เรื่องที่ขัดขวางทางสวรรค์และนิพพาน

 
chatchai.k
วันที่  27 มี.ค. 2558
หมายเลข  26397
อ่าน  1,411

ข้อความในพระไตรปิฎกมีบางเรื่องที่ทรงแสดงไว้ว่า ขัดขวางทางสวรรค์และนิพพาน

ขอเรียนถามว่าเรื่องอะไรบ้างที่ขัดขวางทางสวรรค์และนิพพาน และเรื่องที่ขัดขวางทางไปสวรรค์และนิพพาน จะขัดขวางการเกิดเป็นมนุษย์ด้วยไหมครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 27 มี.ค. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

ติรัจฉานกถาหรือเดรัจฉานกถาคือคำพูดอันเป็นเครื่องปิดกั้นทางไปสวรรค์และทางแห่งความหลุดพ้น ปิดกั้นการบรรลุนิพพาน

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต เล่ม ๕ - หน้าที่ ๒๑๗

อรรถกถาปฐมวัตถุกถาสูตรที่ ๙

บทว่า ติรจฺฉานกถ ได้แก่ เรื่องที่ขัดขวางทางสวรรค์และนิพพานเพราะเป็นเรื่องที่ไม่นำสัตว์ออกทุกข์.

------------------------------------------------------------------------------

เพราะเหตุว่าขณะที่พูดเรื่องราวด้วยจิตเป็นอกุศล จิตที่เป็นอกุศลนั้นไม่ใช่ทางที่จะให้ผลไปสวรรค์และให้ผลด้วยการบรรลุธรรมได้เลยครับเพราะจิตเป็นอกุศลครับ

------------------------------------------------

เดรัจฉานกถา เมื่อไหร่เป็นเดรัจฉานกถา?

เดรัจฉานกถาคือคำพูดที่เป็นไปในเรื่องราวต่างๆ มีเรื่องราวของชาวบ้าน เรื่องราวของสิ่งต่างๆ ด้วยเจตนาที่เป็นอกุศลเจตนา อันมีความประสงค์จะพูดเรื่องราวที่ไม่มีประโยชน์ ดังนั้นเมื่อไหร่ที่มีเจตนา ต้องย้ำว่ามีเจตนานะครับ มีเจตนาที่เป็นอกุศลด้วยโลภะ เป็นต้น พูดเรื่องราวที่เป็นบุคคลต่างๆ สิ่งต่างๆ ด้วยจิตอกุศลไม่ใช่กุศล ขณะนั้นเป็นเดรัจฉานกถา คำพูดที่กั้นสวรรค์ มรรคผลนิพพาน

จะเป็นเดรัจฉานกถาเพราะเรื่องราวที่พูดหรือไม่?

จะเป็นกุศลหรืออกุศลจิตนั้นสำคัญที่จิตและสำคัญที่เจตนาครับ ดังนั้นคำพูดใดเป็นเดรัจฉานกถาก็สำคัญที่เจตนา ไม่ใช่เรื่องที่จะพูด สำคัญที่จิตครับ เช่น แม้จะพูดเรื่องราวของบุคคลอื่น เช่น เรื่องข้าว เรื่องน้ำ เรื่องโจร แต่พูดด้วยจิตที่เห็นถึงความไม่เที่ยงว่า แม้โจรคนนี้จะเก่งเพียงใดก็ต้องตาย มีความไม่เที่ยงเป็นที่สุด แม้ข้าว น้ำที่มีมากเพียงใด ข้าวและน้ำนั้นก็ต้องถึงความสิ้น เสื่อมไปเป็นธรรมดา คำพูดนี้ไม่ใช่เดรัจฉานกถา แม้จะกล่าวเรื่องของโจร เรื่องของข้าว เรื่องของน้ำ เพราะเจตนากล่าวด้วยจิตที่เป็นกุศล ด้วยจิตที่เห็นตามความเป็นจริงของสภาพธรรมที่ไม่เที่ยงโดยปรารภเรื่องราวในชีวิตประจำวัน แต่จิตขณะนั้นเป็นความเห็นถูก หากจิตเป็นกุศลแล้ว เรื่องราวที่พูดจะเป็นเดรัจฉานกถาไม่ได้เลยครับ

เชิญคลิกอ่านที่นี่ครับ...คำพูดที่ไม่เป็นเดรัจฉานกถา [ปฐมวัตถุกถาสูตร]

------------------------------------------------------------

อีกอย่าง แม้การถามสาระทุกข์ เมื่อพบปะกันก็ด้วยจิตที่เป็นกุศลได้ อกุศลก็ได้ เรื่องราวเดียวกัน แต่จิตต่างกัน ทักทายกันเพราะโลภะก็ได้ แม้จะคำพูดเดียวกัน แต่อีกบุคคลพูดด้วยจิตที่ดีงามเป็นกุศลหรือกิริยาจิตก็ได้ครับ ดังเช่น พระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ย่อมมีธรรมเนียมที่ปฏิบัติกันคือ ย่อมถามถึงสาระทุกข์ ถามถึงความเป็นไปของภิกษุผู้อาคันตุกะที่มาถึง ว่าเธอพออดทนได้หรือ ถามถึงความเป็นไปต่างๆ ด้วยจิตที่ดี ดังนั้นเรื่องราวที่พูดจึงไม่ใช่การตัดสินว่าเป็นเดรัจฉานกถาครับ สำคัญที่จิตและเจตนาเป็นสำคัญครับ ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 27 มี.ค. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ดิรัจฉานกถา คือ พูดเรื่องอื่นซึ่งไม่ใช่เรื่องที่จะให้กุศลเจริญขึ้น ไม่ใช่เรื่องที่จะทำให้รู้แจ้งอริยสัจจธรรม คำพูดใดก็ตามที่ไม่ได้ทำให้กุศลธรรมเจริญขึ้น ไม่ได้เป็นไปเพื่อการรู้แจ้งอริยสัจจธรรม ก็เป็นคำที่ไม่ควรพูดจริงๆ เนื่องจากเป็นการพูดที่ทำให้อกุศลธรรมเกิดมากขึ้น เมื่ออกุศลเกิดขึ้นสะสมมากขึ้น ก็ไม่มีทางที่จะทำให้เกิดในสุคติภูมิ คือ เกิดเป็นมนุษย์หรือเกิดเป็นเทวดา และไม่สามารถทำให้รู้แจ้งอริยสัจจธรรมได้เลยครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
thilda
วันที่ 28 มี.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ms.pimpaka
วันที่ 30 มี.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
nong
วันที่ 4 เม.ย. 2558

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
wannee.s
วันที่ 15 เม.ย. 2558

ผู้ที่ทำอนัตตริยกรรม ฆ่าบิดา ฆ่ามารดา ฆ่าพระอรหันต์ ทำร้ายพระพุทธเจ้า ทำสังฆเภท ตายไปเกิดในนรก ห้ามมรรค ผล นิพพาน ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
Jarunee.A
วันที่ 7 ธ.ค. 2566

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ