ต่างกันที่ปัญญา


    ผู้ฟัง ทีนี้ตามที่อาจารย์ว่า สติปัฏฐาน สติปัฏฐานฟังดูแล้วรู้สึกว่าก็สำคัญ ก็เข้าใจแล้ว ทีนี้สติมันมีหลายขั้น ใช่ไหมครับ หมายถึงว่า ไม่ใช่เฉพาะสติปัฏฐาน สติเกิดกับอย่างอื่นก็ได้ ใช่ไหมครับ

    ส. ขณะที่ให้ทาน หรือให้สิ่งที่เป็นประโยชน์แก่คนอื่น โดยสภาพปรมัตถธรรม คือ ไม่ใช่เรา แต่เป็นกุศลจิต ขณะใดที่กุศลจิตเกิดขึ้นต้องประกอบด้วยโสภณเจตสิกอย่างน้อยที่สุด ๑๙ ประเภท แล้วใน ๑๙ นั้นก็มีสติเจตสิกอยู่ด้วย เพราะฉะนั้น ก็เป็นสตินั่นเองที่ระลึกเป็นไปในทานขณะที่ให้ หรือว่าขณะที่วิรัติทุจริต ก็เป็นสติที่เกิดขึ้น พร้อมกับเจตสิกอื่นๆ ที่เป็นโสภณเจตสิก ระลึกในการที่จะวิรัติทุจริต ที่เป็น วาริตศีล ถ้าเป็นไปในทางที่เหมาะควร ก็เป็นจาริตศีล

    ผู้ฟัง ผมจะถามอาจารย์ต่อไปว่า สติขั้นทานกับสติปัฏฐาน มันเป็นสติตัวเดียวกันหรือเปล่า

    ส. ขณะที่ให้ทาน ก็คงจะมีมากบ่อยๆ ในชีวิตประจำวัน แต่ไม่รู้ว่า ขณะนั้นเป็นเพียงสภาพธรรมะที่ไม่ใช่เรา แต่ว่าเวลาที่เป็นสติปัฏฐาน ก็คือว่า เริ่มระลึกลักษณะของปรมัตถธรรม สิ่งที่มีจริง เพื่อจะได้เข้าใจถูกต้องตามความเป็นจริงว่า เป็นธรรมะแต่ละอย่างที่ปรากฏเกิดขึ้นตามเหตุตามปัจจัย

    ผู้ฟัง ทีนี้ผมจะถามว่า ข้อต่างระหว่างสติปัฏฐานกับสติขั้นทาน หรือขั้นศีล ต่างกันคืออะไรครับ

    ส. ปัญญา

    ผู้ฟัง ต่างกันที่ปัญญา

    ส. ปกติธรรมดาเวลาให้ทาน มีปัญญาเกิดร่วมด้วยหรือเปล่าคะ

    ผู้ฟัง บางครั้งอาจจะมีศรัทธา ขาดปัญญาก็ได้

    ส. แต่สำหรับสติปัฏฐาน ถ้าไม่มีปัญญา เจริญไม่ได้

    ผู้ฟัง ทีนี้ สติ แปลว่าระลึกได้ ใช่ไหมครับ

    ส. ระลึก เป็นกุศลที่ระลึก

    ผู้ฟัง ครับเข้าใจ เพราะว่าสติเกิดกับกุศลอย่างเดียว ไม่เกิดกับอกุศล อันนี้ผมเข้าใจแล้วครับ อันนี้ผมจะถามว่า การระลึก สติระลึกถึงอะไร สิ่งนั้นเป็นอารมณ์ของสติ อย่างนี้ใช่ไหมครับ

    ส. เพราะว่าสติเป็นนามธรรม ก็ต้องมีอารมณ์ คือ สิ่งที่กำลังรู้

    ผู้ฟัง ทีนี้ผมจะถามต่อไปว่า สติต้องระลึกสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ที่เป็นปัจจุบันอารมณ์ หรือว่าระลึกถึงอารมณ์เมื่อวาน ได้

    ส. สติปัฏฐานหรือคะ สติปัฏฐาน คือ ขณะนี้มีสภาพธรรมะที่ปรากฏเกิดขึ้นแล้วดับไปอย่างรวดเร็ว การที่จะรู้ความจริงก็ต้องรู้ลักษณะของสภาพธรรมะที่ปรากฏ เมื่ออบรมเจริญปัญญาเพิ่มขึ้น จึงสามารถจะประจักษ์การเกิดดับได้

    ผู้ฟัง ในปัจจุบันนี้

    ส. กำลังปรากฏ

    ผู้ฟัง ถ้าระลึกถึงเมื่อวานนี้ ถือว่าเป็นสติปัฏฐาน ได้ไหมครับ

    ส. อะไรกำลังปรากฏ

    ผู้ฟัง เมื่อวานนี้มันดับแล้ว

    ส. เมื่อวานนี้ ปรากฏหรือคะ

    ผู้ฟัง เมื่อวานดับไปหมดแล้ว

    ส. ดับไปแล้ว สติก็ไม่สามารถจะไปรู้สิ่งที่ไม่มี ไม่ปรากฏ

    ผู้ฟัง ที่ผมถาม ผมสงสัยว่า สติ คือการระลึกได้ ระลึกที่เมื่อวานนี้ หรือระลึกที่กำลังปรากฏเดี๋ยวนี้

    ส. สติ ถ้าเป็นการที่ระลึกอย่างที่คนไทยใช้คำว่า คิดหรือระลึกได้ เวลาที่ขณะนั้นเป็นอกุศลจิต ไม่ใช่สติ แต่เป็นสภาพของวิตกเจตสิก เป็นเจตสิกอีกประเภทหนึ่งจะคิดเรื่องเก่าๆ ประวัติศาสตร์ แล้วก็จะคิดเรื่องของตัวเอง เมื่อกี่ ๑๐ ปีมาแล้ว ขณะใดที่ไม่ใช่กุศลจิต ขณะนั้นก็ต้องเป็นวิตกเจตสิก ไม่ใช่สติ เพราะฉะนั้น สติ คือ ขณะใดที่เป็นกุศล มีสติเจตสิกเกิดร่วมด้วย ขณะนั้นระลึกเป็นไปในทาน ในศีล ในภาวนา


    หมายเลข 10199
    10 ส.ค. 2567