อยากสอบถามเรื่องมนุษย์หรือเทวดาชั้นกลางหรือสูงเป็นอย่างไรครับ

 
สืบต่อพุทธ
วันที่  4 ก.พ. 2559
หมายเลข  27425
อ่าน  1,126

อยากสอบถามเรื่องมนุษย์ชั้นต่ำ กลาง สูง หมายความว่าเกิดที่ไหนก็ได้ แต่ต่างกันในเรื่องความเป็นอยู่ การกิน การนอนใช่ไหมครับ

แล้วเทวดาชั้นสูง กลาง ต่ำ หมายความว่าต้องเป็นต้องไปอยู่ชั้นโน้น ชั้นนี้หรือเปล่าครับ แล้วก็มีตำแหน่งโน้น ตำแหน่งนี้ไหมครับ

ขอบคุณครับที่ไขความข้องใจครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 4 ก.พ. 2559

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

มนุษย์และเทวดา จำแนกกันไปตามกรรม ในความละเอียดประณีต มนุษย์ที่กรรมดีมาก ก็ มีความสุขสบาย อายุ ยศ สิ่งต่างๆ ก็เป็นไปในความสุขมาก เทวดาก็โดยนัยเดียวกัน แย่งตามภพภูมิ ความละอียด ประณีตของบุญกรรม ครับ

มนุษย์ มีความหมายว่าอย่างไร? มนุษย์ เป็นคำมาจากภาษาบาลีว่า มนุสฺส หมายถึง ผู้ที่มีใจสูง ใจสูงด้วยคุณธรรม สูงด้วยความดีประการต่างๆ สูงด้วยศีล ด้วยความเพียร ด้วยความประพฤติอันประเสริฐ ด้วยความมั่นคงที่จะเจริญ ซึ่งความดีประการต่างๆ และนอกจากนั้น มนุษย์ ยังหมายถึง ผู้รู้สิ่งที่เป็นประโยชน์ และ มิใช่ประโยชน์ ด้วย เมื่อรู้สิ่งที่เป็นประโยชน์และ สิ่งมิใช่ประโยชน์แล้ว ก็น้อมประพฤติในสิ่งที่เป็นประโยชน์ แล้วละเว้นในสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ นี้คือความหมายของมนุษย์ และเป็นมนุษย์ที่แท้จริงด้วย

ข้อสำคัญที่ทุกคนควรพิจารณา คือ เมื่อได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ได้ยากแสนยาก ก็ควรที่จะเป็นมนุษย์ที่แท้จริง แสวงหาประโยชน์จากการได้เกิดมาเป็นมนุษย์ให้มากที่สุด ด้วยการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปตามลำดับ แล้วน้อมประพฤติปฏิบัติตามพระธรรม ไม่ประมาทในการเจริญกุศลทุกประการ เพื่อขัดเกลากิเลสของตนเองต่อไป ครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 4 ก.พ. 2559

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ความเกิดขึ้นเทวดา ซึ่งเป็นโอปปาติกกำเนิด เกิดโตทันที ก็ไม่พ้นไปจากความเกิดขึ้นเป็นไปของธรรมแต่ละอย่างๆ จริงๆ ไม่มีสัตว์ บุคคลตัวตนเลยแม้แต่น้อย มีแต่ธรรมเท่านั้น

การเกิดเป็นเทวดาในสวรรค์ชั้นต่างๆ เป็นผลของกุศลกรรมที่ประณีตเมื่อพูดถึงเทวดา หรือ เทพบุตรแล้วประโยชน์อยู่ตรงไหน? ก็คือ เข้าใจความเป็นจริงของธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย ตามควรแก่ธรรมประเภทนั้นๆ ซึ่งไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น และ เพิ่มพูนความมั่นคงในความเป็นเหตุเป็นผลได้ว่า เหตุที่ดี ก็ย่อมให้ผลเป็นผลที่ดี เท่านั้น เป็นไปไม่ได้เลยที่เหตุดีแล้วจะให้ผลเป็นผลที่ไม่ดี เมื่อเข้าใจถูกเห็นถูกอย่างนี้ก็จะเกื้อกูลต่อการเป็นผู้ไม่ประมาทในอกุศล และไม่ประมาทในการเจริญกุศลในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ ครับ

สำหรับผู้ที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์นั้น ก็ต้องเป็นผลของกุศลกรรม ซึ่งเป็นการยากมากกับการที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงว่าผู้ที่กลับมาเกิดเป็นมนุษย์นั้น (รวมถึงสุคติภูมิอื่นๆ คือ สวรรค์ ด้วย) มีเป็นส่วนน้อย แต่ที่เกิดได้โดยง่าย คือ เกิดเป็นสัตว์ในอบายภูมิ เพราะมีจิตที่หลากหลายต่างกันออกไป มีการกระทำที่แตกต่างกัน มีการได้รับผลของกรรมที่ต่างกัน มนุษย์จึงหลากหลาย ก็เพราะจิต กล่าวคือ ถ้าจิตดี เป็นกุศลจิต มีความประพฤติที่ดีงามทั้งทางกาย ทางวาจา และทางใจ ก็เป็นมนุษย์ที่ดี แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้าเป็นอกุศลจิต เป็นจิตที่ไม่ดี มีการกระทำที่ไม่ดีทั้งทางกาย ทางวาจา และทางใจ ก็เป็นมนุษย์ที่ไม่ดี ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 6 ก.พ. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
apiwit
วันที่ 10 ก.พ. 2559

ขออนุโมทนาในกุศลอย่างยิ่งครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
peem
วันที่ 11 ก.พ. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
chatchai.k
วันที่ 26 ธ.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ