เป็นทางสายเดียว
ผู้ฟัง ขอเรียนถามอาจารย์ จากการศึกษา เราทราบว่า พระพุทธเจ้าสอนให้ทุกคน ไม่ใช่เป็นเพียงแค่คนดี จุดประสงค์สูงสุดของศาสนา คือ ให้หลุดพ้นจากสังสารวัฏฏ์ ถ้าเปรียบเทียบแล้ว การที่เรามีความเพียร ที่จะออกจากสังสารวัฏฏ์ ถ้าเปรียบเหมือนกับการว่ายน้ำอยู่ในทะเล เราก็คงจะอยู่กลางทะเล ซึ่งไกลจากฝั่งมาก บางครั้งเราก็มีความเพียรมาก ที่จะอยากให้ถึงฝั่ง แต่นั่นก็เป็นโลภะ หรือบางครั้งก็อาจจะท้อถอยมาก เพราะความที่รู้สึกว่าไกล แล้วก็มองไม่เห็นฝั่งเลย ก็มีความท้อ อาจจะด้วยโทสะ เราจะมีวิธีพิจารณาอย่างไร ที่เราจะเดินทางไกล ด้วยความไม่เพียรจนเกินไป หรือว่าไม่ท้อจนเกินไป
ท่านอาจารย์ ฟังแล้วก็รู้สึกเหมือนกับว่า จะทำอีกเหมือนกัน คือ การจะทำมีหลายลักษณะ จะทำผิดๆ อย่างเห็นชัด หรือว่าถึงแม้ว่าจะมีความเข้าใจอยู่บ้าง ก็ยังมีความรู้สึกเหมือนกับว่า ทำอย่างไร หรือว่าทางไหนจะเป็นทางสายกลาง แต่ถ้าเราจะพิจารณาให้ลึกๆ ลงไป แม้แต่การที่ต้องการจะออกจากสังสารวัฏฏ์ ด้วยความเป็นเรา หรือว่าที่เพียร ก็ยังเป็นเราที่เพียร หนีความเป็นเราไปไม่ได้เลย ตราบใดที่ไม่รู้ลักษณะของสภาพธรรม ที่กำลังปรากฏในขณะนี้ตามความเป็นจริงว่า ไม่มีเรา แต่ว่ามีสภาพธรรม
เพราะฉะนั้นปัญญา ก็คือ สภาพธรรม ที่สามารถจะอบรม จนกระทั่งเข้าใจความจริง แต่ว่าไม่ใช่ด้วยความเป็นเรา และเราก็อยากจะเพียร เรายังไม่หมดความเป็นตัวตน เพราะไม่รู้ความจริงของสภาพธรรม
ผู้ฟัง ถ้าอย่างนั้นจะกล่าวได้ไหม ว่าทางสายกลางที่ถูก คือ การเจริญสติปัฎฐาน เพื่อที่จะละคลายความเป็นตัวตน จนกระทั่งไม่เห็นผิดว่าเป็นตัวตนแล้ว นั่นคือ การเดินทางไปถึงฝั่งที่ถูกต้องจริงๆ ใช่ไหม
ท่านอาจารย์ เป็นทางสายเดียว
ผู้ฟัง ขอบคุณค่ะ
อ.นิภัทร ฟังดูแล้วเหมือนจะมีรูปแบบ ใครๆ ก็อยากจะหารูป หาแบบ หาฟอร์ม หาอะไรต่ออะไร นั้นไม่ใช่เป็นเรื่องที่ถูก ท่านอาจารย์ได้พร่ำสอนอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน เป็นเรื่องฟัง ฟังที่อาจารย์พูด แล้วเข้าใจ แล้วไม่ต้องไปห่วงเรื่องว่า แค่นี้เพียรหรือยัง นี้เป็นอย่างนั้นแล้วหรือยัง เมื่อความเข้าใจเขาได้เหตุ ได้ปัจจัยพอ เขาก็จะระลึก แล้วเขาก็ทำงานเขาเอง ธรรม ยุติธรรมที่สุดเลย