อกุศลวิบากซึ่งไม่ประกอบด้วยเหตุ...มี ๗ ประเภท

 
พุทธรักษา
วันที่  20 มี.ค. 2552
หมายเลข  11703
อ่าน  1,357

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

คุณหนูอี๊ด ที่ท่านอาจารย์บอกว่า ชวนะแรก จะเป็นโลภะ เป็นความพอใจ ทางมโนทวาร
แม้กระทั่งสัตว์นรกหรือคะ

ท่านอาจารย์ ทั้งหมดค่ะ ยังไม่รู้ว่าเกิดในนรก ก็ได้ ใช่ไหม เพียงปฏิสนธิจิตเกิดขึ้น เร็วมากเลย สภาพธรรมที่เกิดดับ ความพอใจที่ยังมีชีวิต หรือ เป็นภาวะที่ที่มีชีวิต

คุณหนูอี๊ด ปกติแล้ว อกุศล จะมีมากกว่า กุศลสงสัยว่า ทำไมเวลาที่เป็นวิบาก ถึงไม่มีอกุศลอยู่ในวิบากเลย แม้กระทั่งจิตที่เป็นวิบาก ของพวกสัตว์นรก

ท่านอาจารย์ วิบากจิต เป็น ผลของกรรม ถ้าเป็นอกุศลวิบาก ขณะนั้น ชื่อบอกแล้วว่า อกุศลวิบาก ไม่ใช่ อกุศลจิตตัว"เหตุ" คือ อกุศลจิต "ผล" คือ อกุศลวิบาก

คุณหนูอี๊ด จิตที่เป็นวิบาก (ซึ่ง) เป็นผลอันนั้น มีเจตสิก ที่เป็นอกุศลอันนั้น ประกอบ (ด้วย)

ท่านอาจารย์ ไม่มีเลย เพราะว่า อกุศลจิต ๑๒ ประเภท เกิดเมื่อไร ก็เป็นอกุศลจิต เท่านั้น เป็นอื่นไม่ได้เลย อกุศลจิต เป็น เหตุ ที่ทำให้เกิด ผล คือ อกุศลวิบาก ซึ่งได้แก่ อกุศลวิบาก ๗ ประเภท เท่านั้นเอง แค่ ๗

คุณหนูอี๊ด แล้วทำไม เจตสิกที่ดีงาม จึงประกอบในวิบากจิตได้แต่ เจตสิกที่ไม่ดี จึงประกอบในวิบากจิตไม่ได้

ท่านอาจารย์ ขณะที่อกุศลกรรมให้ผล ขณะนั้น มีปัญญาไหม ที่จะเกิดต่อไปข้างหน้า ขณะที่อกุศลกรรมให้ผล ทำให้อกุศลวิบากเกิด จะมีปัญญาในอกุศลวิบากไหม - ไม่มี เพราะเป็นผลของอกุศลกรรม

คุณหนูอี๊ด ทำไมขณะที่เป็นภวังคจิต เจตสิกที่ดีงามจึงเกิดกับภวังคจิตได้

ท่านอาจารย์ แล้วแต่ว่าจะเกิดที่ไหน ถ้าเกิดในนรก ไม่ใช่กุศลวิบากจิต ก็ต้องเป็นอุเบกขาสันตีรณอกุศลวิบากจิต ๑ ใน ๗ ของ อกุศลวิบากจิต มีเพียง ๗ เท่านั้น แล้วอกุศลวิบาก ที่ทำปฏิสนธิกิจ คือ อุเบกขาสันตีรณอกุศลวิบากจิต ไม่มีโลภะ โทสะ โมหะ ซึ่งเป็น "เหตุ" เกิดร่วมด้วย ถ้าโลภะ เกิดเมื่อไร ขณะนั้น จิตเป็นอกุศล ซึ่งเป็น"เหตุ" ไม่ใช่ "ผล"

คุณหนูอี๊ด แต่ว่า อโลภะ อโทสะ อโมหะ ก็เป็น "เหตุ" แต่ก็ยังเกิดกับวิบากจิตได้

ท่านอาจารย์ นั่นคือความต่างกันของภพภูมิ ในการเกิด.
เกิดเป็นมนุษย์...ฟังอะไรก็เข้าใจได้ ฟังพระธรรมก็ได้ อบรมเจริญปัญญาก็ได้เพราะว่า พื้นของจิตขณะที่ปฏิสนธิเป็นผลของกุศลกรรม ที่ประกอบด้วยปัญญาสามารถที่จะอบรมเจริญปัญญา รู้แจ้งอริยสัจจธรรมก็ได้ต่างกับขณะที่เป็นผลของอกุศลกรรม.
อันที่จริง...น่าจะดีใจนะคะ ที่ไม่มีอกุศลจิต เกิดกับ อกุศลวิบากจิตไม่อย่างนั้นจะยิ่งแย่.......
และ น่าจะดีใจ..............เมื่อเป็นผลของกุศลกรรม แล้วยังคงมีปัญญาเกิดร่วมด้วยได้มีสัทธา มีหิริ มีโสภณเจตสิก เกิดร่วมด้วยได้.
.
คุณหนูอี๊ด
ที่สงสัย เพราะว่าเมื่อมีภวังคจิต เหมือนกับว่ามีแต่จิตที่ดีงาม.!
.
ท่านอาจารย์

ไม่ใช่มีแต่สิ่งที่ดีงาม...แล้วแต่ว่า ภวังคจิตนั้น เป็นผลของกรรมอะไร.
ถ้าเป็นผลของอกุศลกรรม

จะไม่มีโสภณเจตสิก หรือ อกุศลเจตสิก เกิดร่วมด้วยได้เลย.
มีแต่จิตที่เป็นอเหตุกะ หมายถึง จิตที่ไม่มีเหตุเกิดร่วมด้วยและในบรรดา อกุศลวิบากจิต ๗ ประเภท คือ
จักขุวิญญาณ อกุศลวิบาก ๑. โสตวิญญาณ อกุศลวิบาก ๑. ฆานะวิญญาณ อกุศลวิบาก ๑. ชิวหาวิญญาณ อกุศลวิบาก ๑. กายวิญญาณ อกุศลวิบาก ๑. สัมปฏิจฉน อกุศลวิบาก ๑. สันตีรณ อกุศลวิบาก ๑.อกุศลกรรม ให้ผลเป็น อกุศลวิบากซึ่งไม่ประกอบด้วย เหตุ เลยมี ๗ ประเภทเท่านั้น

พื้นฐานอภิธรรมวันอาทิตย์ ที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๑ ณ อาคารมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา บรรยายโดย อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ถอดเทปโดย คุณย่าสงวน สุจริตกุล



ขออนุโมทนา


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
เมตตา
วันที่ 22 มี.ค. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
panasda
วันที่ 19 มิ.ย. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
chatchai.k
วันที่ 19 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ