ฟังพระธรรมที่บรรยายโดยท่านอาจารย์สุจินต์ และท่านวิทยากร มานานแล้วแต่ก็ยากที่จะเข้าใจ

 
tanrat
วันที่  20 เม.ย. 2558
หมายเลข  26472
อ่าน  986

ท่านอาจารย์จะกล่าวตลอดเวลา ว่าพระธรรมหากง่าย พระผู้มีพระภาคเจ้าก็ไม่ต้องทรงแสดงถึง 45 พรรษา ละเอียดทุกซอกทุกมุม แต่นี่ยากจริงๆ ยากอย่างไร ยากเพราะหากฟังไม่ดีก็จะคลาดเคลื่อน ผิดพลาด เช่นสัตบุรุษไม่ควรแส่หาเรื่อง ยากที่ว่าการฟังที่ไม่ตั้งจิตมั่น ว่าใครไม่ควรแส่หาเรื่อง ก็คิดว่าเป็นเราที่ไม่ควรแส่หาเรื่อง หากเข้าใจและมีการตั้งใจฟังที่ดี ก็จะเข้าใจได้ว่าสัตบุรุษจะไม่แส่หาเรื่อง เพราะท่านสะสมบารมีมามากมาย กิเลสก็เบาบางลง หากคิดว่าท่านทรงสอนให้เราทำ ก็ต้องบอกว่ายากมาก เพราะธรรมะเป็นอนัตตา เกิดแล้วดับทันที หมดแล้วค่ะ ขณะใหม่ก็มาแทน หากยังไม่ตาย จะกราบเรียนถามท่านอาจารย์ทั้งสองว่า สะสมการฟัง ฟังด้วยดี พิจารณาไตร่ตรอง นี่คือหนทางของการเข้าใจไหมคะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 20 เม.ย. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เป็นเรื่องที่ละเอียด ลึกซึ้ง แสดงถึงความเป็นจริงของสภาพธรรมแต่ละอย่างๆ ตามความเป็นจริง ไม่ว่าจะทรงแสดงในส่วนใดก็ตาม ย่อมไม่พ้นไปจากสภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ โดยโวหาร โดยพยัญชนะต่างๆ ทั้งหมดทั้งปวงเพื่อให้เข้าใจสภาพธรรมที่มีจริง อันเป็นธรรมที่ละเอียดยิ่ง ที่หาความเป็นสัตว์ เป็นบุคคล เป็นตัวตน ไม่ได้เลย สำคัญที่ความเข้าใจถูกเห็นถูกของผู้ที่ได้ฟังได้ศึกษาอย่างแท้จริง ถ้าเป็นผู้ที่มีความละเอียดรอบคอบ ไม่ประมาทพระธรรมว่าง่าย ศึกษาด้วยความตั้งใจ ความเข้าใจก็จะค่อยๆ เจริญขึ้นไปตามลำดับ พระธรรมแม้จะยาก แต่ก็ไม่เหลือวิสัยที่จะเข้าใจได้

สำคัญ คือ ไม่ขาดการฟัง ไม่ขาดการศึกษาพิจารณาไตร่ตรอง ไม่ว่างเว้นจากการฟังพระธรรม และมีจุดประสงค์ที่ถูกต้องในการศึกษาว่า เพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกในลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริง เรื่องการรู้แจ้งอริยสัจจธรรม เป็นเรื่องที่ไกลมาก คงยังไม่ต้องพูดถึงในชาตินี้ แต่จะต้องอาศัยกาลเวลาที่ยาวนาน ในการสะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกต่อไป เมื่อสะสมกุศลและอบรมเจริญปัญญาต่อไป เมื่อปัญญาเจริญขึ้นก็ย่อมจะเป็นเหตุให้ถึงการรู้แจ้งอริยสัจจธรรมถึงความเป็นพระโสดาบันได้

เข้าใจแค่ไหน ก็แค่นั้น จะให้มีความเข้าใจมากๆ ในทันทีทันใด ย่อมเป็นไปไม่ได้ พระธรรมในส่วนละเอียด ที่แสดงถึงจิตขณะต่างๆ เช่น โวฏฐัพพนจิต สันตีรณจิต เป็นต้น ถึงแม้จะยังไม่สามารถประจักษ์แจ้งตามความเป็นจริง ก็สามารถเริ่มสะสมเข้าใจในขั้นการฟังถึงความเป็นจริงของสภาพธรรมที่เป็นอนัตตา ที่เกิดขึ้นทำกิจหน้าที่ ตามเหตุปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น ซึ่งเมื่อกล่าวโดยสรุปแล้วมีแต่ธรรมเท่านั้นจริงๆ ก็คงจะต้องฟัง ต้องศึกษาต่อไป การไม่ศึกษา ย่อมไม่ควรครับ ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
tanrat
วันที่ 20 เม.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ธุลีพุทธบาท
วันที่ 20 เม.ย. 2558

กราบขอบพระคุณและอนุโมทนาอาจารย์ผเดิมเป็นอย่างยิ่ง ครับ.

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ดวงทิพย์
วันที่ 20 เม.ย. 2558

สาธุคะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
khampan.a
วันที่ 20 เม.ย. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระธรรมเป็นเรื่องที่เข้าใจยาก แต่ก็ไม่เหลือวิสัยสำหรับผู้ที่เห็นประโยชน์ และที่สำคัญ ต้องอาศัยกาลเวลาที่ยาวนานในการอบรมเจริญปัญญา ไม่ใช่เพียงแค่ชาติสองชาติเท่านั้น แต่นานทีเดียว จะต้องมีความอดทน มีความจริงใจ มีความเพียรที่จะฟังที่จะศึกษา ค่อยๆ สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อย มั่นคงในความจริงว่า สิ่งใด ถูก ก็ต้องถูก สิ่งใด ผิด ก็คือ ผิด ความจริงเป็นอย่างไร ก็เป็นจริงอย่างนั้นครับ

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ธุลีพุทธบาท
วันที่ 20 เม.ย. 2558

กราบขอบพระคุณและอนุโมทนาอาจารย์คำปั่นเป็นอย่างยิ่ง ครับ.

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
nopwong
วันที่ 20 เม.ย. 2558

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
ms.pimpaka
วันที่ 20 เม.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
peem
วันที่ 26 เม.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
ms.pimpaka
วันที่ 26 พ.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
Jarunee.A
วันที่ 26 พ.ย. 2566

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ