๑๐ ประโยชน์การรู้พระวินัย
พระศาสนาจะตั้งมั่นได้เมื่อพระภิกษุรู้หน้าที่ของพระภิกษุ ศึกษาธรรมให้เข้าใจ และประพฤติปฏิบัติตามพระวินัย เพราะพระศาสนาจะดำรงอยู่ด้วยความเข้าใจ พระวินัยทำให้รู้ว่ากิเลสอยู่ที่ไหนเมื่อใด
อ.จักรกฤษณ์ กราบเรียนท่านอาจารย์ เราสนทนากันในเรื่องพระธรรมวินัย ท่านก็บัญญัติประโยชน์ของพระธรรมวินัยไว้ด้วย ทรงบัญญัติประโยชน์ไว้ ๑๐ ข้อด้วยกัน แต่ละข้อประโยชน์จะเพิ่มขึ้นไปตามลำดับ ขอท่านอาจารย์ขยายความจากประโยชน์ตั้งแต่ข้อที่หนึ่งถึงข้อที่ ๑๐ แล้วแต่จะให้รายละเอียดได้ในส่วนไหนอย่างไร
ท่านอาจารย์ เป็นข้อๆ เป็นคำๆ
อ.จักรกฤษณ์ ข้อที่หนึ่ง ประโยชน์เพื่อความดีแห่งหมู่ มีความละเอียดอย่างไร
ท่านอาจารย์ คนชั่ว ทำให้คนดีมีความสุขหรือไม่เวลาอยู่ด้วยกัน
อ.จักรกฤษณ์ ไม่มีทาง
ท่านอาจารย์ แต่คนดีอยู่ด้วยกันจะสงบสุขหรือไม่ เพราะฉะนั้นต่างคนต่างมา ต่างคนต่างมีกิเลส ต่างคนต่างจะเป็นภิกษุ แล้วถ้าไม่มีพระวินัยบัญญัติให้ประพฤติเสมอกันจะอยู่กันด้วยความผาสุกหรือไม่
อ.จักรกฤษณ์ ไม่มีทางที่จะผาสุก ข้อ๑ เป็นเรื่องความดี ข้อที่ ๒ เพื่อความสำราญแห่งหมู่
ท่านอาจารย์ เช่นเดียวกันเลย ถ้ามีความดีก็ไม่เป็นทุกข์เลย มีใครเคยบอกว่าความดีนำทุกข์มาให้บ้างไหม
อ.จักรกฤษณ์ ท่านหมายถึงไม่เดือดร้อน และไม่นำความเดือดร้อนอะไรมาให้
ท่านอาจารย์ เพราะว่าเป็นความดี
อ.จักรกฤษณ์ ข้อที่ ๓ เพื่อกำจัดบุคคลผู้เก้อยาก
ท่านอาจารย์ กล้าทำ กล้ารับเงินรับทอง กล้าที่จะไม่สงบ เพราะฉะนั้นทุกอย่างที่ทรงบัญญัติไว้เพื่อให้ศึกษาประพฤติปฏิบัติตามเพื่อขัดเกลากิเลส
อ.จักรกฤษณ์ เพราะท่านชี้ให้เห็นว่าบุคคลที่ละเมิดพระวินัยคือผู้ที่เก้อยาก
ท่านอาจารย์ กล้าที่จะทำชั่วทำผิดพระวินัย รู้ว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบัญญัติก็ยังฝืน
อ.จักรกฤษณ์ ในข้อความวงเล็บไว้ว่า เก้อยาก หมายความว่า หน้าด้าน
ท่านอาจารย์ ไม่ละอาย หน้าด้านนี่ มากหรือไม่
อ.จักรกฤษณ์ ก็มีคนกล่าวว่าคนที่อันตรายที่สุดคือผู้ที่หน้าด้าน เพราะว่าไม่ละอาย ไม่เกรงกลัวต่ออะไรเลย
ข้อที่ ๔ เพื่อความอยู่เป็นผาสุกแห่งภิกษุผู้มีศีลเป็นที่รัก
ท่านอาจารย์ ก็เช่นเดียวกัน
อ.จักรกฤษณ์ ข้อที่ ๕ เพื่อระวังอาสวะที่จะเกิดขึ้นในปัจจุบัน
ท่านอาจารย์ แสดงให้เห็นว่าไม่รู้ตัวเลยว่าอยู่กับกิเลส แต่พระวินัยทำให้รู้ว่ากิเลสอยู่ที่ไหน และเมื่อใด
อ.จักรกฤษณ์ ท่านกล่าวถึงปัจจุบันก็คือ ณ ขณะนี้
ท่านอาจารย์ เดี๋ยวนี้เราอยู่กับกิเลส ท่ามกลางกิเลส ทุกขณะที่เห็น ที่ได้ยิน เพราะฉะนั้นบัญญัติวินัยเพื่อให้รู้ว่าอยู่กับกิเลส ท่ามกลางกิเลส
อ.จักรกฤษณ์ ข้อที่ ๖ เพื่อกำจัดอาสวะที่จะมีต่อไปข้างหน้า
ท่านอาจารย์ ถ้าขณะนี้สามารถที่จะรู้ได้ว่ามีกิเลส ขณะนั้นก็กำจัดกิเลสที่จะเกิดต่อไป
อ.จักรกฤษณ์ ตรงนี้ชัดเจน แต่ถ้าปัจจุบันยังไม่รู้ อนาคตก็คงต้องปลงอาบัติต่อไปเรื่อยๆ อย่างนั้น ข้อที่ ๗ เพื่อความเลื่อมใสของผู้ที่ยังไม่เลื่อมใส
ท่านอาจารย์ ถ้าเห็นผู้ที่สามารถจะละอาคารบ้านเรือน และเป็นคนดี เลื่อมใสหรือไม่ เพราะเหตุว่าคฤหัสถ์ที่ดีคนก็ยังเลื่อมใส ยิ่งเป็นผู้ที่ดี และก็สามารถสละเพศคฤหัสถ์ได้จะยิ่งเลื่อมใสหรือไม่
อ.จักรกฤษณ์ ยิ่งเลื่อมใสขึ้น ข้อที่ ๘ เพื่อความเจริญยิ่งๆ ของผู้เลื่อมใสแล้ว
ท่านอาจารย์ ถ้าพระภิกษุขัดเกลากิเลสประพฤติตามพระวินัยทุกวัน คฤหัสถ์ก็ไม่ต้องมาเป็นอกุศล
อ.จักรกฤษณ์ ก็คงจะไม่ต้องสนทนาเรื่องพระวินัย หรือสนทนาน้อยลง ข้อที่ ๙ นี้มีความละเอียด ที่ขอรบกวนท่านอาจารย์ขยายความโดยพิสดาร ที่ท่านกล่าวว่า เพื่อความตั้งมั่นแห่งพระสัทธรรม ประโยคนี้กว้างขวางอย่างไร
ท่านอาจารย์ เช่นเดียวกับตอนต้น ผู้ใดที่ไม่เข้าใจธรรม พระศาสนา คำของพระพุทธเจ้าก็อันตรธานไปแล้วจากผู้นั้น ไม่ฟังธรรมแล้วธรรมจะไม่อันตรธานหรือ เฉพาะคนที่ฟังเท่านั้นที่พระศาสนายังไม่อันตรธาน แต่ผู้ใดก็ตามที่ไม่ฟัง พระศาสนาต้องอันตรธานจากผู้นั้นแน่นอน เพราะฉะนั้นการที่พระศาสนาจะตั้งมั่นได้ก็คือด้วยการที่พระภิกษุรู้หน้าที่ของพระภิกษุ ศึกษาธรรมให้เข้าใจ และประพฤติปฏิบัติตามพระวินัย
อ.จักรกฤษณ์ ท่านมุ่งถึงพระวินัยว่ามีความสำคัญ
ท่านอาจารย์ สำหรับเพศบรรพชิตอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีพระวินัย เป็นพระไม่ได้เลย
อ.จักรกฤษณ์ หมายถึงพระสัทธรรมเอง ถ้าไม่เคารพพระวินัย พระสัทธรรมท่านก็ไม่สามารถที่จะเจริญต่อไปได้ใช่หรือไม่
ท่านอาจารย์ ถ้าไม่เข้าใจธรรมจะรักษาพระวินัยไว้ได้หรือไม่ เพราะฉะนั้นยิ่งศึกษาเข้าใจธรรมเท่าใด ยิ่งรักษาพระวินัยมากเท่านั้น มั่นคงขึ้น
อ.จักรกฤษณ์ พระวินัยเกื้อกูลในความมั่นคง ความเข้าใจธรรมเพิ่มขึ้น ข้อสุดท้าย ข้อที่ ๑๐ เพื่ออุดหนุนพระวินัย
ท่านอาจารย์ เพราะว่าส่วนใหญ่เมื่อถามดูว่าพระรับเงินรับทองได้หรือไม่ ก็ตอบว่าได้ อย่างนั้นไม่ได้อุดหนุน ไม่ได้สนับสนุน ไม่ได้ส่งเสริม ไม่ได้รักษาไม่ได้ปกป้องเลย
อ.อรรณพ กราบเรียนถามท่านอาจารย์เพิ่มเติมในข้อที่ ๙ ว่าเพื่อรักษาพระศาสนาใช่หรือไม่ เพื่อความตั้งมั่นของพระสัทธรรมหรือรักษาพระศาสนา ท่านอาจารย์ก็ตอบว่า เพื่อที่จะให้ภิกษุประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัย จึงจะเป็นความตั้งมั่นของพระศาสนาหรือรักษาพระศาสนาไว้ได้ แต่ถ้ามีคนเขาบอกว่า ถ้าอย่างนั้นก็จะไม่มีใครมาบวช ก็ทำให้ไม่มีภิกษุ ซึ่งพุทธบริษัทก็จะหายไป แล้วจะตั้งมั่นพระศาสนาได้อย่างไรในเมื่อไม่มีภิกษุ
ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้นก็อยากจะมีภิกษุที่ไม่ประพฤติตามพระวินัย รับเงินรับทอง ประพฤติทุกอย่างโดยไม่ทำตามพระวินัยอย่างนั้นหรือ
อ.อรรณพ และถ้าไม่มีภิกษุที่ทุศีลแล้ว และไม่มีผู้บวชเป็นภิกษุเลย พระศาสนาจะดำรงตั้งมั่นอยู่ได้อย่างไร
ท่านอาจารย์ อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าผู้ใดก็ตามที่ไม่เข้าใจ ไม่ต้องรอแล้ว เพราะจะอันตรธานจากผู้นั้นไปเลย
อ.อรรณพ แล้วถ้าเหลือเพียงอุบาสก อุบาสิกา พระศาสนาจะดำรงอยู่ได้อย่างไร
ท่านอาจารย์ พระศาสนาอยู่ที่ไหน
อ.อรรณพ อยู่ที่ความเข้าใจ เพราะฉะนั้น โดยความเห็นส่วนตัว ในเมื่อกาลของพระธรรมของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นี้ล่วงมาจะ ๒๖๐๐ กว่าปี ก็มีการเสื่อมไปโดยลำดับ แต่ก็ยังไม่ถึงคราวที่จะอันตรธานถ้ายังมีผู้ที่ศึกษา และเข้าใจพระธรรม เพราะฉะนั้น แม้ไม่ได้อยู่ในเพศบรรพชิตแต่เป็นคฤหัสถ์ที่ศึกษาพระธรรม และมีความเข้าใจถูก มีความเห็นถูกในสภาพธรรม พระศาสนาอันได้แก่ปริยัติศาสนา ปฏิปัตติ และปฏิเวธศาสนาก็ดำรงอยู่ได้ด้วยปัญญาของผู้ที่เข้าใจ
ท่านอาจารย์ ผู้ใดห่วงใยพระศาสนา ผู้นั้นก็ศึกษา ไม่เห็นจะต้องไปพึ่งใครที่ไหน
อ.อรรณพ เพราะฉะนั้น ในเมื่อความตั้งมั่นของพระศาสนาก็อยู่ที่ปัญญาของพุทธบริษัท
ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้นอย่าพูดว่าห่วงใยว่าจะไม่มีพระ ถ้าศึกษาเข้าใจพระธรรม พระธรรมยังตั้งมั่นอยู่
อ.อรรณพ เพราะฉะนั้นก็คือ ในข้อที่ ๙ เพื่อความตั้งมั่นของศาสนาก็คือพระวินัยมีไว้หนึ่งเพื่อให้ผู้ที่สามารถที่จะดำรงเพศพระภิกษุ ต้องประพฤติปฏิบัติตามพระวินัย และต้องศึกษาพระธรรมด้วย และถ้าไม่มีผู้ที่จะพร้อมที่จะรักษาพระวินัย แม้จะศึกษาพระธรรมแล้ว ก็ยังดีกว่าจะมีผู้ที่บวชเข้าไปแล้วทำลายพระธรรมวินัย ที่พระองค์ท่านทรงแสดงประโยชน์ของพระวินัยก็คือเพื่อความตั้งมั่นของพระศาสนา ก็คือถ้าผู้ที่บวช มีพระวินัยกำกับเพื่อให้ท่านประพฤติปฎิบัติตาม ให้มีผู้ที่ศึกษาพระธรรมแล้วก็มีอัธยาศัยที่จะรักษาพระวินัย ยังมีภิกษุที่ยังรักษาพระธรรมวินัย แต่ถ้าไม่มีผู้ที่พร้อมอย่างนั้นก็เป็นบริษัท๒ ที่เหลือ ซึ่งก็ศึกษาพระธรรม และศึกษาพระวินัยด้วย เพื่อที่จะดำรงพระธรรมวินัยเท่าที่จะมีอยู่ได้ ตามกาลเวลาที่เปลี่ยนไป
ท่านอาจารย์ ต้องไม่ลืมว่าศาสนาอันตรธานก็คือไม่มีใครเข้าใจธรรม
อ.อรรณพ เพราะฉะนั้น ศาสนาจะตั้งมั่นอยู่ไม่ใช่ว่าเป็นเพียงเพศ แต่ต้องเป็นปัญญาที่เข้าใจพระธรรม แล้วก็ต้องกราบอนุโมทนาท่านจักรกฤษณ์จริงๆ ที่ได้นำประโยชน์พระวินัยทั้ง ๑๐ ข้อนี้มา ก็ควรจะได้รวบรวมไว้ในข้อธรรมที่เป็นประโยชน์อย่างมาก