004 หมู่บ้านรักษาศีล 5


    หมู่บ้านรักษาศีล ๕

    ที่ มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา

    วันอาทิตย์ที่ ๑๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐

    ตอนที่ ๔


    ท่านอาจารย์ กิเลสสามารถที่จะหมดได้ ดับได้ ด้วยปัญญาเท่านั้น เพราะฉะนั้นทำไมไม่ตรงต่อเหตุ ว่าต้องมีปัญญา จึงสามารถที่จะมีประชากรที่ดี มีประชาชนที่ดี มีความประพฤติที่ดี มีการที่จะเห็นประโยชน์ของการที่จะรักษาศีล ๕ โดยไม่ใช่ต้องไปสมัครเป็นหมู่บ้านศีล ๕ เพราะเหตุว่าพระภิกษุรับเงินทอง ผิดศีลไหม

    คุณทวีศักดิ์ ผิดศีล

    ท่านอาจารย์ แล้วอย่างไร ผิดแน่นอนพระภิกษุ และก็ผิดศีล แล้วก็ไปตั้งหมู่บ้านศีล ๕ แล้วจะมีศีลกันได้อย่างไร

    อ.อรรณพ แค่ตั้ง ก็ผิดศีลเสียแล้ว

    คุณทวีศักดิ์ แม้กระทั่งผู้ใหญ่บ้านที่ไปล่ารายชื่อ หรือว่าสมาชิกที่ลงชื่อทั้งหลาย ก็ทำผิดศีลอะไรต่ออะไร ทุกคนรู้ดี รู้ดีด้วยตัวของตัวเอง ถ้าไม่หลอกลวงตัวเอง

    ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้นเป็นการกระทำที่ไม่มีผลเลย ไร้ประโยชน์ เสียเงินด้วย แล้วก็ไม่ประสบความสำเร็จแน่นอน ถ้าสำเร็จคือว่า สามารถที่ทำให้คนเป็นโสดาบันได้ เพียงโดยชื่อ และโดยการไปสมัคร เพราะว่าผู้ที่จะไม่กระทำทุจริตศีล ๕ ได้ ก็ต้องเป็นพระโสดาบัน ด้วยปัญญา ปัญญาสามารถที่จะขัดเกลาความไม่ดีทั้งหมด จนกระทั่งไม่เหลือเลย

    คุณทวีศักดิ์ เรื่องสนทนากันก็มีเรื่องปัญญา ที่จะเป็นเหตุในการดับอวิชชาหรือความไม่รู้ การศึกษาพระธรรมโดยปกติ แม้แต่ในมงคล ๓๘ ประการ ในมงคลข้อที่ ๒๖ การฟังธรรมตามกาล เป็นมงคลอันประเสริฐ ผู้ชมผู้ฟังทั้งหลายจะศึกษาพระธรรม ควรจะศึกษาด้วยวิธีอย่างไร แล้วจะฟังจากอะไร ยึดอะไรเป็นหลัก

    ท่านอาจารย์ ต้องฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วไตร่ตรองจนกระทั่งเข้าใจความจริงของธรรม อย่างธรรม หมายความถึงทุกอย่าง ไม่เว้นเลย สิ่งที่มีจริงทั้งหมด ภาษาบาลีใช้คำว่า ธรรม ถ้าไม่มีจริง เราจะศึกษาอะไร พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะทรงตรัสรู้อะไร แต่เพราะมีสิ่งที่ใครก็ไม่รู้ เดี๋ยวนี้ก็มี พระองค์ทรงบำเพ็ญพระบารมี เพื่อรู้ความจริงของสิ่งที่กำลังมี ซึ่งเป็นสิ่งที่มีจริงๆ เดี๋ยวนี้ เพราะฉะนั้น ธรรม คือ สิ่งที่มีจริง ละเอียดอย่างยิ่ง

    คุณทวีศักดิ์ ทุกอย่าง ไม่เว้นเลย

    ท่านอาจารย์ เราเห็นดอกไม้ดอกหนึ่ง มีจริงๆ ใช่ไหม แล้วธรรมมีอะไรบ้าง ที่เรียกว่าเป็นดอกไม้ สีมีไหม กลิ่นมีไหม รสมีไหม แต่ละหนึ่งๆ รวมกัน และแต่ละหนึ่งนั้นเกิด และดับไป ไม่กลับมาอีกเลย ถ้ารู้อย่างนี้ค่อยๆ ละคลายความติดข้อง มีความประพฤติดีขึ้น กุศลเกิดมากขึ้น ค่อยๆ ขัดเกลากิเลส จนประจักษ์แจ้งความจริงเมื่อไร เป็นผู้ที่สมบูรณ์ด้วยศีล ๕ วิธีอื่นไม่มีทางนอกจากไม่เป็นความจริง เป็นการลวง เพราะว่าผู้ที่ประพฤติผิดศีล ๕ ก็ประกาศรับสมัคร ให้มีผู้ที่จะรักษาศีล ๕

    อ.อรรณพ เป็นห่วงโซ่ของความไม่รู้ และความลวง ลวงว่าตัวเองมี แล้วก็ลวงว่า คนที่จะมาสมัคร ตีขลุมเลย คือคนที่จะมารักษาศีล ๕

    ท่านอาจารย์ แค่สมัครก็เป็นผู้มีศีล ๕ นี่แปลกมาก แปลกจริงๆ

    อ.วิชัย ถ้ายังไม่รู้จัก ศีลคืออะไร

    คุณทวีศักดิ์ สมัครในสิ่งที่ตัวเองไม่มี เจ้าของโครงการก็ทำแบบโดยให้สำเร็จ โดยหลอกลวงกันไป แล้วผู้สมัครก็หลอกลวงตัวเองเช่นเดียวกัน

    ท่านอาจารย์ ถ้ารู้ว่าเมื่อมีการเข้าใจธรรม คุณธรรมถึงความเป็นพระโสดาบัน จึงจะสมบูรณ์ในศีล ๕ ทำไมไม่ทำเหตุ ให้เขาได้เข้าใจธรรม จนกระทั่งเขาขัดเกลากิเลส นั่นแหละได้ทำให้บุคคลนั้นเป็นผู้ที่มีศีล ๕ ไม่ใช่โดยการสมัคร

    อ.อรรณพ ท่านอาจารย์ครับ ผมคิดว่าเรื่องพวกนี้ โครงการอะไรนี้ เขามีพื้นฐานความคิดกันว่า เหตุที่จะทำให้เป็นคนดี ก็คือให้มีศีล ๕ คิดอย่างนี้

    ท่านอาจารย์ แต่ไม่รู้ว่าศีล ๕ คืออะไร แล้วอย่างไร

    อ.อรรณพ เป็นไปไม่ได้ อีกอย่างคือเขาคิดว่า มาฟังอย่างนี้ อย่างที่มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา ศึกษาและเผยแพร่ เป็นเรื่องละเอียด ลึกซึ้งมากๆ เลย ซึ่งประเทศเรานี้ไม่ต้องเอาอะไรมาก เอาแค่ให้มีคนศีล ๕ ก็เหลือเฟือแล้ว สังคมก็จะดีขึ้นอีกเยอะ

    ท่านอาจารย์ ก็อย่าเรียกว่าชาวพุทธ จะทำอะไรก็ทำไป แต่เรียกว่าชาวพุทธไม่ได้ เพราะพุทธคือปัญญา และเป็นชาวพุทธก็ต้องรู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ต้องฟังคำของพระองค์ด้วยความเคารพ ที่เขากล่าวนั้นถูก ละเอียด ลึกซึ้ง ยาก สมแก่การที่จะบำเพ็ญพระบารมี ถึงความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงจะทรงตรัสรู้ความจริงได้ แล้วทำไมไม่ประพฤติตาม

    อ.อรรณพ เขาก็เห็นว่ายุ่งยากซับซ้อน เอาศีล ๕ อย่างเดียว

    ท่านอาจารย์ เขาก็ไม่ใช่ผู้ที่นับถือพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    อ.อรรณพ เขาบอกแค่มีศีล ๕ สังคมก็ดีอยู่มากมาย

    ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้นก็คิดเอง ไม่ใช่เป็นผู้ที่เป็นสาวก คือ ผู้ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    คุณทวีศักดิ์ คิดว่ามีศีล ๕ ก็ใช่ว่าจะมีได้ตลอดทุกเวลา ใช่หรือไม่ เกิดขึ้นทีละขณะจิตเช่นเดียวกัน

    ท่านอาจารย์ ถูกต้อง แม้เดี๋ยวนี้ก็เป็นอกุศลศีล กุศลเกิดเดี๋ยวนี้ก็เป็นกุศลศีล ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใคร ใครจะไปเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนอะไร เป็นหมู่บ้านได้อย่างไร เรานั่งอยู่ตรงนี้ ใช่ไหม กุศลเกิดตรงไหน เป็นศีลขณะนั้น เพราะ ศีลคือความประพฤติเป็นไป ขณะที่ดีงามก็เป็นกุศลศีล

    อ.วิชัย ท่านอาจารย์ครับ ที่กล่าวถึงว่าปัญญา นำไปจนถึงการที่จะหมดกิเลสตามลำดับขั้นเลย แต่ว่าถ้าจะมีการอบรมที่เป็นความรู้ ความเข้าใจ ในการฟังพระธรรม ปัญญาจะเป็นการนำให้บุคคลนั้นไปสู่ความดีงามขึ้นอย่างไร

    ท่านอาจารย์ รู้หรือเปล่าว่า ดีงามคืออะไร เมื่อไร เห็นไหม ไม่ได้ฟังธรรม ไม่มีทางดีเลย ดีงามคืออะไร เมื่อไร เกิดขึ้นได้อย่างไร เมื่อขณะนั้นละอกุศลไม่มีโลภะ ไม่มีโทสะ ไม่มีโมหะ ขณะนั้นดีงาม แต่ไม่รู้เลย เพราะฉะนั้นจะดีงามได้ไหม ด้วยความไม่รู้

    อ.วิชัย ดีงามไม่ได้ เพราะไม่รู้จักว่า ความดีคืออะไร และก็ความไม่ดีเป็นอย่างไร เพราะความไม่รู้ ก็คือ ความไม่ดี

    อ.อรรณพ เพราะฉะนั้นดีงามก็เพราะว่า มีความเข้าใจ

    ท่านอาจารย์ ไม่มีความเคารพในความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่พระองค์ทรงตรัสรู้สิ่งซึ่งคนอื่นรู้ไม่ได้ แล้วละเอียดอย่างยิ่ง ซึ่งถ้าไม่ทรงแสดง ใครก็ไม่สามารถที่จะอบรม ให้มีความเห็นที่ถูกต้อง จนสามารถที่จะละคลายกิเลส และก็เป็นผู้ที่สมบูรณ์ในศีล ๕ ได้

    คุณทวีศักดิ์ ถ้าจะมองย้อนกลับไปถึง พระสัมมาสัมพุทธเจ้า กว่าที่พระองค์จะทรงตรัสรู้ได้ จากการศึกษาก็กล่าวกันว่า ๔ อสงไขยแสนกัป แล้วก็ทศชาติที่บำเพ็ญพระบารมี แต่ละอย่างก็มากเหลือล้น เกินกว่าผู้ใดจะสามารถทำได้

    ท่านอาจารย์ แล้วเราก็มาตั้งหมู่บ้านศีล ๕

    อ.อรรณพ โดยปฏิเสธที่อ.ทวีศักดิ์กล่าว

    คุณทวีศักดิ์ ปฏิเสธพระปัญญา พระบริสุทธิคุณ

    อ.อรรณพ ที่บำเพ็ญมานานแสนนาน ด้วยความไม่รู้ ความต้องการ แล้วก็คิดไปเอง

    ท่านอาจารย์ กว่าจะถึงความเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยศีล ๕ เป็นเบื้องต้น ต้องอาศัยกาลเวลานานเท่าไร ไม่ใช่ว่าใครก็สมัครแล้วก็ทำ

    อ.อรรณพ ถ้าจะพูดถึงว่า ถ้าคนสมบูรณ์พร้อมด้วยศีล ๕ ก็เพียงพอแล้ว เป็นความจริง เพราะถ้าเป็นพระโสดาบันแล้ว อบรมเจริญปัญญาต่อไปได้แน่ แต่ว่าเหตุที่จะให้ค่อยๆ มีศีลขึ้น เขาก็ไม่ได้สนใจ

    ท่านอาจารย์ คนที่มีศีล ๕ สมบูรณ์ ยังมีกิเลสไหม

    อ.อรรณพ มี

    ท่านอาจารย์ เพียงพอไหม

    อ.อรรณพ ต้องอบรมต่อ

    ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้นคิดง่ายๆ ว่าพอแล้ว แค่นี้ก็พอแล้ว แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเห็นกิเลสที่ละเอียด และมาก และลึก แล้วรู้ว่าจะต้องดับกิเลสจนหมดได้ เหลือไว้ทำไมสิ่งที่ไม่ดี

    อ.วิชัย ถึงที่สุด ต้องเป็นผู้ที่มีปัญญาที่สมบูรณ์

    ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้นให้คนเกิดปัญญาก่อน ดีกว่าที่จะให้เขาสมัครเป็นสมาชิกหมู่บ้านศีล ๕ โดยไม่มีปัญญา

    อ.อรรณพ ที่มูลนิธิหรือว่าบ้านธัมมะ เราก็มีการสมัครสมาชิกบ้านธัมมะ

    ท่านอาจารย์ เพื่ออะไร ศึกษาธรรม และทำดี ไม่ใช่ไปทำอย่างอื่น

    อ.อรรณพ ไม่ใช่มาสมัครกัน เพื่อเป็นกลุ่ม มารักษาศีล มาทำอะไรกัน

    ท่านอาจารย์ คนที่ไม่ศึกษาธรรม ไม่มาสมัคร เพราะว่างานของพระศาสนามีมาก เพราะฉะนั้นถ้าอาศัยคนที่มีความรู้ มีความเข้าใจ และเห็นประโยชน์ ร่วมกัน ช่วยกัน พระศาสนาก็จะดำรงอยู่ได้ คนเดียวทำอะไรไม่ได้แน่

    อ.อรรณพ ใครที่เห็นประโยชน์

    ท่านอาจารย์ ก็ร่วมกันศึกษาธรรมด้วยความละเอียด ด้วยความเคารพ และปัญญาที่เข้าใจธรรมนั้น ก็จะทำให้เขาเป็นคนดี ศีล ๕ แน่ ไม่ต้องไปสมัครที่ไหน

    อ.อรรณพ แต่ไม่ได้ต้องว่าร้อยละ ๕๐ ร้อยละ ๘๐ ปี จะมายกป้ายหรือว่า อะไรอย่างนี้

    ท่านอาจารย์ ขอโทษ ต้องการอะไรไม่ทราบ

    อ.อรรณพ ต้องการโล่

    ท่านอาจารย์ ต้องการโล่ เอามาทำอะไรไม่ทราบ

    อ.อรรณพ เพื่อจะแสดงว่า นี่เป็นหมู่บ้านที่มีศีล

    ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้นเป็นตัวตน หรือว่าเป็นธรรม หรือเป็นอนัตตา หรือว่าเป็นอกุศล

    อ.อรรณพ เป็นตัวตน เป็นอัตตา เป็นอกุศล

    ท่านอาจารย์ ไม่รู้เลย ใช่ไหม เพราะฉะนั้นก็นำกันหลงทาง

    คุณทวีศักดิ์ ก็ขึ้นป้าย ขึ้นป้ายเป็นหมู่บ้าน สถานที่ ต่อไปอาจจะมีสกรีนเสื้อ

    ท่านอาจารย์ แล้วก็เดินเข้าไปในหมู่บ้าน อายไหม หรือดีใจ หรือภาคภูมิ หรืออะไรกันแน่

    อ.อรรณพ แล้วแต่ว่าจะรู้หรือไม่รู้ จะเข้าใจหรือไม่เข้าใจ

    คุณทวีศักดิ์ โดยความเป็นจริง ผมว่าขึ้นป้ายไว้เถอะ แล้วก็อาจจะมีสื่อมวลชนเข้าไปเยี่ยมเยียน ดูว่าหมู่บ้านศีล ๕ ที่ว่านี้ กับหมู่บ้านอื่นที่ไม่ได้ขึ้นป้ายนั้น มีความแตกต่างกันอย่างไร การเบียดเบียนกัน การทำทุจริต กายวาจาหรือความสงบอะไรต่างๆ มันมีความแตกต่างกันอย่างไร

    ท่านอาจารย์ ชวนกันหลงทางหรือเปล่า เพราะว่าถ้าเข้าไปในหมู่บ้านนั้น ใครอยู่ในหมู่บ้านนั้น ถามเขาว่าศีล ๕ คืออะไร ตอบได้ไหม

    คุณทวีศักดิ์ ตอบไม่ได้

    ท่านอาจารย์ แล้วจะเป็นหมู่บ้านศีล ๕ ได้อย่างไร มีชื่อไว้หลอกลวง

    คุณทวีศักดิ์ ในกิจวัตรที่เคยทำทุกวัน ก็ทำเหมือนเดิม พฤติกรรมต่างๆ ทุจริตทั้งหลาย ก็ยังไม่ได้เปลี่ยนแปลง

    ท่านอาจารย์ อย่างกับว่าป้ายนั้นศักดิ์สิทธิ์

    อ.อรรณพ ผมกลัวในมุมกลับ เพราะว่าถ้ามีกลุ่มหมู่บ้านในประเทศ จะขึ้นป้ายกันเยอะๆ จะเป็นการกำบังหรือเปล่า

    คุณทวีศักดิ์ เบื้องหลัง

    อ.อรรณพ เบื้องหลังอะไร ยาเสพติด มีการตรวจสอบกันหรือเปล่า เป็นเรื่องที่บ้านเมืองปล่อยไม่ได้

    คุณทวีศักดิ์ ยาเสพติด อาวุธหรือเปล่า ค้ามนุษย์หรือเปล่า หรือแม้กระทั่งเดี๋ยวนี้นักท่องเที่ยว เข้าไปเที่ยวในประเทศไทยทุกคนทุกแห่ง เป็นบริการที่พัก โฮมสเตย์หรืออะไรต่างๆ แล้วเขาขึ้นว่า หมู่บ้านรักษาศีล ๕ ถ้ามีป้ายขึ้นอย่างนี้ นักท่องเที่ยวก็อาจจะตายใจ สบายใจ ว่านี่เป็นหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ปลอดภัย เข้าใจผิด ไม่ได้ระมัดระวังหรือไม่ได้มีอะไรป้องกัน

    ท่านอาจารย์ แล้วก็ที่อื่น ที่ไม่มีป้ายหมู่บ้านศีล ๕ แต่เป็นคนที่ประพฤติดี กับคนที่มีป้าย แต่ว่าประพฤติไม่ดี แล้วอย่างไร ป้ายจะมีประโยชน์อะไรนอกจากหลอกลวง แล้วคนที่ประพฤติดี เขาจะประกาศหรือ ต้องประกาศไหมว่าฉันรักษาศีล ๕ แต่อยู่ในหมู่บ้านนั่นประกาศใช่ไหม ว่าทุกคนรักษาศีล ๕ ประกาศเพื่ออะไร เพื่อโล่ ได้โล่มา ได้เกียรติยศมา ไม่ใช่คำสอนของสัมมาสัมพุทธเจ้า

    อ.วิชัย ในครั้งพุทธกาลก็ไม่มี อย่างเช่นที่เมืองสาวัตถีเองก็ตาม หรือว่ากรุงราชคฤห์เองก็ตาม ก็มีคนมากมาย แต่ก็ไม่มีการที่จะตั้งหรือประกาศอะไรว่าเป็นหมู่บ้านศีล ๕

    ท่านอาจารย์ คุณวิชัย ในโลกทั้งโลก มีแต่เฉพาะเมืองไทยหรือเปล่าๆ

    คุณทวีศักดิ์ ที่อาจารย์กล่าวนี้ มีคำพูดที่เขาจะพูดถึงประเทศไทยกันอยู่เรื่อย เขาใช้ภาษาอังกฤษว่า ไทยแลนด์โอนลี่ เฉพาะเมืองไทยเท่านั้น ที่มีอะไรพิเศษพิสดารไม่เหมือนใคร

    ท่านอาจารย์ แต่เป็นคำ น่าฟังหรือเปล่า

    คุณทวีศักดิ์ ไม่ดี เพราะมันเป็นเรื่องของอกุศล เรื่องทุจริต แต่สิ่งดีๆ ไม่มี

    อ.อรรณพ แต่ถ้าจะยกย่องกัน เขาบอกว่าเมืองไทยเมืองพุทธ พระพุทธศาสนารุ่งเรืองที่สุด ก็มีบางกลุ่มก็จะพูดอย่างนี้ แต่คนที่เขารู้ เขาจะพูดอย่างที่ อ.ทวีศักดิ์พูด ว่าจะพบสิ่งที่ไม่คาดฝันในทางไม่ดีที่เมืองไทย

    คุณทวีศักดิ์ พูดถึงเรื่องนี้เอากรณีผู้บวช ผู้ที่เข้าไปบวชในพระพุทธศาสนา บวรพระพุทธศาสนา ก็ไม่ได้รับการคัดกรอง พิจารณา ไม่ว่าจะเป็นประวัติ ความประพฤติ อัธยาศัยอะไรต่างๆ ความศรัทธา

    ท่านอาจารย์ คุณทวีศักดิ์คงไม่ลืม ที่เราพูดเมื่อสักครู่นี้ ผู้ให้บวชคืออุปัฏฌาย์รับเงินทอง

    คุณทวีศักดิ์ ใช่

    ท่านอาจารย์ แล้วผู้บวช บวชไปทำไม บวชเพื่อรับเงินทอง อุปัฏฌาย์เองรับเงินทอง แล้วก็ผู้บวช บวชไปทำไม ก็บวชเพื่อรับเงินทอง ซึ่งเป็นการทำลายพระพุทธศาสนา

    คุณทวีศักดิ์ มันก็มีเรื่องบุคคลที่ไม่ศรัทธา ไม่มีความศรัทธาที่แท้จริง ไม่มีอัธยาศัย แล้วก็ไม่ได้คิดจะศึกษาอย่างแท้จริง เช่น ได้รับโทษออกจากคุกมาบวช นี่ยังไม่พูดถึงพวกประเพณี การบวชเพื่อพ่อแม่หรืออะไร หรือว่าไปได้รับคดี แล้วก็ต้องการที่จะล้างมลทิน ก็มาบวช อะไรต่างๆ ฉะนั้นผู้บวชในเพศบรรพชิตของเราทุกวันนี้ มันหลากหลายเหลือเกิน ที่เป็นคนมีปัญหา

    ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้นคำว่า ภิกษุหมายความว่าอะไร เห็นไหม ผู้เห็นภัยในสังสารวัฏฏ์ จึงได้บวชสละเพศคฤหัสถ์ เพื่อที่จะอุทิศชีวิต ในการที่จะศึกษา และขัดเกลากิเลสตามพระธรรมวินัย มิฉะนั้นแล้วไม่ใช่ภิกษุ

    คุณทวีศักดิ์ แต่ในกรณีที่ยกตัวอย่างมาเมื่อครู่นี้

    ท่านอาจารย์ ไม่ใช่

    คุณทวีศักดิ์ ที่อาจารย์กล่าวถึงเลย

    ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้น ในพระไตรปิฎกใช้ข้อความว่าอะไรบ้าง สำหรับผู้ที่ทุจริตล่วงศีลต่างๆ

    อ.วิชัย ก็เป็นผู้ทุศีล แล้วก็เป็นผู้ที่ถ้ากระทำสิ่งที่เป็นปกติ จนเป็นประดุจเหมือนกับหยากเหยื่อ คือสิ่งที่เขาทิ้งแล้ว ถ้าเป็นผู้ที่สะสมปัจจัย สะสมบริขารเงินทองต่างๆ ก็เหมือนกับเป็นเศรษฐีหัวโล้น

    ท่านอาจารย์ แล้วมีอีกหรือไม่

    อ.วิชัย มีเรื่องของมหาโจรด้วย

    ท่านอาจารย์ ทั้งนั้นเลย พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสด้วยพระองค์เอง เพราะฉะนั้นเราไม่ได้ไปพูดเอง แต่ว่าพฤติกรรมทั้งหมด ทำให้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเตือนพุทธบริษัท ให้รู้จักจริงๆ ว่า พระภิกษุเป็นใคร มิฉะนั้นแล้วก็ไม่ใช่ภิกษุในธรรมวินัย เพราะฉะนั้นเมืองไทย พระพุทธศาสนารุ่งเรืองจริงหรือ

    คุณทวีศักดิ์ ไม่จริงแน่นอน

    ท่านอาจารย์ ไม่จริงแน่นอน

    คุณทวีศักดิ์ มีแต่ภาพ แล้วทุกวันนี้ซ้ำร้าย คนต่างชาติเข้าใจว่า พระพุทธศาสนาคือการนั่งสมาธิ ไม่ทราบอะไรมากกว่านั้นอีกเลย

    ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้นคนที่สนับสนุน เผยแพร่คำที่ไม่ใช่คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทำลายพระพุทธสาสนา ทำลายคำสอนของพระพุทธศาสนา

    อ.อรรณพ เพราะว่าก็ไม่เข้าใจว่า สมาธิคืออะไร เหมือนกับไม่เข้าใจว่าศีลคืออะไร

    ท่านอาจารย์ ทั้งหมดทุกอย่าง ที่ไม่ศึกษาธรรมด้วยความละเอียด ด้วยความเคารพอย่างยิ่ง ย่อมผิด ย่อมกระทำสิ่งที่ผิด

    อ.อรรณพ ไม่เข้าใจว่า ศีลคืออะไร ก็จะทำศีลกัน ถึงขนาดจะเป็นหมู่บ้าน ไม่เข้าใจสมาธิกัน ขนาดทำสำนักปฏิบัติ

    ท่านอาจารย์ ผู้ที่ตั้งหมู่บ้านศีล ๕ มีศีล ๕ หรือเปล่า ถ้าเป็นพระภิกษุหรือโครงการของพระภิกษุ พระภิกษุที่รับเงินทอง เป็นภิกษุในธรรมวินัยหรือเปล่า ผิดศีลหรือเปล่า แล้วจะให้คนอื่นมีศีลเป็นหมู่บ้านศีล ๕ ได้หรือ

    คุณทวีศักดิ์ พูดถึงความศรัทธาในพระพุทธศาสนา ที่ไม่ประกอบด้วยปัญญาของชาวพุทธ ก็สะท้อนให้เห็นในหลายๆ ประการ ส่วนใหญ่ก็คิดว่าการทำอามิสบูชา นั้นก็เป็นการบูชาที่สูงสุด โดยวัตถุสิ่งของต่างๆ แต่ไม่ได้คำนึงถึง ปฏิบัติบูชา โดยการศึกษา โดยการขัดเกลา โดยการน้อมนำมาประพฤติปฏิบัติ กาย วาจา ให้สุจริตอะไรต่างๆ

    ท่านอาจารย์ แม้แต่เพียงคำเดียวว่า บูชา ก็ไม่เข้าใจว่า บูชาอะไร จึงบูชาผิดๆ

    คุณทวีศักดิ์ ที่แตกต่างไปจากคำสอน ขัดต่อหลักธรรมคำสอน ก็วัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง เวทย์มนตร์ เดรัจฉานวิชา ไสยศาสตร์ สารพัดทุกอย่าง แล้วบอกว่าเป็นชาวพุทธ แล้วเป็นหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ดูแล้วมันไม่มีอะไรที่จะยืนยัน ต่อสิ่งที่จะให้เกิดขึ้นอย่างนี้ได้

    อ.วิชัย ทั้งหมดก็เป็นเรื่องของความไม่รู้ ไม่เข้าใจว่า พระพุทธศาสนาคืออะไร พระองค์แสดงธรรมไว้ว่าอย่างไร แสดงความเป็น เช่น กล่าวถึงวัตถุมงคล ก็ไม่รู้เลยว่า วัตถุนั้นเป็นมงคลอย่างไร แล้วมงคลคืออะไร ทั้งหมดนี้ก็เป็นไปในเรื่องของความไม่รู้

    ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้นทั้งคฤหัสถ์ และบรรพชิต ที่เข้าใจพระธรรมถูกต้อง ควรที่จะร่วมมือกัน ทำลายความเห็นผิด และความประพฤติต่างๆ ที่ไม่ถูกต้องตามพระธรรมวินัย เพราะว่าพุทธบริษัทเดี๋ยวนี้ ก็มีภิกษุ คฤหัสถ์คืออุบาสก อุบาสิกา

    คุณทวีศักดิ์ ประการที่อาจารย์กล่าวถึง อยากให้เกิดขึ้นโดยเฉพาะคฤหัสถ์ลุกขึ้นมา ที่มีความรู้ ความเข้าใจ อย่างถูกต้อง

    ท่านอาจารย์ และพระภิกษุที่มีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องด้วย

    คุณทวีศักดิ์ ใช่ ก็เป็นพุทธบริษัทร่วมกัน แต่ว่ามีสิ่งที่เหมือนกันก็คือ มีความรู้ ความเข้าใจ ที่ถูกต้อง ในพระธรรมวินัย มาร่วมกัน

    ท่านอาจารย์ ต้องศึกษา ถ้าไม่ศึกษาแล้วบอกว่า เข้าใจพระพุทธศาสนาเป็นไปไม่ได้ ประมาทคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จนกล่าวว่าบางท่านไม่ต้องศึกษา ก็แสดงให้เห็นว่า ไม่รู้ค่าของคำที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง จากการที่ได้ทรงตรัสรู้อริยสัจธรรม

    อ.อรรณพ ท่านอาจารย์ครับ ที่ว่าจะมาร่วมกันรักษาพุทธศาสนา ต้องเข้าใจก่อน

    ท่านอาจารย์ ถูกต้อง ไม่เข้าใจรักษาไม่ได้ เพราะฉะนั้นต้องเฉพาะภิกษุ อุบาสก อุบาสิกา ที่เข้าใจถูกต้องในพระธรรมวินัย ที่สมควรที่จะร่วมแรงร่วมใจกัน ดำรงรักษาพระศาสนา สิ่งใดที่ผิดก็ต้องกล่าวว่าผิด อย่างหมู่บ้าน ศีล ๕ เสียเงินงบประมาณ ใครจะรับรองได้ว่า คนที่อยู่ในหมู่บ้านศีล ๕ รักษาศีล ๕

    อ.อรรณพ รับรองไม่ได้ ตัวเองก็ยังรับรองไม่ได้

    ท่านอาจารย์ รับรองไม่ได้ แล้วมีประโยชน์อะไร แทนที่จำกัดเพียงแค่หมู่บ้าน คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สำหรับโลก ทุกหนทุกแห่ง ไม่ได้จำเพาะเจาะจงเฉพาะหมู่นี้ หรือหมู่นั้น เพราะฉะนั้นอยู่ที่ไหนก็ตาม สามารถที่จะเข้าใจธรรม แล้วก็ละเว้นทุจริต เป็นผู้ที่มีศีล ๕ ขัดเกลากิเลส จนกว่าจะถึงความเป็นผู้ที่สมบูรณ์หรือบริบูรณ์ในศีล ๕ ไม่ต้องมีการประกาศ ไม่ต้องมีการไปปักป้ายที่ไหน เพราะว่ากุศลเกิดที่ไหน ขณะนั้นก็เป็นกุศลศีล


    หมายเลข 11163
    2 พ.ย. 2567