เมตตาแม้คนไม่ดี
ท่านอาจารย์ เรากำลังคบคนไม่ดี ขณะนั้นจิตเป็นอะไร ที่สำคัญที่สุดก็คือ แม้จิตก็ไม่ใช่ของใคร สะสมสืบต่อมาแต่ละหนึ่ง ขณะนี้ก้าวก่ายสับสนกันไม่ได้เลย แต่ละหนึ่งที่ดับไป เป็นปัจจัยให้ขณะต่อไปเกิดขึ้น สืบต่อสะสมกุศล และอกุศลทั้งหมดที่ได้เกิดขึ้นแล้ว
เพราะฉะนั้น แต่ละคนก็แต่ละหนึ่ง มีโอกาสได้ฟังพระธรรม ก็มีโอกาสได้รู้ว่า กุศลต้องเป็นกุศล อกุศลต้องเป็นอกุศล
เพราะฉะนั้น อกุศลของใครก็ของคนนั้น คนนั้นน่ารังเกียจเพราะเหตุว่ามีธรรมะที่เป็นอกุศลที่สะสมมามาก เพราะฉะนั้น กายวาจาของเขาก็ต้องเป็นไปตามการสะสม เพราะฉะนั้น ผู้ที่ได้ฟังธรรมะแล้วก็จะได้พบกับคนอย่างนั้นด้วย ไม่ใช่ไม่พบ แล้วกุศลอยู่ไหน อกุศลอยู่ไหน
ผู้ฟัง ก็อยู่ที่ผู้ฟังธรรม
ท่านอาจารย์ เมื่อเข้าใจถูกต้อง แต่ไม่ใช่ให้แนะนำ หรือให้บอก หรือให้คิดอย่างนี้ หรือให้ทำอย่างนี้ แต่ต้องเป็นผู้ตรง เพราะปัญญาเท่านั้นที่สามารถรู้ตามความเป็นจริงตรงต่อความเป็นจริงได้
ด้วยเหตุนี้คนที่ไม่ดีเลย มีอกุศลมากๆ รู้สึกวันหนึ่งจะหากุศลไม่ได้เลย ก็อาจจะมี มีไหมคะ
อ.คำปั่น ถ้าอกุศลครอบงำมาก ก็แทบจะหากุศลไม่ได้เลยครับ
ท่านอาจารย์ ไม่ต้องไกลเลย คนใกล้ แล้วไม่ต้องไกลถึงคนใกล้ เราเอง บางวันมีกุศลบ้างไหม หรือมีกุศลบางวันมากกว่าอกุศล หรือบางวันก็มีอกุศล และกุศล แล้วแต่ว่าอะไรจะมากจะน้อย ก็คือคนที่ได้ตรัสไว้แล้วว่า เป็นคนประเภทไหน ดีเลวขนาดไหน เพราะฉะนั้น ธรรมะเหมือนกันหมด ไม่ใช่เราจะเข้าข้างตัวเอง แล้วไปตัดสินว่า คนโน้นไม่ดี เราควรจะอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ธรรมะต้องเป็นธรรมะ
เพราะฉะนั้น ปัญญาสามารถรู้ได้ว่า ไม่มีใครอยากไม่ดี แต่ไม่รู้ว่า อะไรไม่ดี เมื่อไม่รู้เพราะขาดปัญญาจึงไม่ดีอย่างมากๆ
เพราะฉะนั้น คนที่มีปัญญาที่สามารถเห็นถูกเท่านั้นที่จะรู้จริงๆ ว่า ขณะไหนเป็นธรรมะฝ่ายดี และขณะไหนเป็นธรรมะฝ่ายไม่ดี แล้วปัญญานั้นเอง ไม่ใช่เราที่จะรู้หนทางที่ทำให้ความดี หรือปัญญานั้นเพิ่มขึ้น ไม่ใช่ใครคนหนึ่งคนใดจะไปบอก ไปสอน จะทำ จะชวน แต่ต้องเป็นการที่คนนั้นมีโอกาสได้ยินได้ฟัง ได้ไตร่ตรอง ได้เข้าใจ ได้พิจารณา
เพราะฉะนั้น อาจจะเริ่มคิดตั้งแต่เดี๋ยวนี้ก็ได้ เราต้องพบคนมากมายอยู่เสมอ บางคนดี บางคนชั่ว และขณะนั้นจิตของเราเป็นอะไร ตั้งแต่เช้ามาจนกระทั่งพบเขา เป็นอะไร สำคัญที่ไหน สำคัญที่เขา หรือสำคัญที่เราเอง ตัวเองที่จะรู้ว่า ไม่มีใครอยากไม่ดี แต่ไม่ดีเพราะไม่รู้ อันนี้แน่นอนที่สุด ถ้าปัญญาเกิดไม่มีทางที่จะน้อมไปฝ่ายอกุศล แต่เพราะไม่มีปัญญา เพราะไม่รู้จึงเป็นอกุศล
ด้วยเหตุนี้คนที่ไม่รู้ คนที่มีอกุศล น่าสงสารไหมคะ หรือจะโกรธเขาดี ถ้าสามารถจะช่วยคนนั้นให้เป็นคนดีสักนิดหนึ่ง พร้อมจะทำทันทีไม่รีรอเลย เพราะความดีเป็นสิ่งที่หายากมาก โอกาสที่จะเกิดขึ้นก็ยาก เกิดก็น้อย แล้วก็หมดไปอีก
เพราะฉะนั้น ถ้าใครสามารถมีความดีแม้สัก ๑ ขณะ หรือสั้นแสนสั้นก็ตามแต่ ก็ยังดีกว่าไม่มีเลย
เพราะฉะนั้น การคบ หมายความว่า ถ้าสามารถจะอนุเคราะห์ให้คนนั้นได้เป็นคนดีสักหน่อยหนึ่ง หรือมากๆ ก็ยิ่งดี ควรคบไหมคะ ถ้าเข้าใจธรรมะจริงๆ และคนก็มีทั้งดีทั้งชั่ว จะเห็นใจเฉพาะบางคน หรือเห็นใจทุกคนที่ไม่รู้ความจริงด้วย เพราะเหตุว่าความจริงเป็นสิ่งที่รู้ยากมาก แม้แต่ขณะนี้ ขณะไหนเป็นวิบากจิต ขณะไหนเป็นกุศลจิต ขณะไหนเป็นอกุศลจิต ขณะไหนเป็นกิริยาจิต ใครรู้คะ ไม่มีทางรู้ได้เลย แต่ฟังเพื่อเข้าใจขึ้นว่า ไม่มีเรา ไม่มีเขา มีแต่ธรรมะที่เป็นฝ่ายกุศล และอกุศล
เพราะฉะนั้น ถ้าได้พบคนไม่ดี ถ้าเป็นอกุศลก็รังเกียจ หรือโกรธ หรือไม่พอใจ หรือตำหนิ หรือแม้แต่ในใจคิดสักเล็กน้อยที่จะไม่พอใจในความไม่ดีนั้น ขณะนั้นก็เป็นอกุศล แต่ถ้าสะสมอกุศลไว้มากๆ ก็จะรู้เลยว่า น่าสงสารคนไม่ดี และถ้ามีทางจะช่วยได้ จะช่วยไหม ก็เป็นเรื่องที่ทุกคนจะได้รู้ว่า เวลาพบคนไม่ดี จิตใจหวั่นไหว หรือเปล่า หรือมีความเป็นมิตร แม้ว่าเขาไม่ดี คือ ไม่เป็นศัตรูกับเขาเลย พร้อมจะเกื้อกูล ทำทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นประโยชน์ แต่ไม่ทำสิ่งที่เป็นโทษ
เพราะฉะนั้น บางคนเผินๆ ใครทำอะไรกับเรา เป็นการช่วยเหลือก็ตาม การช่วยเหลือนั้นเป็นสิ่งที่ดี ทำให้พ้นทุกข์ร้อน หรือพ้นอันตรายใดๆ ก็แล้วแต่ จะตอบแทนคุณเขาอย่างไร ถ้าเขาให้ทำชั่ว จะทำชั่ว หรือ นั่นไม่ใช่การตอบแทนคุณ
เพราะฉะนั้น การตอบแทนคุณของผู้ทำดีกับเรา หนทางเดียวคือทำดี ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ แต่ไม่ใช่เขาบอกให้ทำชั่วก็ทำ เพราะเขาเคยทำคุณกับเรา อย่างนั้นไม่ใช่
เพราะฉะนั้น ธรรมะเป็นเรื่องตรง และเป็นเรื่องอุปการะทุกชีวิตที่สามารถเจริญขึ้นในกุศลธรรม ด้วยปัญญา ความเห็นที่ถูกต้อง แต่ถ้าเข้าใจไม่ถูกต้องเพราะไม่รู้ ก็ทำทุกอย่างด้วยความไม่รู้ เพราะด้วยความไม่รู้จึงเป็นโลภะบ้าง เป็นโทสะบ้าง เป็นอกุศลประเภทต่างๆ บ้าง
เพราะฉะนั้น ที่สำคัญที่สุด แม้พระสูตรที่แสดงไว้ ต้องสอดคล้องกันทั้งหมด เมตตา จำกัดไหมว่าต้องเฉพาะคนดี เมตตาคือความเป็นมิตร ความหวังดี การทำประโยชน์เกื้อกูลทันทีที่สามารถทำได้ เมตตาจำปรารถนา หรือมีประโยชน์ในที่ทั้งปวง ไม่เว้นเลย ไม่ว่าภพไหน ภูมิไหนด้วย
เพราะฉะนั้น การศึกษาธรรมะจึงต้องละเอียดที่จะรู้ประโยชน์ว่า ประเด็นคืออะไร คือ ความเห็นถูกต้อง ประโยชน์ คือ เข้าใจถูก และประพฤติปฏิบัติตามเพราะเข้าใจแล้ว แต่ถ้าไม่เข้าใจ ใครจะบอกอย่างไรก็ไม่สามารถทำได้ เพราะเหตุว่าไม่เข้าใจ
ด้วยเหตุนี้ที่สำคัญที่สุดก็คือเข้าใจ
อ.คำปั่น ในความเป็นจริงของความสงสารคนไม่ดีจะมีในลักษณะอย่างไร
ท่านอาจารย์ สงสารหมายความถึงเห็นใจ ตั้งแต่ว่า เขาไม่รู้เลยว่า อะไรดี อะไรชั่วจึงทำสิ่งที่ไม่ดี เพราะความไม่รู้ และน่าสงสารที่จะได้รับผลของกรรมนั้นแน่นอน ใครจะช่วยไม่ได้เลย แม่ช่วยลูกได้ไหม ถ้าลูกเจ็บไข้ได้ป่วย หรือได้รับผลของกรรมที่ลูกทำแล้ว
เพราะฉะนั้น ใครก็ตามที่ได้ทำอกุศลกรรม เราจะต้องไปเดือดร้อน หรืออยากให้เขาตกนรกเร็วๆ หรือเปล่าคะ ในเมื่อต้องไปอยู่แล้ว และไปนานด้วยถ้าเขาทำกรรมที่หนักมาก และเมื่อไรจะพ้นจากภาวะอันนั้น