ขั้นคิดพิจารณากับขั้นสติปัฏฐานต่างกัน
ผู้ฟัง ปกติจะเป็นคนที่มีโทสะอยู่บ่อยๆ เมื่อได้ฟังเรื่องสติปัฏฐาน ที่ท่านอาจารย์เคยบรรยายไว้ มีวันหนึ่งข้างๆ บ้านเขาสร้างบ้านเสียงดังมากโดยปกติแล้วจะตื่นแล้วจะโมโหในเสียง เมื่อเริ่มจะน้อมมาระลึก ก็รู้สึกว่าเสียงเป็นแค่เสียง ในช่วงเวลาหนึ่งถึงสองเดือนที่ผ่านมา ก็รู้สึกตัวเองว่าโทสะน้อยลงไปมาก ถามว่าที่หนูเปลี่ยนแปลงไป เป็นเพราะว่าการเจริญสติหรือเปล่า หรือว่าเป็นแค่การคิดของเราที่พยายามจะคิดอย่างนั้น
ท่านอาจารย์ เป็นความคิด
ผู้ฟัง ยังไม่ได้เป็นการระลึก
ท่านอาจารย์ ถ้าระลึกตั้งตรงลักษณะ ซึ่งไม่มีชื่อ อย่างแข็ง ไม่ต้องเรียกอะไรเลย แข็งจะมากจะน้อย ก็แล้วแต่ว่าสิ่งที่กำลังปรากฏ เมื่อกระทบนั้น เป็นอะไร ถ้าเป็นแป้งที่กำลังจะทำขนม ก็คงจะไม่แข็งเท่ากับเหล็ก ด้วยเหตุนี้ก็จะเข้าใจความหมายของขันธ์ รูปทุกชนิด หยาบบ้าง ละเอียดบ้าง ปรากฏลักษณะเมื่อสติสัมปชัญญะเกิด เพราะฉะนั้นก็จะเข้าใจสิ่งที่เราเคยได้ยินได้ฟัง ตัวสภาพธรรมจริงๆ ในขณะนั้น ไม่ใช่ไปจำแต่เพียงชื่อ ว่ารูปขันธ์หมายความว่าอะไร เพราะอะไรจึงเป็นรูปขันธ์ แต่ลักษณะของรูปนั่นเอง ต่างกันมาก ไม่ว่าจะเป็นรูปในอดีตรูป ในปัจจุบัน หรือรูปในอนาคต ก็เกิดเพราะเหตุปัจจัย เช่นเสียงก็ต่างกันไป เกิดแล้วก็ดับไปไม่กลับมาอีกเลย แต่ลักษณะของสภาพธรรมนั้นที่เกิดจากปัจจัยใจต่างกันก็หลากหลาย ให้รู้ว่าแม้เป็นรูปก็เป็นรูปแต่ว่ารูปต่างๆ กัน ไม่ใช่นามธรรม
ผู้ฟัง เท่ากับว่าการพิจารณาของหนู ก็คือใช้ลักษณะของการฟังแล้วคิดพิจารณา เป็นขั้นของการฝึกหรือเปล่า?
ท่านอาจารย์ ถูกต้อง
ผู้ฟัง แล้วถ้าเกิดเราจะปฏิบัติต่อไป
ท่านอาจารย์ เราจะปฏิบัติคงไม่มี เข้าใจขึ้นเรื่อยๆ ฟังบ่อยๆ จนกระทั่งมีความมั่นคงในหนทางที่ถูกต้อง ที่จะไม่หลงทาง