พระพุทธศาสนาดำรงอยู่ได้ด้วยความเข้าใจที่ถูกต้อง


    พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบำเพ็ญพระบารมี เพื่ออะไร เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง พระภิกษุสาวกทั้งหลาย ศึกษาธรรมเพื่ออะไร ก็เพื่อให้คนอื่นได้เข้าใจด้วย เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นใคร ว่าจะต้องเป็นภิกษุหรืออะไร เพราะว่าคฤหัสถ์ก็ศึกษาธรรมได้ มีคฤหัสถ์ที่เป็นเอตทัคคะ ผู้เลิศในทางต่างๆ แม้ในทางที่กล่าวธรรมด้วย นี่แสดงให้เห็นถึงความเป็นจริง ว่าพระธรรมอยู่ที่ความเข้าใจ ไม่ใช่อยู่ที่ตัวหนังสือ แล้วเพียงเสียงที่ได้ฟัง แต่ต้องไตร่ตรองให้ถูกต้อง

    เพราะฉะนั้นการที่ จะเป็นชาวพุทธ ผู้รู้จริงๆ ไม่ใช่เป็นชาวพุทธในนาม โดยกำเนิด แต่ไม่เข้าใจธรรม หรือไม่สนใจธรรมเลย เพราะเหตุว่าชาวพุทธบางคนก็ยังสงสัยด้วย พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีจริงหรือเปล่า ทรงตรัสรู้อะไรก็ไม่รู้ทุกอย่าง ก็รู้ได้ เมื่อมีการที่รู้ว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเป็นผู้ประเสริฐที่สุด และทรงแสดงธรรมให้เราเข้าใจได้ แต่ต้องเป็นผู้ที่รอบคอบทีละคำ แม้แต่คำว่า วัด พระเชตวันในครั้งอดีต เป็นวัดหรือเปล่า อารามะ เป็นที่รื่นรมย์ เดี๋ยวนี้มีพระภิกษุไหม ไม่มี แล้วทำไมจะห่วงใยว่า ถ้าไม่มีพระภิกษุ พระศาสนาจะไม่ดำรงอยู่ พระศาสนาไม่ได้ดำรงอยู่ที่คำว่า ภิกษุ แต่ต้องอยู่ที่ภิกษุจริงๆ ผู้เห็นภัยในสังสารวัฏฏ์

    เพราะฉะนั้นจะอยู่ที่ไหนก็ตามแต่ พระศาสนาก็สามารถดำรงอยู่ได้ด้วยความเข้าใจ แม้คนหนึ่ง เวลานี้เราบอกว่า พระศาสนาเสื่อมถอยลงไป จากความเข้าใจของคน เพราะไม่มีใครศึกษา และถ้าไม่มีใครเลยเมื่อไร ก็คือ อันตรธาน แต่ตราบใดที่ยังมีคนที่เห็นประโยชน์ แล้วก็ศึกษา และมีความเข้าใจที่ถูกต้อง แต่ละหนึ่งๆ พระศาสนาก็ยังไม่อันตรธาน แต่อันตรธานแล้วสำหรับคนที่ไม่เข้าใจ หรือเข้าใจผิด เพราะฉะนั้นก็เข้าใจวัดแล้ว

    เพราะฉะนั้นชาวพุทธหรือทุกคน ต้องเป็นผู้ที่ตรง และจริงใจ อารามะ คือ ที่ซึ่งนำมาซึ่งความยินดี ยินดีในอะไร จึงจะเป็นอารามะ ไม่ใช่สนุกสนานรื่นเริง แต่ ยินดีในการได้เข้าใจความจริง เข้าใจความจริงเมื่อไร ลองคิดดู ยินดีไหม ถ้ายินดีเป็นชาวพุทธ แต่ถ้าไม่ยินดี พูดเรื่องอะไร ดูเหมือนเป็นการโจมตีกล่าวร้ายต่างๆ ไม่ยินดีที่จะเข้าใจความจริง อย่างนั้นก็ไม่ใช่ชาวพุทธ เพราะว่าอารามะ คือ ที่นำมาซึ่งความยินดี ในการเข้าใจพระธรรมที่ถูกต้อง ถ้าไม่ใช่พระธรรมที่ถูกต้อง มีประโยชน์อะไร จะยินดีไหม นำมาซึ่งความเห็นผิด และก็เป็นการทำลายคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วย

    เพราะฉะนั้นก็ต้องเข้าใจ แม้แต่คำว่าอารามะ นำมาซึ่งความยินดี เพราะได้เข้าใจพระธรรม หรือสิ่งที่มีจริงๆ ในขณะนั้น ซึ่งไม่เคยเข้าใจมาก่อน แล้วก็ถามชาวพุทธ สำหรับรายการนี้ที่ฟังอยู่ว่า ยินดีอย่างนี้หรือเปล่า ยินดีที่จะเข้าใจความจริง ซึ่งเป็นพระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


    หมายเลข 10889
    30 ส.ค. 2567