พระภิกษุจับต้องกายหญิงที่เป็นลูกสาว ผิดพระวินัย

 
khampan.a
วันที่  26 ก.ย. 2559
หมายเลข  28230
อ่าน  6,212

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

[เล่มที่ 3] พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค-ทุติยภาค เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ ๑๒๗

อนึ่ง ภิกษุใด กำหนัดแล้ว มีจิตแปรปรวนแล้ว ถึงความเคล้าคลึงด้วยกายกับมาตุคาม (ผู้หญิง) คือจับมือก็ตาม จับช้องผมก็ตามลูบคลำอวัยวะอันใดอันหนึ่งก็ตาม เป็นสังฆาทิเสส.

--------------------------------
[เล่มที่ 3] พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค-ทุติยภาค เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ ๑๕๐

ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่ง จับต้องธิดาด้วยความรักฉันธิดา เธอได้มีความรังเกียจว่า เราต้องอาบัติสังฆาทิเสสแล้วกระมังหนอ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสว่า ดูกร ภิกษุ เธอไม่ต้องอาบัติสังฆาทิเสส แต่ต้องอาบัติทุกกฎ

ขอเชิญอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ

พระภิกษุจับต้องกายมารดา ธิดา พี่สาว น้องสาว อาบัติ

----------------------------------

พระภิกษุ เป็นเพศบรรพชิต ซึ่งเป็นเพศที่สูงยิ่ง ผู้ที่จะบวชเป็นพระภิกษุนั้น ท่านเป็นผู้ที่เห็นโทษเห็นภัยของอกุศล เห็นโทษเห็นภัยของสังสารวัฏฏ์ซึ่งเต็มไปด้วยทุกข์ เห็นโทษเห็นภัยของการอยู่ครองเรือนว่าเป็นที่หลั่งไหลมาของอกุศลประการต่างๆ มากมาย ซึ่งจะต้องเป็นผู้ที่เข้าใจพระธรรมอันเนื่องมาจากได้ฟังพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง จึงสละอาคารบ้านเรือน สละวงศาคณาญาติ สละทรัพย์สมบัติ สละความเป็นคฤหัสถ์ทุกอย่าง มุ่งสู่เพศที่สูงยิ่ง เมื่อบวชแล้ว ก็มีความจริงใจที่จะศึกษาพระธรรมวินัย น้อมประพฤติปฏิบัติ ขัดเกลากิเลสของตนเองให้ยิ่งๆ ขึ้นไป

ความเป็นบรรพชิต รักษายากมาก ต้องเป็นผู้มีอัธยาศัยน้อมไปจริงๆ ถึงจะรักษาได้ ทำให้ตนเองดำรงมั่นในพระธรรมวินัย แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้าไม่ประพฤติตามพระธรรมวินัย รักษาความเป็นบรรพชิต ไม่ได้ หรือ รักษาไม่ดี ล่วงละเมิดสิกขาบทต่างๆ ย่อมเป็นที่แน่นอนว่ามีแต่จะฉุดคร่าผู้นั้นไปสู่อบายภูมิเท่านั้น (ถ้าไม่สำนึกแล้วแก้ไขให้เป็นไปตามพระวินัย) หากมรณภาพลง (ตาย) ในขณะที่ยังมีอาบัติติดตัว ก็คือ ชาติต่อไป เกิดในอบายภูมิ เท่านั้น ซึ่งเป็นอันตรายมาก จะเห็นว่าเป็นเรื่องเล่นๆ ไม่ได้ หรือ จะเห็นว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ไม่ได้ เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น ก็แสดงถึงความเป็นผู้ไม่เคารพยำเกรงในสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งเป็นผู้ทรงบัญญัติพระวินัยด้วยพระองค์เอง ที่บุคคลอื่นไม่สามารถที่จะบัญญัติได้

แม้ในประเด็นพระภิกษุจับต้องกายหญิงที่เป็นลูกสาว ก็เป็นอาบัติ คือ เป็นอาบัติทุกกฏ แต่ก็ต้องพิจารณาต่อไปว่า ทุกกฏ แม้จะเป็นอาบัติเบา แต่ก็มีโทษ เพราะความหมายของทุกกฏ คือ เป็นการกระทำที่ผิด เป็นการกระทำที่ไม่ดี เนื่องจากไม่ได้น้อมประพฤติตามพระดำรัสที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ เป็นการกระทำที่แย้งต่อกุศลธรรม เป็นการกระทำที่พลาด เพราะไม่สามารถย่างขึ้นสู่ข้อปฏิบัติที่ให้ถึงการรู้แจ้งอริยสัจจธรรมได้ กล่าวได้ว่า เป็นโทษโดยส่วนเดียว ยิ่งถ้าพระภิกษุมีความกำหนัดแล้วจับต้องกายหญิง แม้จะเป็นลูกสาวของตน ก็เป็นอาบัติหนักด้วย คือ ต้องอาบัติสังฆาทิเสส ตามพระวินัยบัญญัติที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้ ซึ่งเรื่องของจิตใจ เป็นเรื่องที่ระวังยาก เพราะโดยปกติของความเป็นปุถุชนก็มากไปด้วยอกุศลอยู่แล้ว ถ้าประมาท ก็ยิ่งพอกพูนอกุศลยิ่งขึ้น เป็นโทษกับตนเองโดยส่วนเดียว ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
j.jim
วันที่ 26 ก.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
Tommy9
วันที่ 26 ก.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
จิรัฎฐ์
วันที่ 26 ก.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
กมลพร
วันที่ 26 ก.ย. 2559

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ใหญ่ราชบุรี
วันที่ 26 ก.ย. 2559

เป็นหัวข้อที่น่าสนใจยิ่ง ขออนุโมทนาค่ะ / เป็นหัวข้อที่ควรศึกษาอย่างละเอียดด้วยค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
จรัสศรี
วันที่ 26 ก.ย. 2559

น้อมอนุโมทนา สาธุสาธุสาธุค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
อนุโมทนา
วันที่ 26 ก.ย. 2559

สาธุ สาธุ สาธุ คะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
kullawat
วันที่ 27 ก.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 27 ก.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
aditap
วันที่ 28 ก.ย. 2559

อนุโมทนาครับ..

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
นิคม
วันที่ 28 ก.ย. 2559

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
สิริพรรณ
วันที่ 31 พ.ค. 2564

กราบขอบพระคุณยินดีในกุศลธรรมทานค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ