สนทนาธรรมที่สระบุรี...[๕] ลูกศรที่มองไม่เห็น

 
เมตตา
วันที่  25 ธ.ค. 2552
หมายเลข  14867
อ่าน  2,948

ลูกศร คือ กิเลสของแต่ละคนที่ปักอยู่ที่ใจ กิเลส ก็คือ โลภะ โทสะ โมหะ เป็นลูกศรที่มองไม่เห็นซึ่งเป็นกิเลสที่สะสมอยู่ภายในของจิต ทุกคนกำลังพล่านไปด้วยลูกศรที่ปักอยู่ตามกำลังของกิเลส เมื่อถูกกิเลสเสียดแทงก็เต็มไปด้วยทุกข์ต่างๆ นาๆ ตราบใดที่ยังไม่ได้ถอนลูกศร ความทุกข์ก็จะตามมาไม่รู้จบ ต้องทนทุกข์อยู่ในสังสารวัฏฏ์ มีทางใดที่จะถอนลูกศรคือกิเลสออกไปได้ ก็มีแค่หนทางเดียวคือ การอบรมเจริญปัญญารู้ลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริงค่อยๆ ดับกิเลสที่อยู่ ภายในจนหมดสิ้นเป็นสมุจเฉท พ้นจากทุกข์ทั้งปวง

ขออนุโมทนาค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
orawan.c
วันที่ 25 ธ.ค. 2552

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
pucca
วันที่ 25 ธ.ค. 2552

ขอบคุณ คุณเมตตาและขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
วิริยะ
วันที่ 25 ธ.ค. 2552

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ที่พึ่งที่ระลึก
วันที่ 25 ธ.ค. 2552

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
khampan.a
วันที่ 25 ธ.ค. 2552

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ ๓๖๔

ข้อว่า อตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ องฺคณํ (บางคนไม่รู้ตามความจริงว่า กิเลสเพียงดังเนินของเรา ยังมีอยู่ในภายใน) ความว่า ไม่รู้ว่า กิเลสมีอยู่ในตัวเรา คือ ในจิตสันดานของเรา คือ ไม่รู้โดยถ่องแท้ อย่างนี้ว่า ธรรมดากิเลสเหล่านี้ หยาบคาย ร้ายแรงควรละทิ้ง ไม่ควรเอาไว้คล้ายกับลูกศรอาบยาพิษ ก็ปานกัน.

* ในสังสารวัฏฏ์ที่เกิดมา เราได้สะสมกิเลสมามาก (กิเลส เป็นเครื่องเศร้าหมองของจิตใจ เป็นนามธรรม ไม่มีรูปร่าง) เมื่อสะสมกิเลสมามาก กิเลสจึงเกิดมากเป็นธรรมดาและที่สำคัญ ปัญญายังน้อย พร้อมทั้งเจริญช้าอีกด้วย เมื่อปัญญายังน้อย ก็ย่อมไม่มีกำลังที่จะดับกิเลสได้ กิเลสจึงเกิดบ่อยมาก ถูกลูกศรหลายต่อหลายดอกปักในชีวิตประจำวัน เมื่อมีกิเลสมากอย่างนี้ จึงต้องอบรมเจริญปัญญาต่อไป เพราะกิเลสที่มีมากต้องอาศัยปัญญาเท่านั้นจึงจะดับให้หมดสิ้นได้ *

... ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ ...

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
wannee.s
วันที่ 26 ธ.ค. 2552

ขณะที่สติปัฏฐานเกิด ขณะนั้นกิเลสก็ไม่เกิดค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
paderm
วันที่ 26 ธ.ค. 2552

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 78

หากว่าสัตว์นั้นมีความรักใคร่มีความ พอใจเกิดแล้ว กามเหล่านั้นย่อมยังเขาให้ ย่อยยับไป เหมือนบุคคลถูกลูกศรแทงแล้ว ย่อมพินาศ ฉะนั้น.

อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
คุณ
วันที่ 27 ธ.ค. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
pamali
วันที่ 29 พ.ย. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ ..สาธุ..

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
patnaree
วันที่ 21 ส.ค. 2556

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
สิริพรรณ
วันที่ 9 ม.ค. 2559

กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
chatchai.k
วันที่ 14 ม.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ