ผู้ที่รักษาศีล 5 เมื่อตายไปจะพ้นอบายภูมิหรือไม่

 
chatchai.k
วันที่  27 มี.ค. 2558
หมายเลข  26396
อ่าน  2,293

ผู้ที่ไม่ล่วงศีล 5 แต่ล่วงอกุศลกรรมบทบางประการที่ไม่ได้อยู่ในศีล 5 เช่น พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ และ พูดเพ้อเจ้อ เมื่อตายไปเป็นเหตุให้เกิดในอบาย เช่น นรก สัตว์เดรัจฉาน ได้หรือไม่ครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 27 มี.ค. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาัสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

วจีทุจริตมี ๔ ประการ คือ

การพูดเท็จ การพูดคำหยาบ การพูดส่อเสียด และการพูดเพ้อเจ้อ

ผู้ที่เป็นปุถุชนยังไม่สามารถละวจีทุจริต ๔ ประการได้คือเมื่อมีเหตุปัจจัยก็สามารถเกิดวจีทุจริตประการใดประการหนึ่งได้ ผู้ที่เป็นพระโสดาบันสามารถละการพูดเท็จและการพูดส่อเสียดได้ พระสกทาคามีก็เช่นกันสามารถละการพูดเท็จ การพูดคำส่อเสียดได้ พระอนาคามีสามารถละวจีทุจริตได้คือละการพูดเท็จ ละการพูดส่อเสียด ละการพูดคำหยาบ แต่ยังละการพูดเพ้อเจ้อไม่ได้ ส่วนพระอรหันต์เท่านั้นที่จะละการพูดเพ้อเจ้อและวจีทุจริตทั้งหมดได้ ครับ

ที่สำคัญแม้พระอริยบุคคลที่ยังไม่ใช่พระอรหันต์ แม้ท่านจะยังละวจีทุจริตในบางประการไม่ได้ แต่วจีทุจริตที่ท่านพูดออกมา เช่น พูดเพ้อเจ้อ แต่การพูดคำพูดเพ้อเจ้อของท่านไม่เป็นปัจจัยให้ต้องตกนรกหรือไปอบายภูมิ คือ ไม่เป็นอกุศลกรรมบถที่ครบองค์ที่จะต้องไปอบายครับ รวมทั้งการพูดคำหยาบของพระโสดาบันและพระสกทาคามีก็ไม่ได้ถึงกับรุนแรงทำให้ต้องไปอบายครับ

เพราะฉะนั้น วจีทุจริตของพระอริยบุคคลที่ไม่ใช่พระอรหันต์ แม้ยังมีอยู่ แต่ไม่มีกำลังมาก และไม่ถึงล่วงกรรมเป็นอกุศลกรรมบถที่จะทำให้ไปอบายภูมิ ต่างจากปุถุชนที่ยังมีวจีทุจริต ๔ ประการครบ และยังมีเหตุปัจจัยให้สามารถพูดในสิ่งที่ไม่ดีที่เป็นวจีทุจริต ๔ มีกำลัง คือ สามารถพูดเป็นกรรมที่เป็นอกุศลกรรมบถครบองค์ และเป็นเหตุให้ไปอบายภูมิได้ ต่างจากพระอริยบุคคลที่ไม่ใช่พระอรหันต์ แม้ท่านมีวจีทุจริตบางข้อ แต่วาจาที่เป็นอกุศลของท่านนั้นไม่มีกำลังมากเหมือนปุถุชนและไม่เป็นเหตุไปอบายภูมิ ครับ

ในชีวิตประจำวันจึงควรพิจารณาด้วยปัญญาและเห็นโทษของวาจาที่พูดกัน แม้จะยังละวจีทุจริต ๔ ประการไม่ได้ แต่ก็ค่อยๆ เห็นโทษของวาจาที่พูดประการต่างๆ ได้ อันเป็นไปเพื่อประโยชน์ของตนและผู้อื่นที่อยู่ร่วมกันในสังคม ปัญญานั่นเองที่จะทำให้เราดำเนินชีวิตอย่างถูกต้อง แม้แต่การใช้วาจาในการดำเนินชีวิตครับ เริ่มจากการฟังการศึกษาพระธรรม เมื่อปัญญาเจริญขึ้น ปัญญาจะขัดเกลากาย วาจาซึ่งเป็นไปตามกำลังของปัญญา

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 27 มี.ค. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขึ้นอยู่กับว่า กรรมใดจะให้ผลนำเกิด ซึ่งไม่สามารถจะรู้ได้เลย ตามความเป็นจริงแล้ว อกุศลกรรมบถ ทั้งหมด มีการฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม พูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ เป็นต้น เป็นเหตุให้ไปเกิดในบายภูมิ มีนรก เป็นต้น ได้ ไม่ใช่ทำให้เกิดในสุคติภูมิ เพราะการจะไปเกิดในสุคติภูมิซึ่งเป็นภพภูมิที่ดี กล่าวคือมนุษย์ภูมิและสวรรค์ ต้องเป็นผลของกุศลกรรมฝ่ายเดียว

เป็นเรื่องจริงที่ทุกคนควรพิจารณาว่า ไม่ควรจะเป็นผู้วางใจว่าจะไม่มีวันจะไปสู่บายภูมิ เพราะเหตุว่าผู้ที่จะพ้นจากบายภูมิได้นั้น คือ ผู้ที่รู้แจ้งอริยสัจจธรรมเป็นพระโสดาบันบุคคล เพราะฉะนั้น ตราบใดที่ยังไม่มีปัญญาถึงขั้นที่จะทำให้รู้แจ้งอริยสัจจธรรม ก็ยังมีโอกาสที่จะไปสู่บายภูมิได้ ถ้าไปเกิดในบายภูมิแล้ว ย่อมมีแต่ความทุกข์ทรมานไม่มีโอกาสที่จะเจริญกุศลประการต่างๆ ไม่มีโอกาสได้อบรมเจริญปัญญาด้วย

ในขณะนี้ทุกคนเกิดเป็นมนุษย์ ในมนุษย์ภูมิ มีชีวิตที่ดำเนินไปแตกต่างกันตามฐานะของตนๆ มีความสุขทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ ตามที่แต่ละบุคคลได้ประสบอยู่ แต่ถ้าเป็นบายภูมิแล้ว จะไม่เป็นอย่างนี้เลย จะไม่มีความสุขเหมือนอย่างนี้ เพราะฉะนั้น เมื่อได้เกิดมาเป็นมนุษย์แล้ว จึงไม่ควรที่จะประมาท การกระทำทางกาย ทางวาจา และทางใจ ก็ควรที่จะเป็นไปในทางที่ดีงามเท่านั้น ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น และที่ขาดไม่ได้เลย ก็คือ การฟังพระธรรมศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญาสะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปตามลำดับ เพราะเหตุว่าความเข้าใจถูกเห็นถูกนี้เอง จะเกื้อกูลให้ความประพฤติทางกาย ทางวาจา และทางใจในชีวิตประจำวันดำเนินไปในทางที่ดีงามยิ่งขึ้น ครับ

ขอเชิญคลิกอ่านข้อความเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ

สัพพลหุสสูตร .. ผลแห่งปาณาติบาต เป็นต้น

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
thilda
วันที่ 28 มี.ค. 2558

แต่ก่อนเข้าใจว่า รักษาศีล 5 อย่างเคร่งครัดก็จะไม่ไปสู่อบายภูมิ เดี๋ยวนี้คนที่เคยรู้จักกันก็ยังเชื่อเช่นนี้อยู่

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
papon
วันที่ 28 มี.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ms.pimpaka
วันที่ 30 มี.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
PanisaraA
วันที่ 30 มี.ค. 2558

เป็นหัวข้อที่ควรศึกษาอย่างละเอียด

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ธุลีพุทธบาท
วันที่ 2 เม.ย. 2558

กราบขอบพระคุณและอนุโมทนาอาจารย์ทั้งสองท่านเป็นอย่างสูง ครับ.

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
nong
วันที่ 4 เม.ย. 2558

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
wannee.s
วันที่ 15 เม.ย. 2558

พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ เป็นวจีทุจริต ถ้าพูดส่อเสียด เช่น พระเทวทัตพูดทำให้สงฆ์แตกแยกกัน มีโทษมากทำให้ตกนรก ส่วนพูดคำหยาบ ถ้าด่าพ่อแม่ผู้มีพระคุณ หรือ พระอริยบุคคลก็ทำให้ตกนรก ส่วนคำพูดเพ้อเจ้อ พูดให้เขาหัวเราะ พูดตลก พูดไม่มีสาระ ไม่มีประโยชน์ ทำให้คนฟังหลง เช่นนักฟ้อน ก็เป็นเหตุให้ตกนรกเหมือนกัน ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
chatchai.k
วันที่ 11 พ.ย. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
Jarunee.A
วันที่ 14 ธ.ค. 2566

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ