ยามต้องการเหตุผลย่อมปรารถนาบัณฑิต

 
ธรรมทัศนะ
วันที่  19 ก.ค. 2549
หมายเลข  1632
อ่าน  1,484

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เอกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๒ - หน้าที่ 325
๒. มหาสารชาดก
ยามคับขัน ย่อมปรารถนาผู้กล้าหาญ
ยามปรึกษางาน ย่อมปรารถนาคนผู้ไม่พูดพล่าม
ยามมีข้าวน้ำ ย่อมปรารถนาผู้เป็นที่รักของตน
ยามต้องการเหตุผล ย่อมปรารถนาบัณฑิต


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
thepoco
วันที่ 20 ก.ค. 2549
คบบัณฑิต ย่อมพาไปหาผล จงใช้สติปัญญาของเราไตร่ตรองให้ดีนะครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 20 ก.ค. 2549

พระอภิธรรมปิฎก ธรรมสังคณี เล่ม ๑ ภาค ๑- หน้าที่ ๓๖๖

[๖๗] สติ มีในสมัยนั้น เป็นไฉน ?
สติ ความตามระลึก ความหวนระลึก
สติ กิริยาที่ระลึก ความทรงจำ ความไม่เลื่อนลอย ความไม่ลืม
สติ สตินทรีย์ สติพละ สัมมาสติ
ในสมัยนั้นอันใด นี้ชื่อว่า สติมีในสมัยนั้น.

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 20 ก.ค. 2549

จะรู้ได้อย่างไรว่ามีสติ
ในขณะที่รู้ลักษณะของสภาพธรรม เช่น รู้ว่าความแข็งเป็นรูปธรรมอย่างหนึ่ง การเห็นเป็นนามธรรมอย่างหนึ่ง ก็รู้ได้ว่าขณะนั้นมีสติ ข้อสำคัญก็คือรู้ว่าขณะหลงลืมสติและขณะมีสตินั้นต่างกัน เช่น ขณะที่เดินหรือรับประทานอาหารนั้น บางครั้งก็หลงลืมสติ และบางขณะก็มีสติ ซึ่งก็จะรู้ความต่างกันได้ด้วยตัวเอง สติอาจจะเกิดขึ้นบ้างหลังจากที่หลงลืมสติไปมาก สภาพที่ระลึกรู้ลักษณะของนามธรรมและรูปธรรมที่ปรากฏในขณะนั้นเป็นสติ ไม่ใช่ตัวตน เราบังคับให้สติเกิดไม่ได้ เพราะสติเป็นนามธรรมชนิดหนึ่งไม่ใช่ตัวตน สติจะเกิดได้ก็เมื่อมีเหตุปัจจัย

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 20 ก.ค. 2549

สติทำกิจระลึก ปัญญาทำกิจรู้ความจริง ฉะนั้น ขณะที่สติปัฏฐานเกิดขึ้นพร้อมด้วยสติและสัมปชัญญะ จึงรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง ตามระดับของสติปัญญาของแต่ละคน ซึ่งความคมกล้าของปัญญาไม่เท่ากัน

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
wannee.s
วันที่ 27 เม.ย. 2550

บัณฑิตอยู่ปะปนกับพวกคนพาล เมื่อไม่พูด ก็รู้ไม่ได้ว่าเป็นบัณฑิต แม้พูดก็ต้องแสดงอมตธรรม จึงจะรู้ได้ว่าเป็นบัณฑิต

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
suwit02
วันที่ 27 ธ.ค. 2551

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
เซจาน้อย
วันที่ 28 ธ.ค. 2551

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
pornpaon
วันที่ 28 ธ.ค. 2551
ขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
chatchai.k
วันที่ 27 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ