ร่างทรง

 
นิรมิต
วันที่  21 ธ.ค. 2555
หมายเลข  22213
อ่าน  4,126

กราบสวัสดีท่านวิทยากรและมิตรธรรมทุกท่าน

อยากขอเรียนถามว่า โดยความเข้าใจของคนทั่วไป "ร่างทรง" คืออะไร แล้วในความเป็นจริงแล้ว เป็นอย่างไร มีได้ไหม ได้เพราะเหตุใด ไม่ได้เพราะเหตุใด

ขอบพระคุณครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 23 ธ.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

เมื่อไม่ได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ ก็ไปทำอะไรด้วยความไม่รู้ ด้วยความไม่เข้าใจ ด้วยความเห็นผิด ประการต่างๆ มากมาย ไม่เป็นไปเพื่อความเจริญขึ้นของปัญญาและกุศลธรรมทั้งหลายทั้งปวงเลย ไม่เป็นไปตามคำสอนที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงด้วยตนเอง มากไปด้วยความไม่รู้ แล้วยังส่งเสริมให้ผู้อื่นเกิดความไม่รู้ เกิดความงมงายเพิ่มมากยิ่งขึ้นด้วย แสดงให้เห็นตามความเป็นจริงว่า ความไม่รู้และความเห็นผิดนั้น ตลอดจนถึงกิเลส อกุศลธรรมทั้งหลายทั้งปวงนั้น ไม่นำมาซึ่งคุณประโยชน์ใดๆ เลย

แม้แต่ในเรื่องร่างทรง ก็เช่นเดียวกัน เป็นการกระทำของคนผู้ไม่รู้ นั่นเอง การเข้าทรงหรือร่างทรง ไม่มีในคำสอนทางพระพุทธศาสนาเลย จะเห็นได้ว่า ไม่มีคำสอนในทางพระพุทธศาสนาแม้แต่บทเดียว ที่จะส่งเสริมให้คนงมงายเลย หรือให้เกิดอกุศล พระธรรมที่พระองค์ทรงแสดงตลอด ๔๕ พรรษา เป็นไปเพื่อปัญญา ความรู้ความเข้าใจถูกเห็นถูกโดยตลอด

ที่จะพ้นไปจากความไม่รู้ และ ความเห็นผิดได้ ก็ต้องด้วยการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปตามลำดับ ไม่ประมาทในพระธรรมแต่ละคำๆ ที่ได้ยินได้ฟัง ครับ

ขอเชิญคลิกอ่านข้อความเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ

ร่างทรง องค์เจ้า

การทรงเจ้า ... ร่างทรง

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
paderm
วันที่ 23 ธ.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

จากคำถามที่ว่า โดยความเข้าใจของคนทั่วไป "ร่างทรง" คืออะไร ร่างทรงในความหมายของคนทั่วไป ก็คือ บุคคลที่สามารถจะรับจิต วิญญาณของผู้อื่นที่จากไปแล้ว หรือ จากจิตวิญญาณของผู้อื่นที่เป็นเทพ เทวดา มาสิงสถิตอยู่ในร่างกายของตนเองได้ ครับ

จากคำถามที่ว่า แล้วในความเป็นจริงแล้ว ร่างทรงเป็นอย่างไร มีได้ไหม ได้เพราะเหตุใด ไม่ได้เพราะเหตุใด

ซึ่งในความเป็นจริงที่เป็นสัจจะตามที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงนั้น จิตของแต่ละคนก็ของแต่ละคน ไม่มีใคร หรือ ไม่มีจิตของคนใดมาสิงสถิตอยู่ที่ร่างกายของคนอื่นได้เพราะ ความจริง คือ จิตเกิดขึ้นและดับไป ไม่เที่ยงเลย จิตเกิดที่ไหน ดับที่นั่น จึงไม่มีจิตที่เที่ยง ยั่งยืน จะมาอยู่สิงในร่างกายของคนอื่นได้ ครับ

อีกอย่างหนึ่ง จิตเมื่อเกิดขึ้น จะต้องมีที่เกิด ซึ่ง เรียกว่า วัตถุ ซึ่งที่เกิดของจิต มี ๖ คือจักขุ (ตา) หู จมูก ลิ้น กาย และ หทยรูป เพราะฉะนั้น การที่จิตอื่นจะมาอยู่ มาสิงในร่างกายคนอื่นจึงไม่ใช่ฐานะ เพราะ จิตของบุคคลอื่น จะมาเกิดในรูปของคนอื่นไม่ได้ต้องเกิดที่รูปของบุคคลนั้นเองเป็นสำคัญ ครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
nopwong
วันที่ 24 ธ.ค. 2555

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
chatchai.k
วันที่ 21 ม.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ