ก่อนตาย - หลังตาย
ผู้ฟัง กราบเรียนถามท่านอาจารย์ เรื่องความตาย ในเมื่อทุกกคนก็หนีไม่พ้นอยู่แล้ว อยากทราบเรื่องหลังความตาย กับก่อนตาย เอาความตายไว้ตรงกลาง หลังความตาย กับก่อนตาย หลังความตายจะมีภพภูมิต่างๆ รองรับอยู่แล้ว อยากให้โยงมาถึงก่อนตายเราก็ทำกรรมดี กรรมชั่ว อะไรถึงจะไปสู่ภพภูมิแต่ละชนิดที่มีอยู่หลังความตายตรงนั้น ช่วยอธิบายหน่อยครับ
ส. ก่อนเกิดมานี่ก็คงต้องตายมาก่อน แต่จะมาจากโลกไหนก็ไม่มีใครทราบ แต่การที่เรารู้ว่าจะต้องเกิดอีกแน่นอน ก็เพราะเหตุว่ายังไม่ใช่พระอรหันต์ เมื่อยังมีกิเลสอยู่ก็ต้องเกิด แล้วเวลาที่เราพูดเรื่องตายเกิด เราทราบหรือเปล่าว่าอะไรตาย อะไรเกิด ถ้าทราบแล้วก็จะไม่มีปัญหาเลย เพราะว่าแท้ที่จริงแล้วก็คือ จิต เจตสิก รูปนั่นเองเกิดขึ้นเพราะกรรมหนึ่งเป็นปัจจัย ถ้าไม่มีกรรมเป็นปัจจัยก็จะไม่มีการเกิดเลย แต่ที่ทุกคนเกิดมา แม้พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าในพระชาติสุดท้ายก็เพราะกรรมหนึ่งที่ได้กระทำไว้ ทำให้ปฏิสนธิจิตเป็นผลของมหากุศลที่ประกอบด้วยปัญญา
เพราะฉะนั้น ก็เป็น กุศลวิบากจิตชั้นเลิศ คือ โสมนัสเวทนาอสังขาริกด้วย
นี่ก็แสดงให้เห็นว่า กรรมของแต่ละคนที่ทำมา ยังไม่ตายก็มีปัจจัยให้เกิดแล้ว เช่นโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ วันนี้สบายดีแข็งแรง แต่วันต่อไปกรรมก็จะทำให้อะไรเกิดย่อมได้ทั้งหมด การตายของแต่ละคนในชาตินี้ ก็ไม่มีใครสามารถที่จะรู้ได้ว่า จะในลักษณะใด ตามกรรม สิ่งที่ได้รับในขณะที่ยังไม่ตาย ก็ตามกรรมอีก เพราะว่าจิตเกิดแล้วก็ดับ แล้วก็เกิดอีก ไม่ใช่ไม่เกิดอีก
เพราะฉะนั้น เวลาที่เราพูดถึงความตายก็มี ๓ อย่าง ขณิกมรณะ ก็หมายความถึงจิตตายทุกขณะ เกิดแล้วไม่ดับไม่มี ขณะที่สุขเกิด ทุกข์เกิดไม่ได้ ขณะที่ทุกข์เกิด สุขก็เกิดไม่ได้ เพราะฉะนั้น ก็ต่างขณะกัน จะให้สุขมาเกิดเป็นทุกข์อีกก็ไม่ได้ จะให้ทุกข์กลับไปเกิดเป็นสุขก็ไม่ได้ เพราะเหตุว่าแต่ละขณะมีปัจจัยเกิดขึ้น จึงได้เกิดขึ้นเป็นไปอย่างนั้น
เพราะฉะนั้น ถ้าเข้าใจเรื่องกรรม และผลของกรรมว่า แม้ยังไม่ตาย กรรมก็ให้ผลแล้วได้ ทุกขณะที่เห็น ที่ได้ยิน ที่ได้กลิ่น ที่ลิ้มรส ที่รู้สิ่งที่กระทบสัมผัส นี่เป็นผลของกรรมทั้งหมด
เพราะฉะนั้น พระพุทธศาสนาไม่ได้เป็นศาสนาที่ไม่แฝงด้วยความจริง หรือไม่ใช่มีจริง พุทธศาสนาเป็นศาสนาที่แสดงความจริงทั้งหมด ตั้งแต่เกิดจนตาย ไม่ว่าจะเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น เหตุการณ์ทั้งหลาย ทุกๆ ขณะก็ทรงแสดงไว้มากโดยครบถ้วนว่า เป็นผลของกรรม
เพราะฉะนั้น ไม่มีเรื่องที่ต้องสงสัยเลย ที่เมื่อจิตขณะหนึ่งดับเป็นปัจจัยให้ขณะหนึ่งเกิดเรื่อยๆ ไป แม้ในขณะที่ยังไม่ตาย เพราะฉะนั้น เมื่อจิตขณะสุดท้ายดับ ก็เป็นปัจจัยให้จิตขณะแรกของชาติต่อไปเกิด แล้วแต่ว่าจะเกิดในภพไหนภูมิไหน