คิดต่างกัน


    แต่ละคนมีความคิดที่หลากหลายต่างกัน ก็เพราะมีการสะสมอุปนิสัยมาต่างกัน จึงมีทั้งผู้ที่เห็นประโยชน์ และไม่เห็นประโยชน์ของพระธรรม ซึ่งผู้ที่เห็นประโยชน์ ก็จะมีโอกาสได้สะสมความเข้าใจธรรมเพิ่มขึ้น


    ท่านอาจารย์ ความคิดหลากหลายหรือไม่ ความคิดของพระโพธิสัตว์ กับความคิดของคนในยุคนั้น ในแต่ละพระชาติ แต่คนเหล่านั้นไม่ใช่พระโพธิสัตว์ ความคิดเหมือนกันไหม

    อ.อรรณพ ต่างกันมาก

    ท่านอาจารย์ คนในโลกนี้ เดี๋ยวนี้ก็คิดต่างกันอย่างนี้แหละ ทำไมจะต้องมาคิดเรื่องเห็นอะไร ทำไมจะต้องมาคิดเรื่อง สิ่งที่ปรากฏทางตา เป็นเพียงสิ่งที่เพียงปรากฏ เมื่อกระทบตา แล้วก็ดับไป ไม่มีโอกาสที่จะคิดอย่างนี้เลย เพราะไม่ใช่พระโพธิสัตว์ แต่ว่าลองคิดถึงอดีตชาติ ก่อนที่จะได้ตรัสรู้ ยิ่งด้วยปัญญา ๔ อสงไขยแสนกัปป์ หลังจากที่ได้รับคำพยากรณ์

    แต่ก่อนนั้นก็คิดมาก่อนแล้วมากมาย ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ ทำไมมีการเกิด และต้องมีการตาย แล้วอะไรเกิด อะไรตาย ทำไมแต่ละขณะนี้ ไม่เหมือนกัน จากเด็กก็เปลี่ยนไปเป็นผู้ใหญ่ เจ็บไข้ได้ป่วย จนกระทั่งจากโลกนี้ไป และความจริงของสิ่งที่มีคืออะไร คือการเปลี่ยนแปลง ซึ่งไม่เที่ยง แต่อะไรเป็นสิ่งที่มีจริงที่เปลี่ยน จนกระทั่งปรากฏเป็นความเปลี่ยนแปลงให้เห็นชัด ซึ่งแต่ละขณะ ถ้าไม่เปลี่ยนมาตั้งแต่ทีละหนึ่งขณะ ความเปลี่ยนแปลงก็เกิดไม่ได้ ถ้านามธรรม และรูปธรรม ไม่เกิดดับเลย จะมีใครอยู่ตรงนี้ไหม ก็ไม่มี แต่จากหนึ่งขณะที่เกิดแล้วดับ ก็เป็นปัจจัยให้ขณะต่อไป เกิดสืบต่อจากขณะเกิด จนถึงขณะตาย แต่ละขณะไม่มีใครบังคับบัญชาได้เลย

    จากการที่ไม่รู้เหมือนชาวโลก ซึ่งไม่รู้ และไม่คิด แต่พระโพธิสัตว์คิดต่างกับคนอื่น ต้องมีสิ่งที่ตรงกันข้าม เพราะเหตุว่าสิ่งนี้ ถ้าไม่มีอะไรที่จะทำให้เกิดขึ้น จะเกิดได้อย่างไร อยู่ดีๆ จะมาเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่ต้องมีสิ่งที่ทำให้เกิดขึ้น และอาศัยกัน และกันเกิดขึ้น เราไม่ย้อนถึงสมัยพระโพธิสัตว์ก็ได้ เดี๋ยวนี้ธาตุรู้เกิดแล้ว เห็น ใครทำให้เกิดขึ้น ไม่มีใครทำได้เลย แต่ก็ไม่เคยคิด ว่าแท้ที่จริงแล้วคืออะไร และเกิดขึ้นได้อย่างไร น่าคิด ก็มีอยู่ทุกวัน เห็นทุกวัน ไม่เคยคิดสักวัน โกรธทุกวันก็ไม่เคยคิดสักอย่างเดียว ทุกอย่างมี โดยที่ว่าไม่มีใครไปทำขึ้น แม้เดี๋ยวนี้ก็เกิดแล้วทั้งหมด คือเห็นเดี๋ยวนี้เกิดแล้ว คิดเดี๋ยวนี้เกิดแล้ว จำเดี๋ยวนี้เกิดแล้ว ทุกอย่างเกิดแล้ว จึงมี แต่ถ้ายังไม่เกิด จะมีได้อย่างไร

    คือเรื่องของความคิดที่หลากหลายมาก กว่าแต่ละหนึ่ง จะได้เป็นแต่ละหนึ่ง ที่เป็นพระมหาโพธิสัตว์ เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า หรือเป็นสาวกโพธิสัตว์ ก็เป็นเรื่องของแต่ละบุคคล ซึ่งคนที่ไม่มีโอกาสจะสนใจ หรือคิดเรื่องอย่างนี้เลย ก็ต้องวนเวียนไปในสังสารวัฏฏ์ โดยที่ว่าไม่มีโอกาสจะได้ฟังคำจริง ที่กล่าวถึงสิ่งที่มีจริง เพราะชาตินี้เกิดแล้วจริง เป็นอย่างนี้จริงทุกขณะ ก็แล้วแต่จะเป็นผู้ที่ไม่ได้สะสมมา ที่จะเห็นประโยชน์ของการเข้าใจความจริง ซึ่งวันหนึ่งต้องจากโลกนี้ไปแน่ แล้วก็ไม่มีเครื่องหมายด้วย ว่าจะจากไปวันไหน นอกบ้าน ในบ้าน บนอากาศ หรือในน้ำ หรือบนพื้นดิน ด้วยโรคอะไร ไม่มีใครสามารถจะรู้ได้เลย แต่ก็มีเหตุที่จะให้เป็นอย่างนั้น แต่ไม่ได้สาระอะไรเลย จากการเกิดมาในชาติหนึ่งๆ ถ้าไม่มีโอกาสที่จะเข้าใจความจริง ของสิ่งที่มีจริงทีละเล็กทีละน้อย

    อ.อรรณพ เขาพูดกันติดปากว่า การเกิดการตายก็เป็นธรรมดา ไม่มีใครที่เกิดมาแล้วไม่ตาย เขาก็คิดแค่นี้ เพราะฉะนั้นก็อยู่ไปวันๆ หนึ่ง แล้วแต่ว่าใครเห็นว่าอะไรจะเป็นประโยชน์ เขาก็ทำกันไป เขาบอกว่าก็ต้องเกิด ก็ต้องตายไป

    ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้นก็มีสัตว์ ที่ไม่ใช่โพธิสัตว์ สัตว์คือผู้ข้อง โพธิคือปัญญา ความเห็นถูก ความเข้าใจถูก เดี๋ยวนี้ทั่วโลกที่ไหน ภูมิไหน ภพไหน ก็มีทั้งผู้ที่เป็นโพธิสัตว์ และไม่ใช่โพธิสัตว์ และเป็นโพธิสัตว์ระดับไหน พระมหาสัตว์ พระมหาโพธิสัตว์ หรือพระปัจเจกพุทธเจ้า หรือว่าสาวกโพธิสัตว์ คนที่กำลังฟัง เป็นสาวกโพธิสัตว์หรือเปล่า หรือฟังไปอย่างนั้นแหละ มีโอกาสที่ได้ยิน ได้ฟัง คำซึ่งคนที่ไม่มีโอกาสมีมาก เพราะไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ต้องมีเหตุปัจจัยที่จะให้เป็นอย่างนั้น ก็สามารถที่จะรู้ได้ว่า ทำไมฟังธรรม แม้ว่าตอนเริ่มที่จะฟัง ก็เข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง แต่ก็รู้ว่าเป็นคำจริงทุกคำ พูดถึงสิ่งที่มีจริงทั้งหมดเลย ความจริงควรที่จะเข้าใจยิ่งกว่านี้ไหม แต่เมื่อไม่สามารถที่จะเข้าใจได้ด้วยตัวเองได้ มีผู้ที่สามารถทำให้เข้าใจได้ ใช่ไหม จะฟังคำของบุคคลนั้นหรือเปล่า นี่ก็คือสาวกโพธิสัตว์

    วันหนึ่งวันใดที่เข้าใจขึ้น รู้แจ้งสภาพธรรมตามความเป็นจริง ก็โดยฐานะของสาวก มาจากไหน มาจากวันนี้ที่ได้ฟัง และก็อาจจะมาจากชาติก่อนๆ วันก่อนๆ ที่เคยฟัง จะตายยังไม่รู้อะไรเลย ก็ช่วยไม่ได้ แม้แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังตรัสว่า แล้วจะทำอะไรเขาได้ ผู้ที่สะสมมาเห็นประโยชน์ จะไม่ให้เขาฟังก็ไม่ได้ ก็เขาเป็นสาวกโพธิสัตว์ กำลังเป็นด้วย ถ้าไม่ล้มเลิก เห็นประโยชน์จริงๆ ค่อยๆ เข้าใจทีละเล็กทีละน้อย กี่วัน กี่เดือน กี่ปี ก็ไม่เป็นไร ดีกว่าไม่เข้าใจเสียเลย


    หมายเลข 10815
    11 พ.ค. 2567