สมาธิ มิจฉาสมาธิ สัมมาสมาธิ

 
ใหญ่ราชบุรี
วันที่  24 ก.ย. 2559
หมายเลข  28220
อ่าน  1,154

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สมาธิ มิจฉาสมาธิ สัมมาสมาธิ คืออะไร มีความแตกต่างกันอย่างไร เป็นเหตุเป็นปัจจัย ยังผลหรือวิบากใดให้เกิดขึ้น หากภิกษุมีมิจฉาสมาธิ จะเป็นโทษเป็นความผิดเป็นอาบัติหรือไม่ประการใด

ขอบพระคุณที่อนุเคราะห์ให้ความรู้ความเข้าใจค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 24 ก.ย. 2559

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สมาธิ เป็นความตั้งมั่น เป็นสภาพธรรมที่มีจริง ทุกขณะที่จิตเกิดขึ้น จะต้องมีสมาธิเกิดร่วมด้วย สมาธิ คือ เอกัคคตาเจตสิก เกิดกับจิตทุกดวง มีความเสมอกันกับจิตที่เกิดร่วมด้วย เป็นไปได้ทั้งกุศล อกุศล วิบาก และกิริยา ตามประเภทของจิตนั้นๆ มิจฉาสมาธิ เป็นสภาพธรรมที่ตั้งมั่นผิด เกิดร่วมกับอกุศลจิต ขณะที่อกุศลจิตเกิดจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องดีงามไม่ได้ ก็ต้องเป็นสภาพธรรมที่ไม่ดี สัมมาสมาธิ เป็นชื่อของเอกัคคตาเจตสิก ซึ่งเกิดกับจิตที่เป็นโสภณจิต คือจิตที่ดีงาม สัมมาสมาธิไม่ได้อยู่ที่คำที่ใช้ เพราะว่าเอกัคคตาเจตสิกเกิดกับจิตทุกดวง ถ้าเกิดกับอกุศลจิต ก็เป็นมิจฉาสมาธิ ถ้าเกิดกับกุศลจิต ก็เป็นสัมมาสมาธิ อยู่ที่ว่าจิตขณะนั้นเป็นอย่างไร ถ้าจิตเป็นกุศล แม้ไม่ใช้คำอะไรเลย ก็เป็นสัมมาสมาธิ ความจริงเป็นอย่างไร ก็เป็นจริงอย่างนั้น ใครๆ ก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้ แต่โดยทั่วไปแล้ว สัมมาสมาธิจะใช้ในกุศลที่เป็นไปในการอบรมเจริญปัญญา เช่น สัมมาสมาธิที่เกิดกับการอบรมสติปัฏฐานหรืออริยมรรคมีองค์ ๘ ซึ่งสัมมาสมาธิ ในสติปัฏฐาน ก็จะเป็น ขณิกสมาธิ เพียงชั่วขณะที่เป็นไปทางกุศลและอบรมปัญญา สัมมาสมาธิที่เกิดในขณะเป็นอริยมรรค มีองค์ ๘ เป็นสัมมาสมาธิโดยตรงอยู่แล้ว และการอบรมเจริญสมถภาวนาก็เป็นสัมมาสมาธิ ที่น่าพิจารณาคือ ถ้ามีความติดข้องในมิจฉาสมาธิ ติดข้องในความรู้สึกที่เป็นสุข มีการไปนั่งไปทำอย่างนั้น ไม่ใช่หนทางที่เป็นไปเพื่อความเจริญแห่งกุศลธรรม และปัญญาเลย ถ้าไม่ถอยกลับมาตั้งต้นที่การฟังพระธรรมให้เข้าใจ ตั้งแต่ในขณะนี้แล้ว ก็ยากที่จะพ้นไปจากมิจฉาสมาธิดังกล่าวนั้น เพราะการปฏิบัติผิด มีแต่จะทำให้ความเห็นผิด ความไม่รู้ เพิ่มมากขึ้น ครับ ในสมัยพุทธกาลพระอริยสาวกบางท่าน ก่อนที่จะได้พบพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและได้ฟังพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดงนั้น ก็เคยปฏิบัติผิดมาก่อน แต่เพราะเหตุที่ดีที่ท่านได้สะสมมา จึงเป็นเหตุให้ท่านได้เข้าเฝ้าและฟังพระธรรมจากพระองค์ ผลจากการฟังพระธรรมซึ่งเป็นความจริง นั้น ทำให้ท่านได้รู้แจ้งอริยสัจจธรรมดับกิเลสได้ในที่สุด ครับ

ไม่ควรเห็นว่า การปฏิบัติผิด ไม่มีโทษ เพราะถ้าเห็นอย่างนี้แสดงว่ากำลังชื่นชมในสิ่งที่ผิด ชื่นชมในความไม่รู้ และมีแต่จะทำให้กิเลสอกุศลธรรมพอกพูนยิ่งขึ้น ทำให้สังสารวัฏฏ์ยืดยาวต่อไปอีก ที่สำคัญที่สุดคือ กลับมาที่การฟังพระธรรมให้เข้าใจ ค่อยๆ สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อย การไปทำอะไรในสิ่งผิดๆ นั้น ไม่ใช่เหตุที่จะทำให้ปัญญาเจริญ ครับ

ขอเชิญคลิกอ่านข้อความเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ

สมาธินั้น...แค่ไหนจึงเป็นมิจฉาสมาธิ แค่ไหนจึงเป็นสัมมาสมาธิ.

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 24 ก.ย. 2559

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนา พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้โดยละเอียดโดยประการทั้งปวง รวมถึงเรื่องสมาธิด้วย แต่ไม่ได้สอนให้ไปทำ หรือไปฝึกสมาธิ แต่ทรงแสดงธรรมตามความเป็นจริงเนื่องจากว่า สมาธิ มีทั้งสัมมาสมาธิ และมิจฉาสมาธิ มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่เพราะไม่ได้ศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ จึงมีการกระทำในสิ่งที่ผิดมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคฤหัสถ์หรือบรรพชิต ก็ตาม เมื่อเข้าใจธรรม ผิด คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ก็จะกล่าวในสิ่งที่ผิดนั้นๆ เป็นโทษทั้งแก่ตนเองและผู้อื่น ทำให้คนอื่นประพฤติผิดตามไปด้วย เป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะฉะนั้นแล้ว ที่ดีที่สุด ควรที่จะได้ตั้งต้นที่การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ ไม่ควรไปทำอะไรตามใครด้วยความไม่รู้ ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 24 ก.ย. 2559

ภิกษุที่มีมิจฉาสมาธินอกจากจะเป็นโทษกับตนเองแล้วก็ยังเผยแพร่ความรู้ผิดๆ ให้กับคนอื่นด้วย มีโทษมากทำให้ไม่พ้นทุกข์ เวียนว่ายตายเกิดอยู่ในวัฏฏะค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 25 ก.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
kukeart
วันที่ 25 ก.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
rrebs10576
วันที่ 30 ก.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
chatchai.k
วันที่ 22 ต.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ