หลังนิพพาน จิตยังคงอยู่?

 
คนรักธรรมะ
วันที่  13 ก.ค. 2552
หมายเลข  12882
อ่าน  14,740
เรียนถามท่านผู้รู้ค่ะ 1.นิพพานเป็นดินแดนหรือเป็นสภาวะคะ? 2.หลังจากพระอรหันต์นิพพานดับขันธ์แล้วจิตยังคงอยู่หรือไม่? 3.วิญญาณขันธ์ไม่ใช่จิต ใช่หรือไม่ ถ้าไม่ใช่ วิญญาณขันธ์คืออะไรและจิตคืออะไร? ยังไม่ค่อยกระจ่างเลยค่ะ

  ความคิดเห็นที่ 1  
 
prachern.s
วันที่ 13 ก.ค. 2552
๑.พระนิพพานไม่ใช่ดินแดนที่มีสัตว์ไปเกิด แต่เป็นสภาวะที่เป็นที่สิ้นไปของสังขาร๒.หลังจากพระอรหันต์ท่านปรินิพพาน คือดับขันธ์แล้ว ไม่มีจิต เจตสิกอีกเลย๓.วิญญาณขันธ์คือจิต จิตคือวิญาณ เป็นสภาพรู้แจ้งอารมณ์ ขอเชิญคลิกอ่านเพิ่มที่.. พระนิพพาน
 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
คนรักธรรมะ
วันที่ 13 ก.ค. 2552

ขอบคุณค่ะคุณ prachern.s แต่ยังมีข้อสงสัยอยู่ ขอความกระจ่างเพิ่มด้วยค่ะ

1. เคยได้อ่านเจอบางแหล่งข้อมูล กล่าวว่า หลังจากที่นิพพาน จิตยังคงอยู่นั้นเป็นความเข้าใจผิดหรือคะ?

2. แสดงว่าหลังจากนิพพานแล้ว จิต ไม่มีแล้ว การรับรู้ย่อมไม่มี?

3. แต่เคยได้อ่านเจออีกว่า จิตดั้งเดิม เป็นจิตประภัสสร (โสภณจิต) เป็นจิตที่บริสุทธิ์จากกิเลสเครื่องเศร้าหมอง เครื่องร้อยรัดทั้งปวง นั่นหมายความว่าเดิมแล้ว มี"จิต"อยู่และการที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอนทางพ้นทุกข์ ก็เพื่อให้จิตหลุดพ้นจากกองกิเลสทั้งหลายนั้น เพื่อกลับไปสู่สภาพจิตเดิมอีกครั้ง ซึ่งพิจารณาดูแล้วมันก็สัมพันธ์กับข้อความในข้อที่ 1. คือ จิตยังอยู่หลังจากนิพพาน แต่ถ้าการนิพพานคือการดับไปของจิตด้วยแสดงว่าแม้แต่จิตเดิมก็ไม่เหลือใช่มั๊ยคะ?

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
prachern.s
วันที่ 14 ก.ค. 2552

เรียนความเห็นที่ ๒ ครับ

๑. ความเห็นดังกล่าวไม่ตรงกับพระธรรมวินัยครับ๒. ไม่มีจิต เจตสิก หรือการรับรู้ใดๆ อีกเลย๓.ในพระไตรปิฎกและอรรถกถาไม่มีคำว่า จิตเดิม แต่มีคำว่า จิตประภัสสร ซึ่งหมายถึง

ภวังคจิตและกุศลจิต จิตเกิดแล้วดับไป ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ถ้าเข้าใจจิต

ตามความเป็นจริงจะพ้นจากความเห็นผิดได้

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
akrapat
วันที่ 14 ก.ค. 2552

ไม่ได้ต้องการเห็นแย้งอะไรนะครับ บางที่เพราะเรายังอยากที่จะเข้าใจ นิพพานด้วยการคิด การคาดเดา เพราะตัวความคิด และเรื่องราวที่คิดเอง แม้กระทั่งคิดเรื่องสภาวะนิพพาน คิดยังไง ก็ยังไม่เข้าใจ เพราะ ตัวความคิด ก้ยัง เป็น จิต เจตสิก ยังไม่ใช่นิพพาน ปรมัตธรรม จิต เจตสิก รูป นิพพาน ก็แยกให้เห็นอย่างชัดเจน สภาวะคนอย่างกัน จะเป็นยังไงนั้นผมก็ไม่ทราบนะครับ ยังไม่เคย ประจักษ์สภาวะนั้นเหมือนกัน

นิพพาน น่าจะมีจิต แต่เป็นจิตที่ไปรู้นิพพาน ไม่ใช่ จิตที่ไปรู้เจตสิก หรือ รู้รูป แต่จิตที่ไปรู้ นิพพานนั้นไม่มีเรา คือเป็น อนัตตา แต่จิตที่ไป รู้อย่างอืน ยังเป็นอัตตา จึงมีขอบมีเขต มีจุด มีดวง ขอบเขต จุด หรือ ดวง ก็คือ สิ่งที่ จิตไปยึดถือว่าเป็นเรา แต่จิตที่รู้นิพพาน กว้างขวาง ไร้ขอบเขต และการเวลา อาจจะขัดกับตำราอภิธรรมนะครับ เพราะ กำลังใช้ บัญญัติ อธิบาย ปรมัต อาศัยการจำมาเล่าต่อ

ผิดถูกขออโหสิกรรมนะครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
ไตรสรณคมน์
วันที่ 14 ก.ค. 2552

นิพพานมีจริง

จิตและเจตสิกก็มีจริง

นิพพานเป็นอารมณ์ของจิตและเจตสิกได้

แต่นิพพานไม่ใช่สภาพรู้อารมณ์ค่ะ

และนิพพานก็ไม่มีรูปด้วย

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
ไตรสรณคมน์
วันที่ 14 ก.ค. 2552

ลองแวะเข้าไปอ่านข้อความในกระทู้นี้ดูนะคะ........เผื่อจะเข้าใจเพิ่มขึ้น

คลิกเลย >>>>> นิพพานไม่ใช่เหตุและไม่ใช่ผลอย่างไร?

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
Pongpat
วันที่ 15 ก.ค. 2552

ธรรมะ หรือสภาพธรรมทั้งหลายทั้งปวง เป็นเรื่องละเอียดลึกซึ้งจริงๆ ครับ เป็นเรื่องที่จะรู้เองคิดเองไม่ได้ เหล่าสาวกคือผู้ฟังผู้ศึกษา สอบถามผู้รู้ ผู้แตกฉาน ทุกวันนี้พระศาสดายังอยู่ คือพระธรรมวินัยนั่นเอง เพราะเหตุนี้จึงควรศึกษาพระธรรมวินัยให้ละเอียดตามลำดับ พระศาสดาท่านตรัสไว้ดีแล้ว และท่านอรรถกถาจารย์และท่านอาจารย์กรุณาขยายความไว้อย่างละเอียดเพื่อความเข้าใจของกุลบุตรรุ่นหลังๆ เพื่อเข้าใจในอรรถอันลึกนั้น

ผมจึงค้นกระทู้ที่น่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนิพพาน มาทำลิงค์ให้ศึกษาดังนี้ครับ

จิตเดิมแท้และดินแดนมาตุภูมิ

นิพพานเป็นเมืองแก้วใช่หรือไม่

จิตประภัสสร

จิตเดิมแท้ คืออะไร

คำว่า "อายตนะนั้นมีอยู่" ในปฐมนิพพานสูตร

อายตนะนิพพานคืออะไร

ทำไมต้องรู้ปรมัตถธรรม

ปรมัตถธรรมมีกี่ประเภทอะไรบ้าง

ขันธ์5 คือปรมัตถธรรม 3ประการ

ปรมัตถธรรมกับขันธ์5

นิพพานปรมัตถ์ เป็นสภาพธรรมที่ไม่รู้อารมณ์ใดๆ

จิตเป็นสภาพธรรมะที่รู้อารมณ์ เป็นสภาพรู้

เรื่องจิตประภัสสร

สภาพธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา

สภาพธรรมทั้งปวง คือ ปรมัตถธรรม 4 เป็นอนัตตา มีอยู่จริง

นิพพานคือสภาพธรรมะ สภาพธรรมะทั้งปวงคืออนัตตา

อนัตตา หมายถึงสภาพธรรมที่ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่บุคคลใดๆ เลย

ลักษณะ4เหล่าที่แสดงถึงความเป็นอนัตตา

นั่นเป็นทางแห่งความหมดจด

ศึกษาพระธรรม (พระอภิธรรมคือธรรมอันยิ่งใหญ่ ซึ่งขยายความพระสูตรและพระวินัย) ไปเพื่ออะไร

ที่มาของอรรถกถา

เหตุที่ไม่ควรลบหลู่อรรถกถา

กำลังผูกเครื่องกั้นอริยมรรค กั้นทางแห่งนิพพานอยู่หรือไม่

ลักษณะของพระนิพพาน

พระอรหันต์ที่สิ้นชีวิตลง (ปรินิพพาน) ไม่มีขันธ์ทั้ง5 (รวมทั้งจิตด้วย)

การมีพระนิพพานเป็นอารมณ์ คืออะไร

กิจที่ควรทำคือการเข้าใจว่าทุกสิ่งเป็นเพียงสภาพธรรมะ และจะเข้าถึงสภาพธรรมนั้นได้อย่างไร

นิพพานคืออะไร

เหตุใดจึงกล่าวว่า นิพพาน เป็นอนัตตา

ชื่อเรียกแทนพระนิพพาน

เมื่อปรินิพพานแล้ว ย่อมไม่มีขันธ์ทั้ง5เหลืออยู่เลย

พระพุทธองค์ทรงแต่งตั้งพระธรรมวินัยเป็นศาสดาแทนพระองค์

พระธรรมวินัย ซึ่งเป็นพระศาสดาของท่าน มีพระอภิธรรมอยู่ด้วย

สักกายทิฏฐิ คือการยึดมั่นในขันธ์ทั้ง5 ว่าเป็นตัวตน สัตว์ บุคคล

เมื่อยังเห็นเป็นเรา ตัวตน สัตว์บุคคล ก็แสดงว่ายังเห็นผิดอยู่ เป็นสักกายทิฏฐิ

ลักษณะของสักกายทิฏฐิ

สักกายทิฏฐิคืออะไร

พระโสดาบัน ผู้ถึงกระแสนิพพาน ย่อมละสักกายทิฏฐิได้

แท้จริงแล้วจิตไม่ใช่ของเรา ไม่ตั้งอยู่นาน ไม่ใช่บุคคลใดๆ

ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล คืออะไร

จิตเกิดขึ้นรู้แจ้งอารมณ์แต่ละขณะ แล้วก็ดับไปอย่างรวดเร็ว จิตที่ตั้งอยู่นานจึงไม่มี เพราะเป็นอนัตตา

จิตทีเกิดและดับสืบต่อกันอย่างรวดเร็วนั้น จำแนกลักษณะได้ถึง89ดวง ตามเหตุปัจจัยที่ทำให้เกิด จิตดวงเดียวตลอดไปจึงไม่มี

ความรวดเร็วในการเกิดดับสืบต่อกันของจิตแต่ละขณะ ทำให้เข้าใจผิดว่าจิตนิ่งได้

จิตและเจตสิกเกิดขึ้นพร้อมกันเสมอ จิตว่างจากอารมณ์จึงไม่มี

ปรมัตถธรรม4ประการ เป็นเรื่องพื้นฐานสำคัญที่ต้องศึกษาให้เข้าใจ หากไม่เข้าใจพื้นฐานสำคัญเรื่องนี้ก็จะถึงนิพพานไม่ได้

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
คนรักธรรมะ
วันที่ 15 ก.ค. 2552

ขอขอบคุณและขออนุโมทนสำหรับความเมตตาของทุกความคิดเห็น ที่มีจิตกุศลคิดช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ผู้ยังด้อยปัญญาคนนี้ค่ะ

พระธรรมที่ท่านอรรถกถาจารย์และท่านอาจารย์กรุณาขยายความเอาไว้เพื่อผู้ที่สนใจเข้ามาศีกษา ก็ยังเป็นของยากที่จะเข้าใจได้

ถ้าศึกษาโดยละเอียดต้องใช้เวลามากจริงๆ เพราะละเอียดลึกซึ้งมาก และรู้ไม่ได้ด้วยการนึกคิดจริงๆ เพราะความรู้ที่ดิฉันมีแบบโลกๆ นี่ ถึงจะจิตนาการเทียบเคียงธรรมะของพระพุทธองค์กับสิ่งที่เราเคยรู้ เห็น สัมผัส อย่างไร ก็คงไม่มีทางถูกต้องแน่นอน

แต่อย่างน้อยการได้ศึกษาไว้เป็นความรู้ไว้บ้าง ก็คงจะดีกว่าไม่รู้อะไร และดิฉันจะพยายามศึกษาข้อมูลจากลิงค์ที่ทุกท่านกรุณาส่งมาให้นะคะ

ขอทุกท่านเจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นไป ขออนุโมทนาอีกครั้งค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
วันใหม่
วันที่ 15 ก.ค. 2552

1.ตราบใดมีสิ่งหนึ่ง ตราบใดมีสถานที่ ตราบใดมีสิ่งที่ปรุงแต่ง นั่นไม่ใช่นิพพาน

2.เปลวไฟที่ดับไป หายไปไหน อยู่ที่ไหน พระอรหันต์ก็เช่นเมื่อปรินิพพานแล้ว

ย่อมไม่มีขันธ์เกิดขึ้นอีกเลย

ก่อนไปเรื่องนิพพาน สำคัญที่ความเข้าใจเบื้องต้นอันป็นเหตุให้ถึงนิพพาน

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
เมตตา
วันที่ 15 ก.ค. 2552

ปรมัตถธรรมมี 4 ประเภท คือ จิต เจตสิก รูป นิพพาน เป็นนามปรมัตถ์

๓ ประเภท คือ จิต เจตสิก นิพพาน และเป็นรูปปรมัตถ์ ๑ ประเภท

จิต เป็นใหญ่ในการรู้แจ้งอารมณ์ เจตสิก เกิดพร้อมจิต ดับพร้อมจิต รู้อารมณ์เดียวกับจิต และมีที่เกิดเดียวกับจิต รูป เป็นสภาพที่ไม่รู้อารมณ์

นิพพาน เป็นนามธรรม ไม่ใช่จิต จึงไม่สามารถรู้แจ้งอารมณ์ได้ แต่นิพพาน

เป็นอารมณ์ของโลกุตตรจิต ฉะนั้น นิพพานจึงไม่ใช่สถานที่ใดๆ ทั้งสิ้น

นิพพานเป็นสภาพธรรมที่ดับตัณหา ดับทุกข์ ดับขันธ์ นิพพานเป็นปร-

มัตถธรรมเป็นธรรมที่มีจริง ซึ่งโลกุตตรจิตสามารถรู้แจ้งนิพพานได้ การ

ที่กล่าวว่า พระนิพพานเป็นพระมหานครอันใหญ่ เป็นที่บรมสุขหาที่เปรียบมิได้ ก็เป็นโวหารที่แสดงให้เห็นความสุขอย่างยิ่งที่พ้นจากตัณหาเครื่อง

ร้อยรัดทั้งปวง ไม่ใช่เป็นพระมหานครใหญ่แต่อย่างไรค่ะ ขออนุโมทนาในกุศล-

จิตของทุกๆ ท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
pornpaon
วันที่ 16 ก.ค. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
คนรักธรรมะ
วันที่ 16 ก.ค. 2552

ขอขอบคุณและอนุโมทนาที่ท่านมาช่วยเพิ่มความกระจ่างค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
คุณ
วันที่ 18 ก.ค. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 18  
 
noynoi
วันที่ 19 ก.ค. 2552

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 19  
 
เจริญในธรรม
วันที่ 28 ก.ค. 2552
สาธุ
 
  ความคิดเห็นที่ 20  
 
จำแนกไว้ดีจ๊ะ
วันที่ 28 ก.ค. 2552
ผมเข้าใจว่า ทรงจำแนกสภาพที่ดับสิ้นไปโดยไม่มีเหตุปัจจัยสืบต่อของ จิต เจตสิค และรูปครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 24  
 
ZanTa
วันที่ 28 ก.พ. 2563

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ