ผ่อนส่งบุญ


    ถ้าไม่ศึกษาพระธรรมก็ไม่สามารถดำรงความเป็นบรรพชิตได้ เพราะว่าไม่มีปัญญาพอที่จะรักษาพระวินัยได้


    อ.ธีรพันธ์ ไม่ถูกตั้งแต่พระมีเงินแล้ว ไม่ต้องพูดถึงเรื่องจำนำเลย เพราะว่าจำนำก็คือรับของมาเพื่อที่จะนำเงินไปใช่หรือไม่ เพื่อที่ของนั้นก็จำนำไว้จนกว่าจะถึงระยะเวลาที่ต้องมารับคืน ความจริงในเรื่องของเงินก็ผิดตั้งแต่ตอนแรกแล้ว พระไม่เป็นผู้ที่รับเงินทอง ไม่ยินดีในเงิน และทอง ผู้ยินดีในเงิน และทองไม่ใช่สมณะเชื้อสายพระศากยบุตร พระศากยบุตรนี้ห้ามรับเงินทอง ห้ามแล้ว เพราะฉะนั้นก็ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการที่จะนำเงินทองเข้ามาเก็บรักษา อย่างไรก็ตามที่ทำให้ท่านต้องอาบัติ ท่านอาบัติตั้งแต่มีเงินแล้ว และบอกว่าจะช่วยชาวบ้านอีก ยิ่งไม่ถูกใหญ่เลย เพราะว่าเรื่องเงินทองเป็นเรื่องของคฤหัสถ์ไม่ใช่เรื่องของพระ พระเป็นผู้ประเสริฐ ที่ประเสริฐเพราะว่าละรูป เสียง กลิ่นรส โผฏฐัพพะ จึงเรียกว่าพระ แต่ถ้าพระยังรับเงินทองก็แสดงว่ายังไม่ประเสริฐ เพราะว่ายังเป็นไปกับความติดข้องยินดีในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ไม่ใช่พระเลย ไม่ต้องพูดถึงเรื่องจำนำอะไรทั้งสิ้นเลย

    ผู้ฟัง ท่านไม่คิดดอกเบี้ย บอกว่าแล้วแต่จะให้

    อ.ธีรพันธ์ ไม่คิดดอกเบี้ยอย่างไรก็ตาม มีเงินก็ไม่ถูกต้องแล้ว ผิดแล้ว ผิดพระวินัยแล้ว

    ท่านอาจารย์ แต่เพื่อที่จะแก้ไข และมีความเข้าใจให้ถูกต้องตรงตามพระธรรมวินัย ทุกปัญหาจะต้องพิจารณาอย่างละเอียด เช่น คำถามของคุณนิภาที่ว่าพระได้เงินมาจากไหน น่าคิดใช่หรือไม่ จากการตั้งธนาคารให้กู้เงินเพื่อที่จะนำเงินถวายพระ มีหรือไม่

    ผู้ฟัง มี ทอดผ้าป่ากฐิน

    ท่านอาจารย์ เดี๋ยวนี้จะทำบุญก็ผ่อนส่ง แล้วอย่างนี้ ชาวบ้านควรรู้หรือไม่ว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

    ผู้ฟัง ใช่ ถ้าไม่มาเรียนกับท่านอาจารย์ก็ไม่รู้เลย

    ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้นบางคนคิดว่า มิฉะนั้นก็จะไม่มีพระเลย และไม่คิดหรือว่าจะมีพระซึ่งไม่ใช่พระในพระธรรมวินัย อย่างไหนจะดีกว่ากัน ไม่มีก็ไม่มี ถ้าไม่มี แต่ว่าจะมีพระที่ไม่ได้ประพฤติตามธรรมวินัย และทำลายพระธรรมวินัยอย่างนั้นหรือ มีเพื่อทำลายไม่ใช่มีเพื่อที่จะดำรงรักษาพระศาสนาไว้

    เพราะฉะนั้นทุกคนต้องเป็นผู้ที่ตรง แล้วก็ช่วยกันแก้ไข มีอะไรที่คฤหัสถ์ชาวบ้านพวกเราสามารถที่จะทำอะไรได้ก็ทำ เช่น ไม่ถวายเงิน พระรูปใดที่ทำสิ่งที่ไม่ใช่กิจของสงฆ์เลย และการทำบุญที่แสนประหลาด ผ่อนส่งบุญได้อย่างไร ผ่อนส่งเงินไม่เคยมีในครั้งพุทธกาล ที่จะต้องมีการตั้งธนาคาร สหกรณ์ หรืออะไรก็แล้วแต่ คือเรื่องลึก และเรื่องละเอียดต้องมีมาก

    เพราะฉะนั้นชาวบ้านก็ควรที่จะได้รู้ว่าพระภิกษุมีกิจคือ ศึกษาพระธรรมวินัย ประพฤติปฏิบัติตามพระวินัย ถ้าไม่ศึกษาพระธรรมก็ไม่สามารถที่จะดำรงความเป็นบรรพชิต เพราะว่าไม่มีปัญญาพอที่จะรักษาพระวินัยได้

    ผู้ฟัง การที่เราเรียนพระธรรมวินัย ทำให้เราไม่ละเมิดข้อหนึ่งแล้ว คือไม่ถวายเงินให้พระแน่นอน

    ท่านอาจารย์ ก็เป็นทางที่จะทำให้พระศาสนาดำรงอยู่ คือไม่ทำให้พระภิกษุท่านเสื่อม หรือต้องโทษอาบัติต่างๆ

    ผู้ฟัง แต่เราจะเป็นชนกลุ่มน้อย

    ท่านอาจารย์ ไม่เป็นไร แต่ละหนึ่งๆ ดีกว่าไม่มีเลย

    ผู้ฟัง ฟังท่านอาจารย์แล้วยิ่งมั่นใจว่าจะไม่ทำผิดแน่นอน จะไม่เอาเงินแม้แต่บาทเดียวไปถวายพระแน่นอน

    ท่านอาจารย์ ทำสิ่งที่ถูกต้องเพราะปัญญานำไปในกิจทั้งปวงที่เป็นสิ่งที่ถูกต้อง


    หมายเลข 10596
    12 ธ.ค. 2567