเห็นถูก อันนั้นก็เป็นผลของกุศลจิต แต่ถ้ากราบไหว้สรรเสริญในสิ่งที่ผิด อันนั้นก็เป็นผลของอกุศลจิต
ประวิทย์ แล้วคนอื่นที่ได้ยินในขณะนั้น สมมติว่าเป็นการสรรเสริญคนที่ผิด โสตวิญญาณของคนที่ได้ยิน จะเป็นกุศลวิบากหรืออกุศลวิบาก ?
ท่านอาจารย์ ควรจะต้องเป็นอะไร ?
ประวิทย์ อกุศลวิบาก
ท่านอาจารย์ สำหรับโดยเหตุปัจจัย มีข้อสงสัยอะไรอีกไหม