กัมมปัจจัย
อ.กุลวิไล เรื่องของกัมมปัจจัย ต้องทราบว่าด้วยว่า อะไรเป็นปัจจัย และอะไรเป็นผลที่เกิดจากปัจจัยนั้น ที่สนทนากันมาพูดถึงกัมมปัจจัย ซึ่งเป็นเจตนาเจตสิก แต่กัมมปัจจัยมี ๒ อย่าง คือ สหชาตกัมมปัจจัย และนานักขณิกกัมมปัจจัย ชื่อก็บอกว่า สหชาตะ เจตนาที่ต้องเกิดพร้อมกันกับผล
เพราะฉะนั้น โดยชาติแล้ว จิตมี ๔ ชาติ เจตนาเจตสิกเกิดกับจิตทุกประเภทเป็นสหชาตกัมมปัจจัยได้ แต่พอเป็นนัยของนานักขณิกกัมมปัจจัย จะต้องเป็นเจตนาเจตสิกเหมือนกัน แต่ต้องต่างจากผลที่เกิดจากปัจจัยนี้
เพราะฉะนั้น เจตนาเจตสิกที่เกิดกับกุศลจิตหรืออกุศลจิตเป็นนานักขณิกกัมมปัจจัยแก่ผลที่เป็นชาติวิบากนั่นเอง อย่างจิตเห็นขณะนี้เป็นผลของกรรมเป็นชาติวิบาก เป็นผลที่เกิดจากนานักขณิกกัมมปัจจัยได้ แต่จิตเห็นขณะนี้เป็นกัมมปัจจัยประเภทใดได้บ้าง เพราะถ้าพูดถึงกัมมปัจจัยจะต้องหมายถึงเจตนาเจตสิก เพราะฉะนั้น เจตนาเจตสิกที่เกิดกับจิตเห็นเป็นกัมมปัจจัยได้ไหม
ผู้ฟัง ก็เป็นกัมมปัจจัย เป็นสหชาตกัมมปัจจัย แล้วก็เป็นปัจจยุบันของนานักขณิกกัมมปัจจัยในอดีต
อ.กุลวิไล เพราะฉะนั้น จะเห็นถึงความต่างกันว่า ธรรมเป็นปัจจัย และธรรมใดเป็นผลที่เกิดจากปัจจัยนั้น โดยนัยของกัมมปัจจัย
ผู้ฟัง ถ้าเจตนาเจตสิกที่เกิดกับกุศลหรืออกุศลในขณะนี้ยังไม่เป็นนานักขณิกกัมมปัจจัย ใช่ไหมคะ เพราะว่ายังไม่ได้ให้ผลเกิดขึ้น
ท่านอาจารย์ ผลยังไม่เกิดแล้วจะเป็นปัจจัยแก่อะไร