ทุกข์เพราะติดข้อง
ทุกข์คือสภาพธรรมที่เกิดดับ ที่มีทุกข์ ก็เพราะมีความติดข้อง และที่มีความ ติดข้องก็เพราะมีความไม่รู้ แต่เมื่อปัญญายังไม่พอ ก็ไม่สามารถรู้ในการเกิด ดับสืบต่อของสภาพธรรม ละความติดข้อง และความไม่รู้ได้
อ. วิชัย ถ้ากล่าวถึง"เห็น"ขณะนี้เป็นทุกข์ แต่ว่าจะเกี่ยวกับสมุทัยที่เป็นเหตุให้เกิดการ"เห็น"อย่างไร
ท่านอาจารย์ ก็รู้ทุกข์ก่อนแล้วถึงจะรู้สมุทัย คือเราพยายามจะไปรู้สมุทัย แต่ขณะนี้เรารู้ทุกข์หรือยัง
อ.วิชัย ก็เพียงเข้าใจในเบื้องต้นที่ว่า"เห็น"นี้เป็นทุกข์ มีจริงๆ
ท่านอาจารย์ ถ้าไม่มีความติดข้องจะต้องเป็นทุกข์ไหม เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างเกิดแล้วดับ แค่ทุกอย่างเกิดแล้วดับ ถ้าไม่มีความติดข้องในสิ่งที่เกิดแล้วดับ จะเป็นทุกข์ไหม? ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดแล้วดับ ถ้าไม่ติดข้อง จะเดือดร้อนไหม แต่เพราะเหตุว่ายังมีความติดข้องอยู่ จึงเป็นเหตุให้มีสิ่งที่เกิดแล้วดับ นี่อีกตอนหนึ่ง ก่อนอื่นต้องเข้าใจทุกข์ก่อน แล้วจึงจะสามารถเห็นเหตุให้เกิดทุกข์
อ.วิชัย ความเข้าใจค่อยๆ เพิ่มขึ้นทีละเล็กทีละน้อย
ท่านอาจารย์ เพราะเหตุว่าความไม่เข้าใจมีมาก จะให้เข้าใจถึงความหมายที่แท้จริงของคำที่พระผู้มีพระภาคตรัสต้องเป็นปัญญาอีกระดับหนึ่ง แต่ว่าทุกข์เกิดเพราะความติดข้องที่ยังมีความพอใจอยู่ตราบใดก็ยังเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ตราบนั้น นี่ก็ต้องเป็นอีกระดับ ถ้าคลายเหตุที่จะให้เกิดทุกข์ ทุกข์จึงจะหมดสิ้นไปได้ แต่ถ้ายังมีเหตุคือความติดข้องอยู่ตราบใดก็ต้องมีการเกิดขึ้นเพราะความต้องการตราบนั้น
อ.วิชัย แต่ก็เริ่มเข้าใจขึ้นบ้าง
ท่านอาจารย์ แค่เข้าใจนิดๆ หน่อยๆ ยังไม่ได้เข้าใจจริงๆ อย่างกล่าวถึงนามธรรมกับรูปธรรม เข้าใจใช่ไหม
อ.วิชัย เข้าใจตามที่ได้ยินได้ฟัง
ท่านอาจารย์ แต่ยังไม่ถึงกับการเข้าใจลักษณะที่กำลังเป็นนามธรรม และรูปธรรม ฉันใด การที่จะถึงการที่ว่า ละสมุทัยความติดข้อง จึงไม่มีการเกิดขึ้นอีกต่อไป ก็ต้องเป็นอีกขั้น
อ.วิชัย หมายความว่า ขณะที่ความรู้เริ่มรู้เพิ่มขึ้นก็เป็นการละโดยธรรมที่เป็นปัญญาอยู่แล้ว
ท่านอาจารย์ เพิ่มขึ้นถึงระดับใด ต้องรู้ด้วย
อ.อรรณพ กราบเรียนท่านอาจารย์อธิบายความละเอียดที่ว่า ทุกข์เพราะติดข้องจริงๆ
ท่านอาจารย์ อะไรเป็นเหตุให้ติดข้อง
อ.อรรณพ ความไม่รู้
ท่านอาจารย์ จะห้ามไม่ให้ติดข้องได้ไหม
อ.อรรณพ ไม่ได้ เพราะไม่รู้
ท่านอาจารย์ แต่เมื่อรู้แล้วค่อยๆ ละความติดข้องใช่ไหม และเมื่อนั้นก็จะรู้ได้ว่าเพราะติดข้องจึงได้มีการเกิดขึ้นของสภาพธรรม เหมือนอวิชา ใช่ไหม เพราะไม่รู้จึงมีการเกิดขึ้น แต่ก็ไม่ใช่เพียงเพราะไม่รู้เท่านั้น ยังมีความติดข้อง ด้วย ถ้าไม่มีปัญญาจริงๆ จะไม่รู้แม้แต่ว่านี้ทุกข์
อ.อรรณพ ที่จะรู้ว่า นี้ทุกข์ ก็คือสภาพธรรมแต่ละอย่างเกิดแล้วดับก็เป็นปัญญาที่ไม่ใช่ว่าเบื้องต้น
ท่านอาจารย์ แน่นอน
อ.อรรณพ ก็เป็นวิปัสสนาปัญญา
ท่านอาจารย์ โดยมากยังไม่ถึงปัญญาระดับนั้น แต่อยากรู้ว่าปัญญาระดับนั้นเป็นอย่างไร และมีทางที่จะเป็นไปได้ไหม?
อ.อรรณพ ได้ฟังก็ก็ได้เข้าใจ ...
ท่านอาจารย์ ถึงได้ฟังก็รู้หรือไม่ อย่างเวลานี้ นามธรรม สภาพเห็น ขณะนี้"เห็น" เกิดแล้ว ก็ไม่รู้ เพราะอะไร สภาพธรรมะที่เกิดต่อจาก"เห็น" มีไหม เกิดแล้วเพราะอะไร เมื่อละคลายความติดข้องแล้วก็สามารถจะรู้ลักษณะของสภาพธรรมะอื่นซึ่งเกิดต่อ เดี๋ยวนี้เองไม่ใช่มีแต่"เห็น" มีสภาพธรรมะอื่นเกิดต่อด้วย แต่ทำไมไม่รู้ ก็เพราะเหตุว่าปัญญายังไม่พอ
อ.อรรณพ กว่าที่จะรู้อย่างรวดเร็วในสภาพธรรมหนึ่งที่ดับไป และสภาพธรรมอื่นอีกที่เกิด ก็ด้วยความไม่รู้ และความติดข้อง
ท่านอาจารย์ เกิดตลอด สลับตลอด เช่น ขณะนี้ เห็นดับแล้ว มีความติดข้อง กามาสวะ อวิชาสวะ ทิฎฐาสวะ ภวาสวะ แล้วแต่อะไร ถ้าฟังธรรมด้วยการไตร่ตรอง เวลาที่ได้ยินคำต่อไปก็ไตร่ตรอง ไม่เผิน ได้ยินต่อไปอีก ก็ไตร่ตรองอีก ก็เป็นทางที่จะทำให้เข้าใจถูกในสภาพธรรมะนั้น