สนทนาธรรมที่เวียดนามครั้งที่ 12 (ตอนจบ)

 
kanchana.c
วันที่  27 พ.ค. 2561
หมายเลข  29766
อ่าน  2,367

สนทนาธรรมที่เวียดนามครั้งที่ 12 (ตอนจบ)
ฮานอย นินห์บินห์
17 พ.ค. 2561 - 27 พ.ค. 2561

ชีวิตคือขณะที่เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส กระทบสัมผัส คิดนึก (เพราะคนตายแล้ว สิ้นชีวิตแล้ว ไม่สามารถเห็น ได้ยิน ... คิดนึกได้) และแต่ละขณะเหล่านั้นก็ผ่านไป หมดไป สิ้นไป ไม่กลับมาอีกเลย จากขณะหนึ่งสู่ขณะหนึ่ง จากชั่วโมงหนึ่งสู่ชั่วโมงหนึ่ง จากเช้าไปเย็น ไปค่ำ จากวันหนึ่งสู่อีกวันหนึ่ง จากวันนี้สู่พรุ่งนี้ จากวันที่ 17 พ.ค. 2561 วันแรกที่เวียดนาม สู่วันนี้ วันที่ 27 พ.ค. 2561 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการสนทนาธรรมที่เวียดนาม

ทุกขณะมากมายนับไม่ถ้วนนั้นก็ผ่านไปด้วยความไม่รู้ลักษณะของเห็น ได้ยิน ... คิดนึก เหมือนที่เป็นมาเนิ่นนานในสังสารวัฏ เหลือไว้แต่ความทรงจำที่เกิดกับจิตทุกขณะ ซึ่งก็ไม่เหมือนกับขณะที่เกิดขึ้นจริงๆ แม้จะได้ยินได้ฟังมานับครั้งไม่ถ้วนว่า เห็นเป็นจิต เกิดขึ้นทำกิจเพียงเห็น เห็นเป็นสิ่งที่มีจริง เป็นธรรมอย่างหนึ่งที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย ไม่ใช่เราเห็น ก่อนเห็นเราอยู่ที่ไหน? เห็นดับแล้วเราอยู่ที่ไหน? จึงไม่มีเราในเห็น นี่คือความจริงที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้และทรงแสดงไว้ดีแล้ว แต่ผู้ฟังจะฟังด้วยดีหรือไม่นั้น ขึ้นกับการสะสมความเข้าใจมามากน้อยแค่ไหน ถ้ามีความเข้าใจพอ สภาพธรรมก็จะปรากฏตามความเป็นจริง ตามที่ทรงแสดงไว้ทุกอย่าง เหมือนอย่างที่พระอริยสาวกทั้งหลายได้ประจักษ์แจ้งมาแล้วมากมาย จึงต้องฟังธรรมต่อไป พิจารณาต่อไป เริ่มต้นใหม่ทุกครั้งที่ลืมหัวใจสำคัญของคำสอนว่า ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่เรา ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใคร เป็นไปตามเหตุปัจจัยของธรรมนั้นๆ เกิดแล้วจึงปรากฏเป็นอย่างนั้น แล้วก็ดับไป หมดไป สิ้นไป ไม่กลับมาอีกเลย แม้จะติดข้องมากมายอยากให้เกิดซ้ำอีกบ่อยๆ ก็ตาม แต่ก็ไม่มีใครสามารถทำได้

ในการสนทนาครั้งนี้มีผู้ฟังติดตามมาจากต่างประเทศหลายคน เช่น คุณสุนทรา ชาวนิวซีแลนด์มาจากเมืองไทย คุณวินเซ็นต์ นาน่า ลูกสาว แม๊กกี้ เพื่อนจากไต้หวัน ครอบครัวคุณโรเบิร์ต ชาวนิวซีแลนด์จากดูไบ พร้อมกับภรรยาญี่ปุ่น ลูกสาวคนโต ลูกชายคนเล็ก และหนูน้อยนีน่าที่เคยเป็นเบบี้นีน่าเมื่อครั้งก่อน ท่านอาจารย์ให้เวลาสนทนาพิเศษหลังการบรรยายภาคบ่ายวันละ 1 ชั่วโมงกับคุณโรเบิร์ต เพราะเธออยู่ไกล

ในการสนทนา 3 วันสุดท้ายที่ฮานอย มีผู้ฟังหน้าใหม่ๆ ยังหนุ่มสาวมาฟังอีกหลายคน บางคนยังติดในการกินเจ การเชิญวิญญาณบรรพบุรุษในวันสำคัญของเวียดนาม การถือศีล ทำอย่างนี้อย่างนั้นจะผิดศีลไหม การทำสมาธิ ความเชื่อแบบพุทธมหายานว่า มีที่เก็บกุศลอกุศล ก็ถามปัญหาที่ตัวเองติดข้องให้หายสงสัย ท่านอาจารย์ก็จะนำกลับมาสู่ความจริงของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏในขณะนี้ทุกครั้ง จากเรื่องราวที่เป็นบัญญัติมาสู่ปรมัตถธรรม จากสมมติว่าเป็นบุคคลนั้นบุคคลนี้ ทำอย่างนั้นอย่างนี้ ด้วยความเป็นตัวตน มาเป็นสภาพธรรมที่เกิดขึ้นเดี๋ยวนี้เพราะเหตุปัจจัย ที่มีลักษณะจริงๆ เพียง 3 อย่าง คือ จิต เจตสิก รูป จิตเป็นใหญ่ เป็นประธานในการรู้อารมณ์ เป็นสภาพรู้ เจตสิกเป็นสภาพรู้ที่เกิดพร้อมจิต ดับพร้อมจิต รู้อารมณ์เดียวกับจิต ส่วนรูปไม่สามารถรู้อะไรได้เลย แล้วยกตัวอย่างพร้อมกับถามผู้ฟังว่า อะไรเป็นจิต เจตสิก รูป ท่านอาจารย์บอกว่าถ้ามีพื้นฐานมั่นคงว่า ทุกอย่างที่มีจริงเป็นธรรม เป็นอนัตตาแล้ว ก็สามารถศึกษาด้วยการฟัง การอ่านต่อไปได้ด้วยตนเองโดยไม่ผิดทาง จึงต้องเตือนบ่อยๆ ว่า สิ่งที่มีจริงเป็นธรรม ไม่ใช่เรา เห็นเป็นเห็น ไม่ใช่เราเห็น

น่าอัศจรรย์ของการสะสมจริงๆ หลายคนฟังครั้งแรกก็เข้าใจเกิดศรัทธาอย่างมาก บางคนกราบเท้าท่านอาจารย์ที่ทำได้ยินได้ฟังสิ่งที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยในชีวิต ตอนจบการสนทนาภาคบ่ายมีตัวแทนกล่าวขอบคุณว่า การได้ฟังธรรมครั้งนี้ทำให้รู้ตัวเองว่า อยู่ในโลกที่มืดสนิทด้วยความไม่รู้อะไรเลย แต่ก็เห็นประโยชน์ของความรู้ที่คณะวิทยากรนำมาแสดงซึ่งจะศึกษาและพิจารณาต่อไป

มีคนมาขอถ่ายภาพเป็นที่ระลึก พร้อมมอบของขวัญให้ท่านอาจารย์ คุณเซราห์ คุณโจนาธาน ซึ่งท่านอาจารย์กล่าวตอบว่า ของขวัญที่มีค่าที่สุด คือ ความเข้าใจของผู้ฟัง และวิทยากรทุกท่านได้มอบของขวัญที่เป็นซองให้ชมรมบ้านธัมมะเวียดนามเพื่อใช้ในการเผยแพร่พระธรรมต่อไป สาธุ สาธุ สาธุ

ขออุทิศส่วนกุศลที่ได้กระทำแล้วในครั้งนี้ให้แก่ผู้ติดตามอ่านทุกท่าน ขอให้กุศลที่มีจิตโสมนัสยินดีในกุศลที่พวกเราได้กระทำแล้ว (มีท่านอาจารย์ เซราห์ โจนาธาน เป็นวิทยากร พี่เต่า น้องสาวท่านอาจารย์ไปเป็นเพื่อน รศ.สงบ เชื้อทอง ช่างภาพ คุณยุพินสุชลธาดา คุณมารศรี บูรณะไทย ถ่ายทอดสด คุณวรรณี แซ่โง้ว คุณเผ่าทิพย์ มอนแทนดอน ดูแลท่านอาจารย์ น้องดีดี้ กัญญารัตน์ หลานสาวคุณเผ่าทิพย์ คุณวรรณี ดูแลการถ่ายทอดสดภาคภาษาไทยผ่านยูทูป แปลโดย พล.อ.ต.หญิง กาญจนา เชื้อทอง อาจารย์สงบและท่านนภดล สุธัมมสภา รักษาความปลอดภัย คุณนวลวรรณ แซ่โค้ว (โดยการสนับสนุนของคุณชลชินี สะสมทรัพย์ ที่ตั้งใจจะร่วมเดินทางมาด้วย แต่เปลี่ยนใจอยู่เมืองไทยเพื่อต้อนรับหลานสาวคนแรก) นำยาเขียวที่ผลิตเองมาแจกสหายธรรมเวียดนามหลายสิบขวด และคุณยุพิน นวดผ่อนคลายความเมื่อยล้าให้ทุกคนที่ต้องการ

คุณจิราภรณ์ ศรีสมุทร ฝ่ายประสานงานระหว่างเวียดนามกับไทย แล้วยังเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารผู้ฟังเวียดนามหลายมื้อ และสุดท้ายบุคคลสำคัญที่ขาดไม่ได้เลย แม้จะไม่ได้มาด้วย คือคุณวันชัย ภู่งาม ฝ่ายศิลป์ที่ช่วยใส่ภาพที่อาจารย์สงบส่งไปให้ประกอบเรื่อง ถ้าไม่มีคุณวันชัย คงมีแต่ตัวหนังสือ) เป็นปัจจัยให้ท่านเจริญด้วยกุศลทุกประการ โดยเฉพาะปัญญา ความเข้าใจสภาพธรรมที่กำลังปรากฏขณะนี้ตามปกติตามความเป็นจริง จนกว่าจะถึงที่สุดแห่งทุกข์ด้วยเทอญ

.........

ขอเชิญคลิกชมตอนที่ผ่านมาทั้งหมด ได้ที่นี่...

สนทนาธรรมที่เวียดนามครั้งที่ 12
สนทนาธรรมที่เวียดนามครั้งที่ 12 (ตอนที่ 2)
สนทนาธรรมที่เวียดนามครั้งที่ 12 (ตอนที่ 3)
สนทนาธรรมที่เวียดนามครั้งที่ 12 (ตอนที่ 4)

และท่านสามารถติดตามบันทึกการถ่ายทอดสดการสนทนาธรรมในครั้งนี้ได้ที่นี่..

Vietnam Dhamma home
Mama Dang Channel


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
peem
วันที่ 27 พ.ค. 2561

กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ธนฤทธิ์
วันที่ 27 พ.ค. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
panasda
วันที่ 27 พ.ค. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
Selaruck
วันที่ 27 พ.ค. 2561

กราบอนุโมทนาท่านอาจารย์ และทีมงาน

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ปาริชาตะ
วันที่ 28 พ.ค. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
มกร
วันที่ 28 พ.ค. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
Boonyavee
วันที่ 28 พ.ค. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
chvj
วันที่ 1 มิ.ย. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
thilda
วันที่ 3 มิ.ย. 2561

"ถ้ามีพื้นฐานมั่นคงว่า ทุกอย่างที่มีจริงเป็นธรรม เป็นอนัตตาแล้ว ก็สามารถศึกษาด้วยการฟัง การอ่านต่อไปได้ด้วยตนเองโดยไม่ผิดทาง จึงต้องเตือนบ่อยๆ ว่า สิ่งที่มีจริงเป็นธรรม ไม่ใช่เรา เห็นเป็นเห็น ไม่ใช่เราเห็น"

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาพี่กาญจนา เชื้อทอง กราบบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ที่เคารพอย่างยิ่ง และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ