ประโยชน์ของพระวินัย
พระวินัยที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบัญญัติ มีประโยชน์เกื้อกูลอย่างไร บ้าง และถ้าไม่มีภิกษุที่ประพฤติตามธรรมวินัย พระศาสนาจะดำรงอยู่ได้อย่างไร
ผู้ฟัง เราสนทนากันเรื่องพระธรรมวินัย ท่านก็บัญญัติประโยชน์ของพระธรรมวินัยไว้ด้วย ทรงบัญญัติประโยชน์ไว้ ๑๐ ข้อด้วยกัน ข้อที่ ๑ ประโยชน์เพื่อความดีแห่งหมู่ มีความละเอียดอย่างไร
ท่านอาจารย์ คนชั่ว ทำให้คนดีมีความสุขหรือไม่ อยู่ด้วยกัน
ผู้ฟัง ไม่มีทาง
ท่านอาจารย์ แต่คนดี ทุกคนเป็นคนดี อยู่ด้วยกันจะสงบสุขไหม ต่างคนต่างมา ต่างคนต่างมีกิเลส ต่างคนต่างจะเป็นภิกษุ แล้วถ้าไม่มีพระวินัยบัญญัติให้ประพฤติเสมอกัน จะอยู่กันด้วยความผาสุกไหม
ผู้ฟัง ไม่มีทางที่จะผาสุก ข้อแรกเป็นเรื่องความดี ข้อที่ ๒ เพื่อความสำราญแห่งหมู่
ท่านอาจารย์ เหมือนกันเลย ถ้ามีความดี ก็ไม่เป็นทุกข์เลย ใครบอกว่าความดีนำทุกข์มาให้บ้าง
ผู้ฟัง ข้อที่ ๓ เพื่อกำจัดบุคคล เพื่อเก้อ ยาก
ท่านอาจารย์ กล้าทำ กล้ารับเงินรับทอง กล้าที่จะไม่สงบ ทุกอย่างที่ทรงบัญญัติไว้ เพื่อให้ศึกษา ประพฤติปฏิบัติตาม เพื่อขัดเกลากิเลส กล้า กล้าที่จะทำชั่ว ทำผิดพระวินัย
ผู้ฟัง ในข้อความวงเล็บไว้นิดนึงว่า เก้อ ยากก็คือ หมายความว่าหน้าด้านที่ยังทำ
ท่านอาจารย์ ไม่ละอาย หน้าด้านนี่เยอะไหม
ผู้ฟัง ก็มีคนพูดว่า คนที่อันตรายที่สุด คือผู้ที่หน้าด้าน เพราะว่าไม่ละอาย ไม่เกรงกลัวต่ออะไรเลย ข้อที่ ๔ เพื่อความอยู่เป็นผาสุก แห่งภิกษุผู้มีศีลเป็นที่รัก
ท่านอาจารย์ ก็เช่นเดียวกัน
ผู้ฟัง ข้อที่ ๕ เพื่อระวังอาสวะที่จะเกิดขึ้นในปัจจุบัน
ท่านอาจารย์ แสดงให้เห็นว่า ไม่รู้ตัวเลยว่าอยู่กับกิเลส แต่พระวินัยทำให้รู้ว่า กิเลสอยู่ไหน เมื่อไร เดี๋ยวนี้ เราอยู่กับกิเลสท่ามกลางกิเลส ทุกขณะที่เห็น ได้ยิน เพราะฉะนั้นบัญญัติพระวินัยเพื่อให้รู้ ว่าอยู่กับกิเลส ท่ามกลางกิเลส
ผู้ฟัง ข้อที่ ๖ เพื่อกำจัดอาสวะ ที่จะมีต่อไปข้างหน้า
ท่านอาจารย์ ถ้าขณะนี้สามารถที่จะรู้ได้ว่า มีกิเลส ขณะนั้นก็กำจัดกิเลสที่จะเกิดต่อไปได้
ผู้ฟัง ข้อที่ ๗ เพื่อความเลื่อมใสของผู้ที่ยังไม่เลื่อมใส
ท่านอาจารย์ ถ้าเห็นผู้ที่สามารถจะละอาคารบ้านเรือน และเป็นคนดี เลื่อมใสไหม เพราะเหตุว่าคฤหัสถ์ที่ดี คนก็ยังเลื่อมใส ยิ่งเป็นผู้ที่ดี และก็สามารถสละเพศคฤหัสถ์ได้ จะยิ่งเลื่อมใสหรือไม่
ผู้ฟัง ข้อที่ ๘ เพื่อความเจริญยิ่งๆ ของผู้เลื่อมใสแล้ว
ท่านอาจารย์ ถ้าพระภิกษุขัดเกลากิเลสแล้ว ประพฤติตามพระวินัยทุกวัน คฤหัสถ์ก็ไม่ต้องมาเป็นอกุศล
ผู้ฟัง ข้อที่ ๙ มีความละเอียดที่อยากจะรบกวนท่านอาจารย์ ขยายความโดยพิสดาร เพื่อความตั้งมั่นแห่งพระสัทธรรม กว้างขวางอย่างไร
ท่านอาจารย์ เหมือนอย่างตอนต้น ใครที่ไม่เข้าใจธรรม พระศาสนา คำของพระพุทธเจ้าก็อันตรธานไปแล้วจากเขา ไม่ฟังธรรม แล้วธรรมจะไม่อันตรธานหรือ เฉพาะคนที่ฟังเท่านั้น ที่พระศาสนายังไม่อันตรธาน แต่ใครก็ตามที่ไม่ฟัง พระศาสนาอันตรธานจากคนนั้นแน่นอน การที่พระศาสนาจะตั้งมั่นได้ ก็คือด้วยการที่พระภิกษุ รู้หน้าที่ของพระภิกษุ ศึกษาธรรมให้เข้าใจ และก็ประพฤติปฏิบัติตามพระวินัย
ผู้ฟัง ท่านมามุ่งถึงพระวินัย ก็มีความสำคัญ
ท่านอาจารย์ สำหรับเพศบรรพชิต อยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีพระวินัย เป็นพระไม่ได้เลย ถ้าไม่เข้าใจธรรม จะรักษาพระวินัยได้ไหม ยิ่งศึกษาเข้าใจธรรมเท่าไร ยิ่งรักษาพระวินัยมากเท่านั้น มั่นคงขึ้น
ผู้ฟัง พระวินัยก็เกื้อกูลในความมั่นคง ในความเข้าใจธรรมเพิ่มขึ้น ข้อสุดท้าย ข้อที่ ๑๐ เพื่ออุดหนุนพระวินัย
ท่านอาจารย์ เพราะว่าส่วนใหญ่ถามดู รับเงินรับทองได้ไหม ได้ อย่างนั้นไม่ได้อุดหนุน หรือไม่ได้สนับสนุน ไม่ได้ส่งเสริม ไม่ได้รักษา ไม่ได้ปกป้องเลย
อ.อรรณพ ถ้าไม่มีภิกษุที่ทุศีลแล้ว คือเราไม่เอาภิกษุทุศีลแล้ว แล้วไม่มีผู้บวชเป็นภิกษุเลย พระศาสนาจะดำรงตั้งมั่นอยู่ได้อย่างไร
ท่านอาจารย์ อย่างที่กล่าวแล้ว ใครก็ตามที่ไม่เข้าใจ ไม่ต้องรอ อันตรธานจากคนๆ นั้น
อ.อรรณพ แล้วถ้าเหลือเพียงอุบาสก อุบาสิกา พระศาสนาจะดำรงอยู่ได้อย่างไร
ท่านอาจารย์ พระศาสนาอยู่ที่ไหน
อ.อรรณพ อยู่ที่ความเข้าใจ
ท่านอาจารย์ ใครห่วงใยพระศาสนา ก็ศึกษา ไม่เห็นจะต้องไปพึ่งใครที่ไหน ถ้าศึกษาเข้าใจพระธรรม พระธรรมยังตั้งมั่นอยู่ ก็ต้องไม่ลืมว่าศาสนาอันตรธานก็คือ ไม่มีใครเข้าใจธรรม