โอกาสที่จะได้ฟังธรรม ไม่มากและไม่นาน

 
nattawan
วันที่  3 ก.พ. 2559
หมายเลข  27423
อ่าน  1,063

ข้อความบางส่วนจากการสนทนาธรรมที่เชียงใหม่ ๓ ก.พ. ๒๕๕๙

# พระธรรมแต่ละคำ สำหรับละ ละความไม่รู้ ไม่รู้จึงติดข้องในสิ่งที่มีจริงเพียงชั่วคราวแล้วหมดไป ฟังเพื่อเข้าใจจริงๆ แต่ละคำอย่างรอบรู้ แจ่มแจ้ง ควรได้ฟังสิ่งที่ถูกต้องเพื่อสะสมความตรง ความเข้าใจ ความมั่นคงต่อไป

# โอกาสที่จะได้ฟังธรรม ไม่มากและไม่นาน หาได้ยากและมีค่ามาก อย่าได้ละโอกาสนั้นไป

# สามารถเข้าใจความจริงได้ทุกขณะ ถ้ามีปัญญา

# ธรรมพิสูจน์ได้ด้วยความเห็นถูกเข้าใจถูก ผู้ตรงจะได้สาระจากพระธรรม เพราะเข้าใจถูก เพราะธรรมตรงไปตรงมา

# ไม่มีเรา เป็นธรรม เป็นอนัตตา เป็นธาตุแต่ละหนึ่ง มีสภาวะของตนๆ ธาตุเห็น ธาตุได้ยิน ธาตุร้อน ธาตุแข็ง ธาตุอิสสา เป็นแต่ละธาตุซึ่งอาศัยกันและกันเกิด ไม่มีเรา แต่ยึดถือว่าเป็นเราเพราะไม่รู้ เกิดมาด้วยความไม่รู้ และทำดีทำชั่วตามการสะสม เป็นไปตามเหตุตามปัจจัย

# ฟังธรรมไม่พอ ต้องไตร่ตรองด้วย อะไรไตร่ตรอง ปัญญาไตร่ตรอง ไม่ใช่เรา เป็นจิตและเจตสิกต่างหาก เป็นปัญญาของผู้นั้นเองที่จะรู้ หรือเป็นตัวตนที่จะจดจ้อง

# ขณะฟังธรรมและเข้าใจ ขณะนั้นไตร่ตรอง แต่ไตร่ตรองถูกหรือผิด ถ้าไตร่ตรองผิดเข้าใจผิด ก็เป็นอกุศลวิตก อกุศลเจตสิกกำลังไตร่ตรอง ถ้าไตร่ตรองถูก ก็เป็นกุศลวิตก ฟังและเข้าใจถูก ปัญญาที่เกิดกับจิตขณะนั้น เป็นปัญญาขั้นการฟัง

# พิจารณาไตร่ตรองตามพระธรรมที่ได้ยินได้ฟัง ไม่ใช่คิดเอง

# ฟังธรรมแล้วเข้าใจ เห็นประโยชน์ของกุศล เห็นโทษของอกุศล จึงสละอกุศล เพราะขณะใดที่กุศลไม่เกิด ขณะนั้นเป็นอกุศล

# การบูชาสูงสุดที่ถูกต้อง คือ การได้ศึกษาพระธรรมคำสอนและมีความเข้าใจถูกเห็นถูก

# ทุกอย่างเป็นธรรมะ แต่ลืมเสมอ เป็นเราเป็นเขาไปหมดทุกเรื่อง ฟังบ่อยๆ จนปัญญาเข้าใจขึ้นว่าทุกอย่างเป็นธรรม ไม่ใช่เรา

# อ.อรรณพ : ประโยชน์ที่รู้ว่าทุกอย่างเป็นธรรมะ ไม่ใช่เรา คืออะไร

ท่านอ. : ไม่ใช่เราแล้วมีอะไร มีกุศล มีอกุศล เข้าใจถูกว่ากุศลเป็นกุศล อกุศลเป็นอกุศลและไม่ใช่เรา เป็นธรรมะ ไม่เข้าใจผิดว่าอกุศลเป็นกุศล และเพลินไปในอกุศล และตกลงไปในอบาย

# แค่ฟังยังไม่ดับสภาพธรรมว่าเป็นตัวตน ต้องมีความเข้าใจลักษณะสภาพธรรมแต่ละหนึ่ง ไม่ใช่เรา เข้าใจว่าแข็งเป็นธรรมะแน่นอน

# เข้าใจว่าเป็นธรรมไม่ใช่เราตั้งแต่แรก

แค่ตั้งใจว่าจะพยายามให้ไม่มีเรา ก็ติดบ่วงของโลภะแล้ว แต่ความเข้าใจขั้นฟังก็ละความไม่รู้ในขั้นการฟัง รู้แล้วละความติดข้อง ไม่ใช่คิดหาทางละ ติดบ่วงของโลภะ แล้วจะละความเป็นเราได้อย่างไร

# หาวิธีรู้ว่าเห็นเป็นธรรมะ ก็ติดบ่วงของโลภะแล้ว หาวิธีจะละด้วยความเป็นตัวตน

# "ผมพยายามแตะโต๊ะให้รู้แข็ง" เข้าใจผิด ไม่รู้จักสติ ปฏิบัติผิด เป็นเราตลอดมานานแสนนาน เป็นเราแตะเพื่อให้สติเกิด "เพ้อถึงธรรมะ เพ้อถึงสติ" ไหนเป็นเรา มีแค่ธรรมเท่านั้นเอง ซึ่งเป็นอนัตตา

# ขณะนี้กำลังฟังเข้าใจ เป็นอนัตตา เป็นธรรมฝ่ายดี จิตแท้ๆ บริสุทธิ์ผ่องใสประกอบด้วยเจตสิกฝ่ายดี สิ่งที่ไม่รู้ สติสัมปชัญญะเกิดจึงค่อยๆ รู้ ปัญญาเกิดจึงเข้าใจถูกว่าไม่ใช่เรา เป็นสภาพธรรมเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย

# ปัญญาไม่หวั่นไหว รู้เฉพาะสิ่งที่กำลังปรากฏ ไม่กังวลถึงสิ่งที่ล่วงแล้วและไม่คำนึงถึงสิ่งที่ยังไม่เกิด พระธรรมทั้งหมดกล่าวถึงเฉพาะสิ่งที่กำลังมี

# ขณะที่หลับสนิท โลภะเกิดหรือเปล่า ขณะหลับสนิทอกุศลไม่เกิด แต่สะสมอยู่ในจิต พร้อมที่จะเกิดเมื่อมีเหตุปัจจัย ขณะนั้นเป็นกุศล เพราะเป็นผลของกุศลจึงหลับสนิท

อนุโมทนาในคุณความดีและกราบบูชาคุณท่านอ.สุจินต์ บริหารวนเขตต์

อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 3 ก.พ. 2559

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลวิริยะครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ปาริชาตะ
วันที่ 3 ก.พ. 2559

ขอขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
เมตตา
วันที่ 3 ก.พ. 2559

ขออนุโมทนาในกุศลวิริยะ ด้วยค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ใหญ่ราชบุรี
วันที่ 4 ก.พ. 2559

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 4 ก.พ. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
Wisaka
วันที่ 6 ก.พ. 2559

สาธุ สาธุ สาธุ กราบอนุโมทนา ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
thilda
วันที่ 6 ก.พ. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
j.jim
วันที่ 8 ก.พ. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
nong
วันที่ 10 ก.พ. 2559

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
chatchai.k
วันที่ 22 ธ.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ