พึ่งธรรมได้อย่างไร


    ผู้ฟัง ในที่นี้เขาบอกว่า เฉพาะภรรยาอย่างเดียว เขาไม่ได้บอกว่ามีเพื่อนเยอะ เพราะฉะนั้น ภรรยาก็เป็นมิตรชั่วได้ ใช่ไหมครับ

    ส. ในนี้ไม่ได้บอกความละเอียดไว้ เพราะฉะนั้น แต่ละคนไม่สามารถที่จะรู้จักตัวเองจริงๆ ถ้าพระผู้มีพระภาคไม่ทรงแสดงว่า ในอดีตเขาเคยสะสมมาอย่างไร พร้อมที่ว่าถ้าในปฐมวัยสามารถที่จะบรรลุถึงความเป็นพระอรหันต์ เพราะฉะนั้น ก็เป็นเรื่องของการสะสมจริงๆ แล้ววันไหนในสังสารวัฏข้างหน้าที่แต่ละคนอาจจะมีทรัพย์ ๘๐ โกฏิ แล้วก็สามารถบรรลุเป็นพระอรหันต์ในปฐมวัย แต่ไม่บรรลุ เพราะฉะนั้น ก็แล้วแต่ปัจจัยหลายอย่าง ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ไม่ควรจะประมาทเลย แต่ว่าตามความเป็นจริงก็คือว่า ไม่ว่าจะกล่าวถึงเรื่องบุตรเศรษฐี ซึ่งสามารถรู้แจ้งอริยสัจธรรมถึงความเป็นพระอรหันต์ในปฐมวัย แต่เรื่องของคนอื่นก็เป็นเรื่องของคนอื่น เรื่องของแต่ละคนก็เป็นเรื่องจริงที่สามารถจะรู้ได้เฉพาะตัวว่า ขณะที่ฟังธรรมะ มีความเข้าใจในธรรมะ ในเรื่องของสภาพธรรมะ หรือในธรรมะที่กำลังปรากฏมากน้อยแค่ไหน ก็เป็นเรื่องที่แต่ละคนจะต้องสะสมไป ไม่ใช่เพียงฟังเฉยๆ เรื่องบุตรเศรษฐี ๘๐ โกฏิ กับภรรยาอีก ๘๐ โกฏิ ก็เป็นเรื่องสนุก ก็แสดงให้เห็นว่า ใช้ทรัพย์กันอย่างมากมาย แล้วในที่สุดก็ต้องขอทานเขา ก็เพียงแค่นั้น แต่ตามความเป็นจริงก็ควรจะได้รู้จักตัวเองด้วยว่า ในชีวิตอาจจะเป็นอย่างนั้นหรือว่าอาจจะเป็นอย่างนี้ ก็แล้วแต่ แต่ว่าข้อสำคัญก็คือว่า แม้ทั้ง ๒ ท่านสามารถที่จะรู้แจ้งอริยสัจธรรม ก็ยังไม่มีปัจจัยพอที่จะได้บรรลุ แต่ว่าสะสมมาแล้วในชาตินั้นที่จะบรรลุได้ เพราะฉะนั้น กว่าชีวิตจะถึงวันที่จะถึงพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าอีกพระองค์หนึ่งหรือไม่ หรือว่าอีกหลายๆ พระองค์ ที่จะสามารถรู้ได้ว่า แต่ละคนสะสมมามากน้อยเท่าไรก็เป็นเรื่องของชาตินี้จริงๆ ซึ่งแต่ละคนสามารถที่จะทราบได้

    เพราะฉะนั้น ทุกๆ ชาติก็เฉพาะตัว ที่จะรู้ได้ว่ากำลังสะสม มากน้อยแค่ไหนก็ตามความเป็นจริงอย่างนั้น

    ผู้ฟัง สรุปว่า ที่อยู่มีเงินตั้ง ๑๖๐ โกฏิ ยังเป็นที่พึ่งไม่ได้ ใช่ไหมครับ ผมอยากให้อาจารย์อธิบาย คำว่า ธรรมะเป็นที่พึ่ง เพื่อจะได้เข้าใจว่า บางทีเราศึกษาธรรมะ ธรรมะเป็นที่พึ่ง ไม่เห็นพึ่งอย่างไรเลย กลับไปบ้าน ยังหิวข้าว ยังกินข้าวอยู่เลย ให้อาจารย์อธิบายว่าให้เห็นว่า ธรรมะเป็นที่พึ่งอย่างไรครับ

    ส. พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าต้องเสวยหรือเปล่าคะ เป็นพระบรมศาสดา พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ตราบใดที่ยังมีรูป ไม่ใช่อรูปพรหม ถ้าเป็นรูปพรหมก็ไม่ต้องบริโภคอาหารเป็นคำๆ หรือเทวดาก็มีอาหารทิพย์ ไม่ลำบากอย่างของเรา ซึ่งกว่าจะได้มาแต่ละอย่างที่มาปรากฏอยู่ในจาน ต้องไปถึงตลาด เรื่องมาก เยอะ กว่าจะสำเร็จไปแต่ละมื้อ แต่ละคราว เพราะฉะนั้น ก็เป็นเรื่องที่เห็นความต่างกัน แต่ว่าตราบใดก็ตามที่มีนามธรรมกับรูปธรรม ต้องดำรงอยู่ได้ด้วยอาหาร

    อ.สมพร เรื่องหลักใหญ่ ปัญญา การเจริญสติปัฏฐาน ต้องปัญญา ต้องคบสัตบุรุษ ต้องคบเพื่อนที่ดี คือ กัลยาณมิตรก็ได้ หรือสัตบุรุษก็ได้ ถ้ามิฉะนั้นแล้วเราไปคบเพื่อนชั่ว มีทรัพย์เท่าไรๆ อย่าว่าแต่เท่านี้เลย มากกว่านี้ก็พินาศได้ ท้ายที่สุดก็จะต้องหมดเนื้อหมดตัว ตายเปล่าๆ ไม่มีสาระเลย

    เพราะฉะนั้น หลักใหญ่ที่จะทำให้ปัญญาเกิดขึ้นต้องคบกัลยาณมิตร หรือสัตบุรุษ เมื่อคบแล้วกัลยาณมิตรจะพูดอะไรกับเรา ก็พูดแนะนำประโยชน์ให้กับเรา ก็คือเรื่องสติปัฏฐาน นี้เป็นประโยชน์อย่างสูงสุด ถ้าเราไปคบมิตรชั่ว ก็พาเราไปมัวเมาในสิ่งที่ไม่มีสาระ เพราะฉะนั้น เรื่องปัญญาจะทำให้เราพ้นทุกข์ ก็คือการคบ

    ผู้ฟัง ดูเหมือนต้องการทราบว่า ธรรมะเป็นที่พึ่ง ให้อาจารย์อธิบายให้ผมฟังหน่อยครับ คำว่าธรรมะเป็นที่พึ่ง

    ส. ทุกอย่างเป็นธรรมะ ธรรมะฝ่ายดีก็มี ฝ่ายไม่ดีก็มี เพราะฉะนั้น ถ้าเป็นอกุศลกรรมพึ่งไม่ได้แน่ แต่ทางฝ่ายกุศลกรรมก็พึ่งได้ตามลำดับขั้นของกุศลนั้นๆ เช่น ถ้ากุศลที่เป็นไปในทาน ก็ทำให้ผล คือ สามารถที่จะมีวิบากจิตที่ดี แล้วก็ได้รูป ได้เสียง ได้กลิ่น ได้รส ได้สัมผัสที่น่าพอใจ เพราะว่าเป็นผลของกุศล ไม่ว่าจะเป็นกุศลขั้นทาน ขั้นศีล หรือขั้นสมถภาวนา ก็ไม่พ้นจากสังสารวัฏ ถ้าพึ่งจริงๆ อย่างทุกคนก็กล่าวคำถึงพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง คือทั้งพระพุทธรัตนะ พระธรรมรัตนะ พระสังฆรัตนะ แต่พึ่งแล้วหรือยัง หรือว่าพึ่งหรือเปล่า เช่น มีพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง จะพึ่งในลักษณะไหน ถ้าพึ่งในลักษณะที่ขอ พอมีทุกข์ยากก็ขอ ขอใครดี ขอพระพุทธเจ้าก็คงจะดี ก็ไปนั่งกราบไหว้ แล้วก็ขอ อย่างนั้นพระองค์ไม่ได้เป็นที่พึ่งอย่างนั้น แต่ที่พึ่งเหนือบุคคลอื่นที่เราจะพึ่งได้ ก็คือพึ่งพระปัญญาคุณ พระบริสุทธิคุณ พระมหากรุณาคุณ ที่ทรงแสดงพระธรรมให้เราสามารถที่จะเกิดปัญญารู้สภาพธรรมะที่กำลังปรากฏ ตามปกติตามความเป็นจริงขึ้นทีละเล็กทีละน้อย จนกว่าจะประจักษ์แจ้ง นี่จึงจะเป็นการพึ่งพระปัญญาคุณ ซึ่งการพึ่งพระธรรมก็เช่นเดียวกัน ถ้าไม่ทรงแสดงพระธรรมให้บุคคลได้ศึกษาได้เข้าใจ ก็ไม่มีทางที่เราจะพึ่งพระธรรมได้เลย เพราะว่าเราไม่สามารถที่จะรู้ว่า พระธรรมที่ตรัสรู้ และทรงแสดงนั้นคืออะไรบ้าง แต่ว่าเมื่อได้ศึกษาแล้วก็สามรถที่จะทราบได้ว่า ธรรมะซึ่งจะเป็นที่พึ่งก็คือโพธิปักขิยธรรม เพราะเหตุว่าพึ่งให้เราได้ถึงที่สุดของสังสารวัฏ

    ผู้ฟัง ถ้าเรามีธรรมะเป็นที่พึ่ง ตอนนี้เท่ากับว่า บุตรเศรษฐีที่มีเงิน ๑๖๐ โกฏิ คงไม่หมด หมายถึงว่า เขามีธรรมะอยู่ในใจก็เป็นที่พึ่ง

    ส. เรื่องเงินคงไม่สำคัญเท่าปัญญา เพราะว่ามีเงินเท่าไรก็ไม่สามารถที่จะซื้อนิพพานได้ หรือว่าจะทำให้เป็นพระอริยบุคคล ก็ไม่ได้

    ผู้ฟัง ผมเรียนถามอาจารย์อีกอย่าง คือ ธรรมะก็มีเยอะ ธรรมะที่เป็นใหญ่ที่สุด คือข้อไหน ธรรมข้อไหน

    ส. อนัตตาหมายความถึงอะไร เป็นลักษณะของสภาพธรรมะทุกอย่าง คือ ไม่สามารถจะบังคับบัญชาได้


    หมายเลข 10207
    10 ส.ค. 2567