หงายของที่คว่ำ
มีกิเลสมากมาย เช่นโลภะ ดังนั้นการได้มีโอกาสอบรมปัญญารู้ความจริงของ สิ่งที่ปรากฏที่ยากจะเปิดเผยลักษณะให้รู้ได้ จึงเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง
อ. อรรณพ พระองค์ท่านทรงแสดงโลภะนี้ว่าเป็นสมุทัย
ท่านอาจารย์ บางทีก็คิดว่าดี เพราะไม่รู้ชื่อนั้น ซึ่งความจริง อย่าง อาสา ก็คืออะไร
อ. อรรณพ โลภะ
ท่านอาจารย์ โลภะ
อ. อรรณพ วิสัตติกา
ท่านอาจารย์ ไปไหน มาอย่างไรเป็นวิสัตติกา ความซ่านไป เหมือนอาหารที่จากรากไปถึงยอดของต้นไม้ จะเหลือส่วนไหนที่ไม่มีอาหารบ้าง เหมือนต้นไม้จากรากไปถึงยอด ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เพียงแค่เกิดมายังไม่ทันไรเลยก็โลภะแล้ว ยังไม่ทันรู้ว่าเป็นอะไรก็ติดข้องในความเป็น
เพราะฉะนั้นข้อปฏิบัติใดหนทางใดที่ไม่ทำให้ออกจากสังสารวัฎ หนทางนั้นทั้งหมดเป็น มิจฉาปฏิปทา ไม่ว่าจะทำให้เกิดบนสวรรค์หรือว่าพรหมโลก รูปพรหม อรูปพรหม ทั้งหมด เห็นโทษของกิเลสของตน แต่ไม่ได้รู้ว่าไม่ใช่เรา เพราะฉะนั้นก็นำไปสู่ภพภูมิตามควรแก่กุศลนั้นๆ แต่ว่าไม่ได้ดับสังสารวัฎ
แม้แต่ข้อความที่ว่า เหมือนหงายของที่คว่ำ คว่ำแน่นเลย ไม่ใช่คว่ำบางๆ เปิดง่ายๆ แต่คว่ำแน่นๆ อย่างนี้ แล้วจะหงายของที่คว่ำ คิดดู แล้วก็เปิดของที่ปิด เวลานี้ถูกปิดไว้แล้ว อารมณ์ที่ปรากฏทั้งหมดปิดบังจิตเจตสิกซึ่งเกิดขึ้นทำงานของตนๆ โดยไม่ขาดสาย ทำกิจเห็นทำกิจได้ยิน ทำกิจทั้งหมด ไม่รู้เลย โน่นคนนี้ นั่นคนนั้น ทั้งหมดก็คือหน้าที่การงานของจิต
เพราะฉะนั้นเปิดของที่ปิด ปิดไว้แน่นอีกเหมือนกัน บอกทางแก่คนหลง รู้ตัวหรือไม่ หลงอยู่ไหนกลางป่าหรือที่ไหน แต่ว่าหลงอยู่ในสังสารวัฎหนักหนากว่าหลงอื่น หลงป่าก็ยังออกได้ มีคนนำทางออก แต่ว่าหลงอยู่ในสังสารวัฎนานแสนนานมาแล้วก็ต่อไปอีกนานแสนนาน จะออกได้อย่างไร ถ้าไม่มีการฟังพระธรรม นี้ก็คือ พุทธานุสติ ธรรมานุสติ แต่ถ้าไม่เข้าใจพระคุณเลย ไม่มีทางที่จะเป็นพุทธานุสติหรือธรรมานุสติได้เลย บอกทางแก่คนหลง ทุกคนหลงอยู่ในสังสารวัฎ จะหลงต่อไปอีกนานเท่าไร
ส่องประทีปในที่มืด เห็นสว่างๆ อย่างนี้แต่ไม่รู้ความจริง เพราะฉะนั้นมืดแค่ไหน ทั้งๆ ที่ปรากฏด้วยแสงไฟ แต่ก็ไม่รู้ว่าความจริงว่าแท้ที่จริงแล้วมืดสนิท จิตมืดสนิท เจตสิกมืดสนิท โดยสภาวะที่ไม่ใช่รูปที่สามารถกระทบตา เพราะฉะนั้นธรรมอื่นทั้งหมดไม่มีทางปรากฏเลยทางตา แข็งก็มองไม่เห็น หวานก็มองไม่เห็น เผ็ด เปรี้ยว เค็ม มองไม่เห็น เพียงแต่จำไว้ว่าสีอย่างนี้คือเผ็ด พริกรูปร่างต่างๆ เผ็ดทั้งนั้นเลย ก็เป็นเรื่องของธรรมทั้งหมด โดยนัยของขันธ์ ก็ ๕ ไม่ต้องไปท่องไปจำก็ได้ เพราะว่าชินหูแต่ว่าไม่ชินกับลักษณะของสภาพธรรม
อ. อรรณพ หลงกว้างมาก คือหลงในสังสารวัฎ หลายๆ ท่านที่มาที่ราวินโฮมนี้ก็อาจจะหลง
ท่านอาจารย์ ตอนที่กำลังหลงคุณอรรณพก็ไม่รู้ว่าหลง หลงทางยังแค่นี้ ไม่นาน แต่หลงในสังสารวัฎนานมาก แต่ไม่หลงได้เมื่อเข้าใจธรรม มีปัจจัยพร้อมที่สติสัมปชัญญะจะเข้าใจสิ่งที่ปรากฏ เพราะฉะนั้นเลือกไม่ได้ว่าเมื่อไหร่ขณะไหนทั้งสิ้น