ไม่คิดว่าจะตาย
ในแต่ละวันก็มีความคิดไปในเรื่องอื่นมากมายด้วยความประมาท มีความคิดว่าจะ ต้องตาย แล้วทำประโยชน์จริงๆ คือเจริญกุศล และสะสมความเข้าใจในพระธรรม บ้างหรือไม่
ท่านอาจารย์ ใครบ้างที่คิดว่า ใกล้จะตายหรือจะตาย ใช่ไหม ไม่ได้คิดว่าจะตาย แต่คงไม่ได้หมายความว่า จะไม่ตายเลยใช่ไหม แต่ไม่คิดว่าจะตาย เพราะฉะนั้นคิดทุกวัน แต่คิดเรื่องอื่น ไม่ได้คิดเลยว่าจะตาย ถ้าจะตายจะคิดเรื่องอื่นไหม
อ.คำปั่น ท่านอาจารย์ครับ ความตายเป็นภัยอย่างไร แล้วก็อย่างไรที่กล่าวถึงว่า เป็นการกระทำบุญที่นำความสุขมาให้
ท่านอาจารย์ คุณคำปั่นไม่กลัวตาย
อ.คำปั่น กลัวครับ
ท่านอาจารย์ กลัว ก็เห็นภัยแล้ว ตายเป็นของธรรมดา เกิดก็เป็นของธรรมดา แต่จะเกิดเป็นอะไร แม้เดี๋ยวนี้ยังไม่ได้ตาย ยังเป็นอยู่ จะเป็นอย่างไร เพราะอย่างไรต้องตาย แล้วก็ต้องจากโลกนี้ไปแน่ มัวแต่คิดเรื่องอื่น ไม่คิดว่าจะตาย คิดว่าจะตายจะหยุดเรื่องอื่นใช่ไหม ทำความดี เพราะจะตาย จะไปทำเรื่องอื่นทำไม เสียเวลา เพราะสิ่งที่เข้าใจว่า เป็นเรื่องที่สำคัญที่ต้องทำ ไม่มี คิดว่าตายแล้วไม่มี ความจริงไม่มีแม้เดี๋ยวนี้
เพราะฉะนั้นปัญญาก็ต้องเข้าใจถูกต้องขึ้น ว่าอะไรเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ในการที่ยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งสามารถที่จะได้ยิน ได้ฟัง ได้ไตร่ตรอง ได้เข้าใจถูกต้อง มิฉะนั้นแล้วจะไม่มีโอกาสนี้อีก ถ้าไม่ได้เกิดเป็นมนุษย์ ที่ไม่พิกลพิการ และคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังไม่อันตรธาน ไม่ลืมระลึกถึงความตาย รู้ว่าต้องตายแน่ จะตาย ก็เป็นเหตุเกื้อกูลให้ มีกุศลในชีวิตประจำวัน พูดแล้วไม่ลืม แต่เป็นอนัตตาใช่ไหม ลืมหรือยัง
ผู้ฟัง ถ้าคิดว่าจะตายก็จะเจริญกุศล ก็เป็นความคิดของผู้มีปัญญา
ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้นที่ว่าจะตาย เป็นคำของใคร ที่เตือนให้รู้ว่าจะตาย ไม่อย่างนั้นทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่าต้องตาย แล้วก็จะตายด้วย ก็เพลิดเพลินกันไป แต่ใครที่กล่าวว่าชีวิตสั้น และก็ทุกคนก็จะตายแน่ๆ
ผู้ฟัง พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
ท่านอาจารย์ คนที่เขาเพลิดเพลิน เพราะรู้ว่าเขาต้องตาย บางคนก็ตายแล้ว จะตายอยู่แล้ว ต้องไปที่โน้น ไปที่นี่ ต่างประเทศ พาลูกที่กำลังป่วยหนักไป จะได้เพลิดเพลินก่อนจะตาย นั่นก็เป็นความคิด ที่ไม่ได้เข้าใจเลย ถึงต่อไปจากนั้น คิดถึงแต่ว่าก่อนจะตาย แต่ว่าตายแล้วจะไปไหน ถ้ามีสิ่งที่รักที่สุดในชาตินี้ ทันทีที่จากโลกนี้ไป ไม่รักเลย ไม่มี ไม่มีจริงๆ เป็นคนใหม่ ไม่รู้จักด้วย คนที่เคยพอใจรักใคร่ วงศาคณาญาติทั้งหลาย ไม่รู้จักเลย แต่ก่อนจะจากไปยังเต็มไปด้วยความผูกพัน หารู้ไม่ว่ายิ่งกว่านั้นอีก เพียงแค่เหมือนมี ก็ไม่มี เพราะเหตุว่าเพียงเป็นสิ่งที่ปรากฏสืบต่อให้จำได้ แต่แล้วก็ไม่เหลือ ไม่มีอะไรเหลือเลย จะไปผูกพันกับสิ่งที่ไม่มีหรือ เพราะตายแล้วไม่มี มีพระธรรมเป็นที่พึ่งหรือยัง มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งหรือเปล่า
ผู้ฟัง ก็มีบ้าง ไม่มีบ้าง
ท่านอาจารย์ พึ่งได้จริงๆ เมื่อเข้าใจ เพราะฉะนั้นฟังอย่างนี้ก็รู้ว่า ไม่มีอะไรสำคัญเลย นอกจากปัญญา ความเข้าใจความจริง ซึ่งความจริงเป็นอย่างนี้ คือทุกอย่างที่กำลังปรากฏขณะนี้ ว่างเปล่า เป็นอากาศ ไม่มีเลย ทุกขณะ แต่ก็สืบต่อ เหมือนมีอยู่เรื่อยๆ
ผู้ฟัง แต่ทุกวันนี้หนักเพราะว่าเป็นเรา ที่มิใช่ธรรม
ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้นไม่มีที่พึ่ง จนกว่าปัญญารู้จริงๆ ว่าไม่มีอะไรเลย