แผ่ส่วนกุศลผลบุญ...

 
Pakki
วันที่  7 ม.ค. 2560
หมายเลข  28505
อ่าน  2,110

การแผ่ส่วนกุศล ให้แก่สิ่งทั้งหลายที่ตายไปแล้ว จะเป็นไปได้อย่างไร? เพราะหลังจากที่ได้เข้าใจธรรมมะ จากบ้านธัมมะว่า ไม่มี สัตว์ บุคคล ไม่มีตัวตน เรา เขา ไม่มีอะไร เหลือเลย มีแต่ธรรมะ แล้วจะแผ่ไปให้ใคร?

เคยเห็น เป็นบางครั้งว่า รายการบ้านธัมมะ ทางinternet จะมีการแผ่ส่วนกุศล ให้แก่สิ่งทั้งหลาย ที่ตายไปแล้ว ก่อนที่จะจบรายการนั้น จะไม่ตรงกับความเข้าใจ ที่ทางบ้านธัมมะได้ให้ความรู้ไว้ ตามสื่อต่างๆ

ท่านผู้รู้ช่วยให้ความกระจ่างด้วย จะขอบพระคุณอย่างสูงเพราะผู้เขียนอาจจะเข้าใจผิดในเรื่องนี้ไป ก็เป็นไปได้


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 7 ม.ค. 2560

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

[เล่มที่ 75] พระอภิธรรมปิฎก ธรรมสังคณี เล่ม ๑ ภาค ๑ หน้าที่ ๔๒๙

"เมื่อบุคคลให้ทาน กระทำการบูชาด้วยของหอม เป็นต้น แล้วให้ส่วนบุญว่า ขอส่วนบุญ จงมีแก่บุคคลชื่อโน้น หรือว่า ขอส่วนบุญจงมีแก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย ดังนี้ พึงทราบว่า เป็นบุญกิริยาวัตถุอันเกิดแต่การให้ส่วนบุญ"


กุศล ที่ได้ทำแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการให้ทาน การรักษาศีล หรือแม้แต่การฟังพระธรรม ก็สามารถอุทิศเพื่อประโยชน์แก่ผู้อื่นได้ การอุทิศส่วนกุศลให้ใคร จุดประสงค์ก็เพื่อให้ผู้นั้นได้รู้ เพื่อผู้นั้นจะได้เกิดกุศลจิตอนุโมทนา ว่าโดยสภาพธรรมแล้ว ก็ไม่มีสัตว์บุคคลตัวตน มีแต่สภาพธรรมเท่านั้น กุศลจิตที่อนุโมทนาย่อมเป็นกุศลของผู้อนุโมทนาเอง ซึ่งกุศลที่เกิดขึ้นด้วยการอนุโมทนานี้จะเป็นเหตุให้ได้รับผลที่ดี คือ กุศลวิบากจิตเกิดขึ้น ไม่ใช่เราหยิบยื่นกุศลของเราให้คนอื่น แต่การที่เราทำกุศล แล้วเป็นเหตุให้คนอื่นที่รู้อนุโมทนายินดีด้วย ขณะใดที่เขาอนุโมทนายินดีด้วย ขณะนั้นก็เป็นกุศลของเขา ซึ่งจะต้องเป็นกุศลจิตของผู้ที่อนุโมทนาเท่านั้นจริงๆ

ผู้ที่ยังมีกิเลสอยู่เมื่อละจากโลกนี้ไปแล้ว ก็ต้องมีการเกิดอีก ถ้าเกิดในภพภูมิที่สามารถรับรู้ถึงการทำความดีของผู้อื่นได้ และสะสมมาที่จะเห็นคุณของความดี ผู้นั้นก็สามารถที่จะเกิดกุศลจิต อนุโมทนาในความดีของผู้อื่นได้ ซึ่งเป็นธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัยไม่สามารถที่จะบังคับบัญชาได้เลย ครับ

...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
วิริยะ
วันที่ 8 ม.ค. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 9 ม.ค. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
p.methanawingmai
วันที่ 9 ม.ค. 2560

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
Tommy9
วันที่ 11 ม.ค. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
เพียงดิน
วันที่ 12 ม.ค. 2560

ตอนแรกผมก็ไม่เข้าใจ แต่ตอนนี้เข้าใจแบบนี้ถูกมั้ยครับ บุญกุศลใครทำคนนั้นได้ แต่ที่เราอุทิศส่วนกุศลคือการประกาศให้ผู้อื่นได้ทราบ และจะได้ร่วมอนุโมทนากับเรา แต่สำหรับผู้ที่อยู่ภพภูมิอื่น จะมีเหตุปัจจัยที่ทำให้เขาได้ทราบ และร่วมอนุโมทนาบุญกับเรา

สำหรับท่านเจ้าของกระทู้ครับ ตามที่ท่านว่า ไม่มี สัตว์ บุคคล ไม่มีตัวตน เรา เขา ไม่มีอะไร เหลือเลย มีแต่ธรรมะ เป็นคำจริงครับ แต่สำหรับผู้มีปัญญาถึงขั้นพระอรหันต์เท่านั้น แต่สำหรับเราบุคคลทั่วไปปัญญายังไม่ถึงขั้นนั้น ยังมีโลภะ ที่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีกหลายชาติ บุญกุศลจึงยังจำเป็น เพื่อสะสมปัญญาต่อไป

ผิดพลาดอะไรช่วยกันแก้นะครับผมก็ยังปัญญาน้อยอยู่

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
wannee.s
วันที่ 17 ม.ค. 2560

ผู้ที่เป็นปุถุชนยังต้องเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏฏฺ์ ยกเว้นพระอรหันต์ท่านดับกิเลสหมดไม่มีเหตุปัจจัยให้เกิดอีก ในพระไตรปิฎกก็มีแสดงไว้ ญาติของพระเจ้าพิมพิสารตายแล้วไปเกิดเป็นเปรตแล้วมาขอส่วนบุญ ภายหลังท่านก็ได้อุทิศกุศลไปให้ญาติทั้งหลายค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
Lertchai
วันที่ 27 ม.ค. 2560

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
Pakki
วันที่ 11 ก.พ. 2560

คุณ wannee.s จำได้ว่าท่านอาจารย์สุจิตต์เคยกล่าวว่า เมื่อตายไปแล้วทุกคนเลย จะจำอะไรไม่ได้เลย จะไม่กลับไปเป็นคนเก่าอีกเลย ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมดทั้งสิ้น แล้วทำไมญาติ (ที่ตายไปแล้ว แล้วเกิดเป็นเปรต) ของพระเจ้าพิมพิสารถึงยังจำพระเจ้าพิมพิสารได้ ถึงได้ไปขอส่วนบุญ? คนที่ตายไปแล้วกิดใหม่แล้วระลึกชาติได้ ที่เราเคยได้ยินบ่อยๆ เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ใช้ไหม?

ขอขอบพระคุณทุกๆ ท่าน ที่ให้คำตอบ และขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
thilda
วันที่ 13 ก.พ. 2560
 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
สุณี
วันที่ 14 ก.พ. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
Pakki
วันที่ 6 มิ.ย. 2562

ขอขอบพระคุณทุกๆ ท่าน ที่พยายามที่จะให้คำตอบ เพื่อจะได้เกิดปัญญา และมีความคิดเห็นที่ถูกต้อง และขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
chatchai.k
วันที่ 21 พ.ย. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
Parichat_04
วันที่ 22 พ.ค. 2565

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ