ร่วมพิธีถวายพระรัตนบุษยภาชน์อโศกมหาราชปริวรรต 2

 
kanchana.c
วันที่  12 ธ.ค. 2555
หมายเลข  22163
อ่าน  1,954

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สมทบกับทัพหลวงที่พุทธคยา

หลังจากถวายผ้าป่าที่สมาคมมหาโพธิ์ที่โกลกาตาแล้ว ก็รีบนั่งรถไปสนามบินเพื่อขึ้น แอร์อินเดียไปคยาเวลา 13.30 น. หลังรับประทานอาหารกล่องที่สนามบินแล้วก็ผ่านขั้น ตอนการตรวจสอบอย่างละเอียดทุกทางเข้า กว่าจะได้ไปนั่งรอขึ้นเครื่องได้ก็เหนื่อย อ่อน แต่เอาเข้าจริงๆ เครื่องดีเลย์ไปชั่วโมงกว่า ที่ตั้งใจว่าจะไปยืนเข้าแถวรอรับคณะ ท่านอาจารย์ที่สนามบินคยานั้นก็เป็นเพียงความหวัง ไม่เป็นจริง แต่ถึงจะเป็นจริงหรือ ไม่จริงอย่างไร ต่างก็ต้องผ่านไป ไม่กลับมาอีกเหมือนสภาพธรรมทั้งหลายที่มีแต่จะไป ข้างหน้าอย่างเดียว เหมือนการเดินทางท่องเที่ยวไปในวัฏฏะ ไม่ย้อนกลับมาเป็นคนนี้ ได้อีก ถึงได้เรียกว่า ความเป็นไป คือเกิดเป็นคนนั้นคนนี้ให้ยึดมั่นในภพชาติต่างๆ แล้ว ก็ไปข้างหน้าเรื่อยๆ ไม่สิ้นสุด ถ้ารู้ความจริงอย่างนี้ด้วยปัญญา ไม่ใช่ด้วยสัญญาความจำ ที่ยังไม่มั่นคงอย่างขณะนี้ ก็คงจะละคลายความติดข้องได้บ้าง

แต่ถึงเครื่องจะดีเลย์อย่างไร ก็ยังทันคณะท่านอาจารย์อีกกลุ่มหนึ่งที่มาโดยแอร์ อินเดียที่กำลังรอกระเป๋าอยู่ที่สายพาน จึงได้ทักทายกันอย่างดีใจ ราวกับไม่เคยเห็นกัน มานาน เพราะความคุ้นเคยจากการฟังธรรมร่วมอาจารย์เดียวกันมาหลายปี จนเหมือน ญาติสนิทที่มาทำบุญร่วมกันนั่นเอง เดินทางออกจากสนามบินเกือบห้าโมงเย็น ไปโรงแรม Tajdarbar ที่เคยมาพักเมื่อปี ก่อนโน้น โรงแรมปรับปรุงภูมิทัศน์ใหม่ดูดีขึ้น แต่ข้างในก็ยังไม่มีดาวเหมือนเดิม โรงแรม ก็ดีบ้าง ไม่ดีบ้าง ตามกุศลวิบากและอกุศลวิบากที่ต้องได้รับ เพราะวันๆ ก็ไม่ได้ทำแต่ กุศลอย่างเดียว อาจทำอกุศลมากกว่าด้วยซ้ำ ในโรงแรมเดียวกัน เพื่อนบางคนได้ ห้องดีแต่เราได้ห้องไม่ดี ทั้งๆ ที่อยู่ติดกัน แต่ก็ชดเชยกับอาหารที่โรงแรมนี้อร่อย มีทั้งผัด กระเพราไก่ ไข่เจียว และต้มยำไก่ แถมคุณเล็ก สุรภา ยังนำอาหารไปเสริมอีกมากมาย เพียงพอสำหรับทุกคนและทุกมื้อเช่น ไข่เค็ม ปลาสลิดทอดกรอบ หมูหยอง น้ำพริกกุ้ง เสียบ ผักกาดดอง และอีกหลายอย่าง

เมื่อเข้าห้องพักเรียบร้อย ก็รีบเตรียมตัวจัดโคมประทีปเพื่อเวียนเทียนร่วมกับคณะ ท่านอาจารย์ที่ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ยังไม่หกโมงเย็น ท้องฟ้าก็มืดมิดเสียแล้ว เมื่อลง จากรถบัส เดินผ่านทางเข้าพระเจดีย์ที่ประดับด้วยธงทิวสวยงาม ผู้คนมากมายขวักไขว่ ยิ่งเมื่อเดินเข้าไปยังบริเวณพระเจดีย์ ผู้คนก็ยิ่งหนาแน่น ทั้งเดินเข้าเดินออก มีทั้งชาว ศรีลังกา พม่า ธิเบต เวียดนาม เดินไปจนพบคณะท่านอาจารย์ที่มีพระผู้ใหญ่ชาว ศรีลังกาจากสมาคมมหาโพธิ์ กำลังเดินนำหน้าออกมาเวียนเทียนประทักษิณรอบพระ เจดีย์พอดี จึงเดินตามไปทันที ไม่ได้รอคนอื่นๆ เนื่องจากผู้คนหนาแน่นมาก พระคุณ เจ้าหายไปไหนก็ไม่ทราบ เหลือแต่ท่านอาจารย์และคณะไม่ถึง ๑๐ คน (รวมทั้งเราด้วย) เดินตามกันไป มองไม่เห็นคนอื่นๆ ในคณะ แต่ก็เดินตามท่านไปเงียบๆ ไม่ได้ระลึกถึง พระพุทธคุณอย่างที่ควรจะเป็น ตาก็มองดูผู้คน ไม่ค่อยชอบใจที่คนเยอะ ดูไม่สงบ เหมือนทุกครั้งที่มา ความจริงไม่ใช่คนเยอะหรอกที่ทำให้ไม่สงบ ใจของเราต่างหากที่ ไม่สงบ ควรจะอนุโมทนาผู้มีศรัทธาจากทั่วโลก ที่มากราบนมัสการในโอกาสครบรอบ ๒,๖๐๐ ปี ที่ทรงตรัสรู้และแสดงธรรม ถ้ากุศลจิตเกิดก็จะสงบจากอกุศล แต่เพราะยังติด ข้องอยู่กับการได้นั่งเงียบๆ ใต้พระศรีมหาโพธิ์ เหมือนอย่างที่เคยทำทุกครั้ง จึงไม่สงบ เพราะความไม่ชอบใจที่มีสาเหตุมาจากความติดข้องนั่นเอง

เมื่อคณะมาพร้อมกันแล้ว คุณธีรพันธุ์นำกล่าวคำขอขมาพระรัตนตรัย ที่อาจจะพลาด พลั้งล่วงเกินด้วยกาย วาจา ใจ เพื่อสำรวมระวังในโอกาสต่อไป และพากันเดินข้ามถนน ไปสมาคมมหาโพธิ์ที่มีพวกเราอีกกลุ่มหนึ่งนั่งรออยู่ก่อนแล้ว

หลังจากนั่งคอยนานพอสมควรว่า จะทำอะไรต่อไปนั้น ก็ได้ไปกราบนมัสการพระบรม สารีริกธาตุ และพระธาตุของท่านพระสารีบุตร และท่านพระโมคคัลลานะที่สมาคมมหา โพธิ์ คยา ผู้คนหนาแน่นเช่นเคย น้องเผ่าทิพย์นำพวงมาลัยที่สวยมากมาฝากจาก กรุงเทพ ได้ข่าวว่าเป็นฝีมือชาววัง เพื่อให้บูชาพระบรมสารีริกธาตุ ขออนุโมทนาค่ะ ได้เวลาพักผ่อนที่โรงแรมแล้วค่ะ แต่กว่าจะขึ้นรถพร้อมกันได้ก็วุ่นวายพอสมควร เพราะมีหลายกลุ่ม หมายเลขรถก็เหมือนกัน และก็มืดด้วย ต้องคอยตามเรียกคนที่ขึ้นรถ ผิด เห็นหรือยังว่า แต่ละวันในอินเดียนั้นวุ่นวายขนาดไหน เมื่อยล้าไปหมด ยังดีที่ได้ น้องนัท นลินภัสร์ สุขในธนาศิลป์ ผู้เชี่ยวชาญด้านกัวซา มาทำกัวซาให้ระหว่างรอ เครื่องดีเลย์ที่สนามบินโกลกาตา และหลังจากนั้นก็มีคนจองคิวยาวเหยียด ทราบว่า เธอเจริญกุศลช่วยรักษาคนเจ็บปวดเมื่อยตามที่ต่างๆ ของร่างกายให้หายป่วยได้หลาย คน จนตัวเองป่วย ขออนุโมทนาอีกครั้งค่ะ (ที่ทำให้คนหายป่วย ไม่ได้อนุโมทนาที่ป่วย เพราะเป็นคนละเหตุการณ์ การทำให้คนหายป่วยเป็นกุศลกรรม อาจจะยังไม่ให้ผลทันที แต่ที่ป่วย เป็นผลของอกุศลกรรมที่ทำสำเร็จแล้ว ทำเมื่อไรก็ไม่รู้ แต่ก็ได้รับผลนั้นแล้ว)


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
นิรมิต
วันที่ 13 ธ.ค. 2555

กราบอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ผู้ร่วมเดินทาง
วันที่ 13 ธ.ค. 2555

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาพี่แดง และทุกๆ ท่าน ด้วยครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
j.jim
วันที่ 13 ธ.ค. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 13 ธ.ค. 2555

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
panasda
วันที่ 13 ธ.ค. 2555

ขอขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ธนัตถ์กานต์
วันที่ 14 ธ.ค. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
aditap
วันที่ 14 ธ.ค. 2555

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
เมตตา
วันที่ 14 ธ.ค. 2555

...กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาพี่แดง ด้วยค่ะ...

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่ 14 ธ.ค. 2555

"...ไม่ได้ระลึกถึงพระพุทธคุณอย่างที่ควรจะเป็น

ตาก็มองดูผู้คน ไม่ค่อยชอบใจที่คนเยอะ ดูไม่สงบเหมือนทุกครั้งที่มา

ความจริงไม่ใช่คนเยอะหรอกที่ทำให้ไม่สงบ

ใจของเราต่างหากที่ไม่สงบ..."

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในความเป็นผู้ตรงของพี่แดงครับ

ผมเองก็เช่นเดียวกันครับ

แต่การเป็นผู้ศึกษาธรรม ทำให้ได้คิดพิจารณา เป็นบททดสอบความเข้าใจได้ดีครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
เข้าใจ
วันที่ 15 ธ.ค. 2555

กราบอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
Boonyavee
วันที่ 15 ธ.ค. 2555

ขอกราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาคุณแม่แดงค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
khampan.a
วันที่ 16 ธ.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

"...ความจริงไม่ใช่คนเยอะหรอกที่ทำให้ไม่สงบ

ใจของเราต่างหากที่ไม่สงบ..."

เป็นเครื่องเตือนใจที่ดี ครับ

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของอาจารย์กาญจนา และ ทุกๆ ท่านด้วยครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่ 16 ธ.ค. 2555

ปล. ลืมกราบเรียนพี่แดงครับว่า

ฟังชื่อตอน "สมทบกับทัพหลวงที่พุทธคยา" แล้วรู้สึกตื่นเต้น

ราวกับว่า พม่ายกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยา เห็นปานนั้น นะครับ

จะรออ่านตอนต่อไปครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
ผิน
วันที่ 17 ธ.ค. 2555

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
jaturong
วันที่ 20 ธ.ค. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ