รู้ลักษณะของธรรม ก่อนจืงเห็นความเป็นปัจจัย
อ.ธิดารัตน์ อย่างหัวข้อของวิจิกิจฉา ก็จะมีความสงสัยในธรรมที่อาศัยกันเกิดขึ้น ไม่ทราบว่าท่านอาจารย์จะช่วยยกตัวอย่างให้เข้าใจได้ยังไงว่าลักษณะความสงสัยในธรรมที่อาศัยกันเกิดขึ้นมีอะไรบ้าง
สุ. ลักษณะของวิจิกิจฉาเจตสิกคือความสงสัยในสภาพธรรมที่อาศัยกัน และกันเกิดขึ้น ถ้าเป็นผู้ที่ละเอียดไม่ข้าม กล่าวทบทวนอีกที
อ.ธิดารัตน์ เพราะสงสัยธรรมที่เป็นปัจจัยคือลักษณะของธรรมที่เป็นปัจจัยที่อาศัยกัน และกันเกิดขึ้น
สุ. เพราะสงสัยธรรมใช่ไหมที่เป็นปัจจัยอาศัยกัน และกันเกิดขึ้น ข้ามไปหาปัจจัย แต่สงสัยในธรรม ถ้าไม่รู้ธรรม จะรู้ถึงความเป็นปัจจัยของธรรมนั่นหรือเปล่าขณะนี้สงสัยในธรรมหรือว่าไม่สงสัยในธรรมที่จะไปเข้าถึงลักษณะความแจ้มแจ้งในลักษณะของปฏิจสมุปบาท เป็นไปไม่ได้เลยที่ใครจะแจ่มแจ้งในลักษณะของปฏิจสมุปาทโดยไม่รู้ลักษณะของนามธรรม และรูปธรรม
อ.ธิดารัตน์ คือก่อนที่จะสงสัยในปฏิจสมุปบาทก็จะมีสงสัยในธรรมส่วนอดีตสงสัยธรรมในส่วนอนาคต สงสัยในธรรมทั้งในส่วนอดีต และอนาคตแล้วก็ถึงจะมาสงสัยในส่วนของธรรมที่อาศัยปัจจัยกัน และกันเกิดขึ้น
สุ. สรุปคือสงสัยในธรรม ถ้าไม่สงสัยก็หมดความสงสัยในธรรมที่ดับไปเป็นอดีต ธรรมที่กำลังปรากฏซึ่งก่อนที่จะปรากฏ ธรรมที่จะปรากฏต้องดับไปก่อน เพราะฉะนั้นถ้ายังคงมีความสงสัยในธรรม ไม่ต้องบอกทั้งหมดนี่ก็ได้คือไม่มีทางเลยที่จะรู้อย่างหนึ่งอย่างใดได้เลย จนกว่าจะรู้ลักษณะของธรรม และปัญญาจึงค่อยๆ เห็นความเป็นปัจจัย และก็ละคลายความสงสัยในสภาพธรรมแต่ละอย่างได้ เพราะฉะนั้นก่อนอื่นจะกล่าวโดยนัยใดๆ กี่ประการก็ตามแต่ให้ทราบว่าเพราะยังสงสัยในธรรมอยู่ และจะเข้าใจในธรรมที่เป็นอดีต และอนาคต เป็นปัจจุบัน อาศัยกัน และกันเกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะขณะนี้แม้จะกล่าวว่าจิตเห็นกำลังเห็นสิ่งที่กำลังปรากฏ แค่นี้ทุกคนก็รับรองว่าจริง แต่จิตไม่ใช่เรา และก็สิ่งที่กำลังปรากฏก็ไม่ใช่ใครเลย แต่เป็นธาตุที่สามารถจะปรากฏกับจักขุวิญญาณได้ จะข้ามพยัญชนะไหนไม่ได้เลย ต้องเป็นความละเอียดที่จะรู้ว่ามาจากไหนทั้งๆ ที่กล่าวว่าจิตเห็นขณะนี้กำลังเห็นสิ่งที่ปรากฏทางตาโดยต้องอาศัยจักขุปสาท และมีผัสสะกระทบกับสิ่งที่ปรากฏคืออารมณ์จิตเห็นจึงเกิดขึ้นเห็น พูดได้ อธิบายได้ เรียบเรียงได้ แต่ว่าไม่ได้รู้ลักษณะของเห็น และสิ่งที่ปรากฏ แล้วจะชื่อว่าหมดความสงสัยในปฏิจสมุปบาทเป็นไปไม่ได้เลย
อ.ธิดารัตน์ ถึงแม้สติจะระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ถ้ายังไม่รู้ถึงความเป็นเหตุเป็นปัจจัย ความสงสัยนั้นก็จะต้องยังมีอยู่อีกเยอะใช่ไหมคะ
สุ . ใครดับความสงสัยได้
อ.ธิดารัตน์ ถ้าจะดับความสงสัยได้หมดก็คือเป็นพระโสดาบัน
ที่มา ...