什麼時候才可以瞭解真相?
จะเข้าใจความจริงได้เมื่อไหร่?
問: 我感覺到自己真的很幸運,能在此處有機會聽到各位法友及智者的問答。我曾經聽過舒淨老師說道,要用心去聆聽,去感恩,每一道的問題,因為它會幫助我們更瞭解真相。
ผู้ถาม: ดิฉันรู้สึกว่าดิฉันโชคดีมาก ที่ได้มีโอกาสมาอยู่ ณ ตรงที่นี้ มาฟังการตอบถามของทุกท่าน ของผู้เป็นบัณฑิต ดิฉันเคยได้ยินท่านอาจารย์สุจินต์กล่าวว่า ต้องตั้งใจฟัง และขอบคุณในทุกๆ คำถาม เพราะเหตุว่าคำถามเหล่านั้นจะช่วยให้ยิ่งเข้าใจความจริงเพิ่มขึ้น
Sarah: 其實不管我們討論什麼問題,什麼樣的主題,答案就是現在這一刻,是跟現在的法的真相有關係,這也就是老師一直在提醒我們的。
ซาร่า: ความจริงแล้วไม่ว่าเราจะสนทนากันเรื่องอะไร หัวข้ออะไร คำตอบก็คือเดี๋ยวนี้ ขณะนี้ ต้องเกี่ยวข้องกับความจริงของสภาพธรรม นี่เป็นคำเตือนที่ท่านอาจารย์คอยย้ำเตือนกับพวกเราอย่างสม่ำเสมอ
Ajhan Sujin: 通常,我們常常都忘了,現在有什麼 正在出現,法的真相是什麼? 這些生起的法,是因為有因緣條件而生起,而不是我們想出來的,想它也是一種法。當你對於問題的答案感到滿意,和你能夠瞭解現在這一刻正在出現的法的真相,請問,這兩者哪一個比較好?
อ.สุจินต์: โดยปกติเรามักจะลืมว่า เดี๋ยวนี้มีอะไรที่กำลังปรากฎ? และความจริงของสิ่งที่กำลังปรากฏคืออะไร? สภาพธรรมทั้งหลายที่เกิดขึ้นเป็นเพราะมีเหตุปัจจัยจึงเกิด การคิดก็เป็นธรรมะ ไม่ได้เกิดเพราะเราคิดขึ้นมา ในขณะที่รู้สึกยินดีพอใจกับคำตอบ กับ การที่สามารถที่จะเข้าใจความจริงของสภาพธรรมที่กำลังปรากฎในเดี๋ยวนี้ ขณะนี้ ขอถามว่า สองอย่างนี้ อย่างไหนดีกว่ากัน?
當我們的興趣是在別的地方時,這個興趣本身就沒有在法的真相,這樣的興趣當然不會成為,能夠去瞭解現在這一刻的真相的因緣條件。現在的法就是,例如,看,就是現在正在看,就是這麼的精細,深奧,難懂。現在在看的眼識的真相是什麼? 有沒有興趣去瞭解現在的真相,這才是最關鍵的。 那麼,現在,現在有什麼在經驗,對於去經驗的,和被經驗的真實本質是什麼,這樣的信心有嗎? 這樣的信心有沒有慢慢的在增加?
ในขณะที่ความสนใจของเราไปอยู่ตรงที่อื่น ขณะนั้นก็ไม่ได้สนใจความจริงของสิ่งที่กำลังปรากฏ ก็ไม่สามารถที่จะเป็นเหตุเป็นปัจจัยให้สนใจในสิ่งที่กำลังปรากฏเดี๋ยวนี้ ขณะนี้ได้ สภาพธรรมที่กำลังปรากฏเดี๋ยว เช่น เห็น ก็คือเดี๋ยวนี้ที่กำลังเห็น เป็นสิ่งที่ละเอียด ลึกซึ้ง ยากที่จะรู้ เดี๋ยวนี้ ความจริงของสิ่งที่กำลังเห็นคืออะไร? มีความสนใจที่จะเข้าใจความจริงในขณะนี้ไหม? นี่จึงจะเป็นจุดสำคัญ แล้วเดี๋ยวนี้ เดี๋ยวนี้มีอะไรที่กำลังรู้ มีศรัทธาที่จะค่อยๆ ศึกษาตรงลักษณะของความจริงของสิ่งนั้นหรือยัง? ศรัทรานี้ค่อยๆ เพิ่มขึ้นบ้างแล้วหรือยัง?
真相生起立即就滅去了,留下的是“影子”(nimitta),因此,我們就是活在影子的世界裡,但是,那些都已經過去了。所以,現在有什麼呢? 現在有的只是“法”而已,但我們卻一直認為是有人有某個東西。
สิ่งที่มีจริงเกิดขึ้นแล้วดับไปทันที ที่ปรากฏให้รู้ก็เป็นเพียงนิมิต ด้วยเหตุนี้ เราจึงมีชีวิตอยู่ในโลกของนิมิต แต่ทั้งหมดก็ได้ผ่านไปหมดแล้ว เพราะฉะนั้นเดี๋ยวนี้มีอะไร? เดี๋ยวนี้ สิ่งที่มีเป็นเพียงแค่ “ธรรม”เท่านั้น แต่เรากลับเข้าใจมาตลอดว่ามีคนหรือสิ่งหนึ่งสิ่งใด
倘若不能夠瞭解現在正在出現的法,就不可能瞭解法的真相就是在現在這一刻。所以,很真誠的對現在這一刻,正在出現的是什麼? 現在是不是時候,開始去知道 “現在”。
ถ้าไม่สามารถที่จะเข้าใจสภาพธรรมที่กำลังปรากฎเดี๋ยวนี้ ก็จะไม่สามารถเข้าใจความจริงเดี๋ยวนี้ ขณะนี้ได้ ดังนั้น ต้องเป็นผู้ที่จริงใจ ขณะนี้ ที่กำลังปรากฎนั้น คืออะไร? เดี๋ยวนี้ถึงเวลาหรือยัง ที่จะเริ่มเข้าใจ“เดี๋ยวนี้”?
只有波羅蜜以及堅定的信心,才能夠瞭解現在這一刻正在出現的法。當然,如果沒有佛陀的教導是不可能瞭解的,即使是理智上的知道。
มีเพียงบารมี รวมถึงศรัทธาที่มั่นคงเท่านั้น จึงจะสามารถเข้าใจสภาพธรรมที่กำลังปรากฎเดี๋ยวนี้ได้ แน่นอนว่า ถ้าไม่มีคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ไม่สามารถที่จะเข้าใจได้ แม้แต่ความรู้ขั้นปริยัติก็มีไม่ได้
所以,什麼在那裡?那裡有什麼? 什麼在出現?出現的是什麼? 就只是一個問題,現在這一刻正在出現的是什麼? 瞭解現在這一刻正在出現的是什麼,是唯一能夠幫助瞭解真相的一道路。
ดังนั้นอะไรอยู่ที่ตรงนั้น? สิ่งที่อยู่ที่นั่นคืออะไร? อะไรกำลังปรากฎ? สิ่งที่ปรากฎนั้นคืออะไร? มีเพียงปัญหาเดียวเท่านั้นคือ สิ่งที่กำลังปรากฏเดี๋ยวนี้ ขณะนี้ คืออะไร? การเข้าใจในสิ่งที่กำลังปรากฎเดี๋ยวนี้ว่าคืออะไร จะเป็นเพียงหนทางเดียวเท่านั้นที่จะช่วยให้เข้าใจความจริงได้
當然,是因為無明掩蓋住了。無明掩蓋了真相,所以我們不知道現在的真相就只是法,一直想著形狀、故事、概念、人、東西。
แน่นอนว่าเป็นเพราะว่าอวิชชาปิดบังไว้ ไม่ให้รู้ความจริง ดังนั้นเราจึงไม่รู้ความจริงของสิ่งที่กำลังปรากฏเดี๋ยวนี้ว่าก็คือธรรมะ แต่คิดอยู่ตลอดว่าเป็น รูปร่าง เรื่องราว บัญญัติ คน หรือสิ่งหนึ่งสิ่งใด
三藐三佛陀的教導是在提醒我們,不要忘了現在這一刻的真相到底是什麼?否則智慧要瞭解什麼呢。 現在這一刻的真相是什麼?這是智慧要瞭解的。
คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นสิ่งที่คอยเตือนให้พวกเราไม่ลืม ว่าความจริงของเดี๋ยวนี้ ขณะนี้ แท้จริงแล้วคืออะไร? ไม่เช่นนั้นปัญญาจะไปรู้อะไร ความจริงของ ขณะนี้ เดี๋ยวนี้ คืออะไร? นี้คือสิ่งที่ ปัญญาจะต้องเข้าใจ
在聽到這些話的時候,是什麼樣的感受呢? 一定有感受,已經有緣起感受生起了,只是感受沒有被知道。所以,生起的法就已經生起了,一刻接著一刻。現在這一刻,有感受、有記憶、有思想,但是不瞭解,這些法是跟在看是不一樣的。
ขณะที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ รู้สึกอย่างไร? ต้องมีความรู้สึกแน่ๆ เพราะมีปัจจัยให้เวทนาเกิดขึ้นแล้ว เพียงแต่ว่าเวทนานั้นยังไม่ได้ถูกรู้ ดังนั้น สภาพธรรมที่เกิดขึ้นได้เกิดขึ้นแล้ว สืบต่อกันแต่ละขณะแต่ละขณะ ขณะนี้เดี๋ยวนี้ มีเวทนา มีสัญญา มีเจตนา แต่ไม่รู้ว่าสภาพธรรมเหล่านี้นั้นต่างจากเห็น
在懷疑的那一刻,那一刻有“眼識” 嗎?
ขณะที่กำลัง ลังเลสงสัย ขณะนั้นมี "จิตเห็น" ไหม?
倘若我們不去討論 “眼識” 和 “懷疑”,那,怎麼會知道 “在看” 和在 “懷疑” 的不同? 感受也不是在看,有沒有瞭解感受?就是現在。 有沒有瞭解記憶?就是現在。 只是沒有被知道。能知道或不知道,這一切當然都是因為因緣條件。所以,能不能夠對現在的真相是什麼有興趣,當然也是因緣條件。
ถ้าไม่สนทนากันถึงเรื่อง "จิตเห็น" กับ "ความลังเลสงสัย" ให้เข้าใจ แล้วเราจะรู้ความต่างกันระหว่าง "เห็น" กับ "ความลังเลสงสัยได้อย่างไร? เวทนาก็ไม่ใช่เห็น เข้าใจเวทนาหรือยัง? ซึ่งก็คือเดี๋ยวนี้ เข้าใจสัญญาแล้วหรือยัง? ซึ่งก็คือเดี๋ยวนี้ เพียงแต่ว่ายังไม่รู้แค่นั้นเอง จะรู้ได้หรือไม่ได้ ต้องเป็นไปตามเหตุปัจจัย ดังนั้นการที่จะมีความสนใจในความจริง ก็ต้องเป็นเพราะเหตุปัจจัย
看與被看到,這兩者的特徵一樣嗎? 例如,在我們的日常生活中我們常常感受到的軟或硬,冷或熱,很簡單就可以被知道的是嗎? 但是硬的真相是什麼? 硬的真相很容易就可以被知道了是嗎? 硬的真相不能夠那麼容易就可以被知道,因為硬的真 相不是誰,不是某個東西的硬。
เห็นกับสิ่งที่ถูกเห็น สภาพทั้งสองอย่างนี้แตกต่างกันไหม? เช่น ในชีวิตประจำวันของเรา สภาพที่เรารู้สึกได้บ่อยๆ ว่าแข็งหรืออ่อน เย็นหรือร้อน สภาพธรรมเหล่านี้รู้ได้ง่ายหรือเปล่า? แต่ความจริงของแข็งคืออะไร? ความจริงของแข็งสามารถที่จะรู้ได้โดยง่ายไหม? ความจริงของแข็งไม่อาจที่จะรู้ได้ง่ายๆ เพราะเหตุว่า ความจริงของแข็งก็คือ เป็นลักษณะนั้นที่ไม่ได้เป็นของใคร ไม่ใช่สิ่งหนึ่งสิ่งใดที่แข็ง
如果不能夠瞭解現在 “在看” 的是什麼?也不可能瞭解 “硬” 是什麼? 所以,倘若沒有仔細的去思考,就會以為 “硬” 很容易的就被知道,其實 “硬” 的真相並不是我們所認為的 “硬”。
ถ้าไม่สามาถเข้าใจ "เห็น" เดี๋ยวนี้ว่าคืออะไร ก็ไม่สามารถที่จะเข้าใจแข็งได้ ถ้าไม่พิจารณาไตร่ตรองอย่างละเอียด ก็จะเข้าใจผิดว่า แข็งสามารถที่จะรู้ได้ง่าย จริงๆ แล้ว ความจริงของ "แข็ง" ไม่ใช่อย่างที่เราคิด
“聲音” 容易被瞭解嗎? 我們根本還沒有真正的知道,現在這一刻正在出現的法的本質是什麼? 因此我們就把 “聲音” 當成是誰的聲音,男的聲音,女的聲音。
"เสียง" รู้ง่ายไหม? เพราะเรายังไม่ได้รู้เลยจริงๆ ว่าเดี๋ยวนี้ขณะนี้สิ่งที่กำลังปรากฎ ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฎคืออะไร? ด้วยเหตุนี้เราจึงเข้าใจว่า"เสียง"นั้น ต้องเป็นเสียงของใคร หรือเข้าใจว่าเป็นเสียงของผู้ชายหรือผู้หญิง
首先聲音屬於誰的嗎? 沒有記憶的話,會去說這是男的聲音或這是女的聲音嗎? 所有一切每一刻的真相是有因緣條件而生起,就只是 法,並沒有誰並沒有人或某個東西的存在。
ก่อนอื่นเสียงเป็นของของใครไหม? ถ้าไม่มีสัญญาความจำ จะกล่าวได้ไหมว่านี่เป็นเสียงของผู้ชายหรือเป็นเสียงของผู้หญิง? ดังนั้น จึงต้องเข้าใจให้ถูกว่า ทั้งหมดความจริงในทุกๆ ขณะ เกิดขึ้นเพราะมีเหตุปัจจัย เป็นเพียงธรรมะเท่านั้น ไม่ได้มีใคร ไม่ได้มีคน หรือ เป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดเลย
在思考男生的聲音或女生的聲音,那一刻的真相是什麼?
ที่กำลังคิดว่านี่เป็นเสียงของผู้ชายหรือเป็นเสียงของผู้หญิง ความจริงในขณะนั้นคืออะไร?
問: 那一刻就是去思考所聽到的聲音。
ผู้ถาม: ขณะนั้นคือกำลังคิดถึงเสียงที่กำลังได้ยิน
Ajhan Sujin: 真的嗎?在那一刻只是聲音被聽到是嗎?
อ.สุจินต์: จริงหรือ? ในขณะนั้นมีเพียงแค่การได้ยินเสียงเท่านั้นหรือ?
問: 不知道。
ผู้ถาม: ไม่รู้
Ajhan Sujin: 那,什麼可以被知道?
อ.สุจินต์: แล้ว อะไรสามารถที่จะรู้ได้?
問: 聲音可以被知道。
ผู้ถาม: เสียง
Ajhan Sujin: 那,在沒有聲音的時候什麼可以被知道?
อ.สุจินต์: แล้วขณะที่ไม่มีเสียง มีอะไรปรากฏ?
問: 思考。
ผู้ถาม: ความคิด
Ajhan Sujin: 如果不是思考,還有什麼可以被知道?
อ.สุจินต์: ถ้าไม่ใช่ความคิด ยังมีอะไรอีกไหมที่ปรากฏ?
問: 出現的法,可以被知道。
ผู้ถาม: สภาพธรรมที่ปรากฎ สามารถที่จะถูกรู้ได้
Ajhan Sujin: 那是什麼?
อ.สุจินต์: แล้วสิ่งนั้นคืออะไร?
問: 那是法。
ผู้ถาม: คือธรรมะ
Ajhan Sujin: 逐漸的去瞭解現在正在出現的法,就會慢慢的放掉我存在的邪見。能不能有智慧生起去瞭解,能不能有一點一點的累積,這也是因緣條件,這個是正確的瞭解。 倘若沒有慢慢累積的開始,智慧怎麼可能逐漸的成長。
อ.สุจินต์: ค่อยๆ เข้าใจสภาพธรรมที่กำลังปรากฎ ก็จะสามารถค่อยๆ ละคลายความเห็นผิดว่ามีเรา การที่สามารถที่จะมีปัญญาเกิดขึ้นเข้าใจได้หรือไม่นั้น หรือว่า สามารถที่จะมีการสะสมทีละนิดทีละนิดได้นั้น ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัย นี่คือความเข้าใจที่ถูกต้อง แต่ถ้าไม่มีการเริ่มที่จะค่อยๆ สะสมไปทีละเล็กทีละน้อย จะมีปัญญาที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้นได้อย่างไร
所以我們在討論男性的聲音,女性的聲音時,也可以瞭解那個時候有什麼正在出現的法。那一刻是個機會去瞭解那一刻出現的法是什麼。我們別忘了討論佛法的目的就是瞭解現在這一刻正在出現的真相是什麼? 否則就會一直的忘記,一刻一刻的過去是無明也不知道。
ดังนั้น ในขณะที่เรากำลังสนทนาเรื่องเสียงของผู้ชายหรือเสียงของผู้หญิง ก็สามารถที่จะเข้าใจในขณะนั้นว่ามีสภาพธรรมอะไรปรากฎ และขณะนั้นก็เป็นโอกาสของความเข้าใจ ที่จะเข้าใจว่าสภาพธรรมที่กำลังปรากฎในขณะนั้นคือสภาพธรรมอะไร เราต้องไม่ลืมว่าจุดประสงค์ของการสนทนาธรรมก็คือเข้าใจความจริงของสภาพธรรมที่กำลังปรากฎในเดี๋ยวนี้ ขณะนี้ว่าคืออะไร? มิฉะนั้นก็จะลืมตลอด แต่ละขณะ แต่ละขณะที่ผ่านไปก็เป็นไปกับอวิชชา ก็ไม่รู้
問: 無明可以被知道是嗎?首先要先知道的,要先認 識的就是無明是嗎?
ผู้ถาม: สามารถรู้อวิชชาได้ไหม? ก่อนอื่นเลยสิ่งที่ควรรู้ก่อน คืออวิชชาความไม่รู้ ใช่ไหม?
Ajhan Sujin: 瞭解無明的深處,就是去瞭解無明有多深。然而,在瞭解的那一刻同時也一點一點的放掉無明。所以就是現在,去瞭解現在這一刻的真相就是正在建立培養智慧,智慧的建立就是瞭解,現在,這一刻正在出現的真相是什麼。
อ.สุจินต์: การเข้าใจในความลึกของอวิชชา ก็คือเข้าใจว่าอวิชชาความไม่รู้นั้นลึกมากแค่ไหน จากนั้นในขณะที่กำลังเข้าใจ ขณะนั้นก็กำลังค่อยๆ ละคลายอวิชชาทีละนิดทีละนิด ก็คือเดี๋ยวนี้ เข้าใจความจริงของเดี๋ยวนี้ คือการอบรมเจริญปัญญา ปัญญาที่เจริญขึ้นนั้นคือ เข้าใจความจริงที่กำลังปรากฎ เดี๋ยวนี้ขณะนี้
現在的困難就是無明,無明大部分都是在,只有智慧偶爾生起的那一刻,那一刻才能夠逐漸的放掉邪見。 在看的那一刻有沒有邪見?
สิ่งที่ยากในตอนนี้คืออวิชชา เพราะโดยมากก็เป็นไปกับอวิชชา มีเพียงบางขณะที่ปัญญาเกิดขึ้น ขณะนั้นจึงจะเป็นการค่อยๆ ละคลายทิฐิความเห็นผิด ขณะที่กำลังเห็นมีความเห็นผิดไหม?
問: 沒有。
ผู้ถาม: ไม่มี
Ajhan Sujin: 眼識生起之後,緊接著三個心生起滅去之後,就是慾漏、有漏、邪見漏、無明漏。但我們常常忘記,即使是聽過在看3個心之後就是有各種漏了。但是現在呢,有沒有邪見漏?什麼可以捨離邪見漏和無明漏?只有智慧生起的那一刻,那一刻可以慢慢放掉。智慧可以如實的去瞭解所出現的真相,並沒有人。 所以是時候了去瞭解,什麼叫作瞭解?
อ.สุจินต์: หลังจากจิตเห็นเกิดขึ้น ก็มีจิตเกิดดับสืบต่ออีก 3 ขณะ จากนั้นก็จะเป็นกามาสวะ ภวาสวะ ทิฏฐาสวะ อวิชชาสวะ แต่เรามักจะลืมว่า ถึงแม้ว่าเราจะได้ฟังแล้วว่าหลังเห็น 3 ขณะก็เป็นอาสวะต่างๆ แล้วตอนนี้มีอาสาวะไหม? อะไรจะละทิฏฐาสวะและอวิชาสวะได้? มีเพียงขณะที่ปัญญาเกิดขึ้นเท่านั้น ขณะนั้นถึงจะสามารถค่อยๆ ละคลายได้ ปัญญาสามารถที่จะเข้าใจถูกต้องตรงตามความเป็นจริง ว่าไม่มีคน เพราะฉะนั้น ถึงเวลาแล้วที่จะเข้าใจ อะไรที่เรียกว่าเข้าใจ?
敬感恩阿姜舒淨 (Ajhan Sujin Boriharnwanaket) 的恩惠
น้อมเคารพในคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
謹以此施法之功德與我們在輪迴裡每一世的父母 師長 同修 親友 仙人 各位讀者及其他一切眾生分享
กุศลในการนี้ ข้าพเจ้าขออุทิศแด่บิดามารดาในทุกภพทุกชาติ ครูบาอาจารย์ ญาติมิตรสหาย เทวดา และผู้อ่าน รวมถึงสัตว์ทั้งหลาย
By line group Just Dhamma
整理的內容來自於阿姜舒淨與法友線上佛法討論
หมายเหตุ
ที่มา การสนทนาธรรมออนไลน์ระหว่างท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ กับ ชาวจีน
สรุปใจความภาษาจีน โดย 陳品彤 เฉินผิ่นถง (คุณแพท)
แปลภาษาไทย โดย คุณปาล สว่างพัฒนกุล (黃如蓮)