ยิ่งติด ยิ่งทุกข์
คุณเรณู โทษของความติดข้องเป็นอย่างไรบ้างคะ
ส. ลองคิดในมุมกลับ ถ้าไม่ติด สบายไหมคะ
คุณเรณู น่าจะสบาย
ส. แต่เพราะติดจึงอยากติดต่อไป ถ้ารู้จริงๆ ว่า ระหว่างไม่ติดกับติด เวลาติดต้องเป็นทุกข์ อยากจะได้สิ่งที่เราต้องการ ถ้าไม่ได้ก็เป็นทุกข์ แต่ถ้าเราไม่ติดข้องมากนัก เริ่มเห็นความสุขขึ้นมาบ้าง คือ ไม่เดือดร้อน ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไรก็ตาม แล้วถ้ามีความรู้มากขึ้น จนกระทั่งละความติดข้องได้ เป็นสมุจเฉท ต้องถึงความเป็นพระอรหันต์ แม้แต่พระโสดาบันท่านก็ยังมีโลภะ โทสะ โมหะ พระสกทาคามีบุคคล พระอริยบุคคลอีกระดับหนึ่ง สูงกว่าระดับพระโสดาบัน ก็ยังเป็นผู้ที่ติดข้องในรูป ในเสียง ในกลิ่น ในรส ในสัมผัส ก็ติดข้องมาตั้งนานแสนนานในสังสารวัฏ แสนโกฏิกัป แล้วจะทำให้สิ่งที่เคยติดข้องหมดโดยสิ้นเชิงไป โดยขั้นพระโสดาบัน หรือขั้นพระสกทาคามีไม่ได้ ต้องเป็นปัญญาอีกระดับหนึ่ง คือ ขั้นพระอนาคามีบุคคล ไม่มีความติดข้องในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ คือ สิ่งที่กระทบกาย แต่ยังติดข้องในความเป็น จนกว่าจะถึงความเป็นพระอรหันต์