ธรรมทุกอย่างเป็นอนัตตา สติก็เป็นอนัตตา


    ธรรมทุกอย่างเป็นอนัตตาใช่หรือไม่ใช่ ไม่ว่าจะเป็นสติ ไม่ว่าจะเป็นเห็น ไม่ว่าจะเป็นได้ยิน ธรรมชาติที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นสังขารธรรม อาศัยเหตุปัจจัยจึงเกิดขึ้น ถ้าไม่มีเหตุปัจจัยปรุงแต่งทำให้เกิดขึ้น ก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย สติเป็นสังขารธรรมด้วย ทุกอย่างที่เกิดต้องมีเหตุปัจจัย การเห็นก็ต้องมีเหตุปัจจัย โลภะก็ต้องมีเหตุปัจจัย โทสะก็ต้องมีเหตุปัจจัย ถ้าไม่เคยฟังธรรมเรื่องการเจริญสติปัฏฐาน สติปัฏฐานเคยเกิดมาก่อนไหม ก็ไม่เคย และเวลาที่ฟังธรรม ในขณะที่ฟังเข้าใจ อยากจะให้สติเกิด สติจะเกิดขึ้นเพราะความอยากได้ไหม ก็ไม่ได้อีกเหมือนกัน เพราะฉะนั้น เมื่อมีการฟัง มีความเข้าใจ เห็นคุณ เห็นประโยชน์ของสติ ได้ฟังธรรมกถาเรื่องของวิริยะ เรื่องให้เกิดศรัทธา มีฉันทะในการที่จะเจริญสติแล้ว ก็เป็นปัจจัยให้สติระลึกได้ถึงสิ่งที่เคยได้ยินได้ฟัง เมื่อมีความเข้าใจประกอบด้วยสติในขณะนั้น ก็พิจารณารู้ลักษณะของสิ่งที่กำลังปรากฏในขณะนั้น จะให้มีใครไปทำ จะเอาตัวตนมาทำอีกหรือ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ไม่สามารถละการเห็นผิดที่ยึดถือว่าเป็นตัวตนได้ การละการยึดถือสติว่าเป็นตัวตนก็ด้วยการรู้ลักษณะของธรรมชาติทั้งหลายว่า เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย แต่ไม่ใช่มีตัวตนไปเจริญสติ สติเป็นอนัตตา อาศัยเหตุปัจจัยจึงได้เกิดขึ้น ไม่ใช่ให้มีตัวตนไปบังคับให้สติเกิด ถ้าเป็นโดยในลักษณะนั้นแล้ว ก็ไม่ใช่การเจริญสติปัฏฐาน ถ้าไม่เคยฟังธรรมเรื่องการเจริญสติปัฏฐาน สติปัฏฐานก็ไม่เกิด แต่ก่อนนี้เกิดหรือไม่ แต่พอฟังแล้วเกิดไหม แต่เกิดเพราะเหตุปัจจัย ไม่ใช่เป็นตัวตนไปบังคับให้สติเกิด


    หมายเลข 2177
    31 ก.ค. 2567