สะสมความเห็นถูกทีละเล็กทีละน้อย


    ผู้ฟัง จริงๆ แล้วยังมีความรู้สึก หรือว่าความคิดที่ว่าสิ่งที่ปรากฏแล้วรู้สึกว่าอันนั้นคือกุศลจิต มันยังไม่ใช่สภาพของปรมัตถธรรม

    ท่านอาจารย์ รู้ตรงตามความเป็นจริงว่ายังไม่ใช่สภาพของปรมัตถธรรม ถ้าไม่ฟังให้ละเอียดจะรู้ไหมก็อาจจะเข้าใจว่ารู้ปรมัตถธรรมแล้วก็ได้ เพราะฉะนั้นจึงต้องอาศัยการฟัง ขณะที่ฟังแล้วเริ่มมีความเข้าใจโดยที่ว่าไม่รู้ลักษณะของสภาพธรรม ไม่ใช่มีความเป็นตัวตนที่ไปพยายามจะรู้ ต้องฟังให้ถูกต้องด้วย กำลังสะสมสังขารที่จะปรุงแต่งให้มีความเข้าใจถูก มีความเห็นถูกในสิ่งที่มีจริงๆ ที่กำลังปรากฏ แต่เมื่อยังไม่ถึงกาลที่จะเข้าใจอย่างนั้นได้ ก็กำลังสะสมความเห็นถูกทีละเล็กทีละน้อยจนกว่าจะสามารถที่จะรู้ได้ว่าขณะไหนเริ่มที่จะรู้ตรงลักษณะของสภาพธรรมที่ได้ยินได้ฟัง จนกว่าปัญญาจะถึงความสมบูรณ์ที่สามารถสละความติดข้องในสิ่งที่กำลังปรากฏ เพราะรู้ความจริงว่าเป็นลักษณะของสภาพธรรมจริงๆ แต่ละอย่างซึ่งเกิดแล้วก็ดับไป เพราะฉะนั้นปัญญาก็ต้องเจริญ แต่ว่าอาศัยการฟังเป็นสังขารขันธ์ปรุงแต่งการพิจารณาเข้าใจตรงตามความเป็นจริงของสภาพธรรมนั้น ทำให้ไม่ไขว้เขว ไม่คลาดเคลื่อนจนกว่าจะรู้จริงๆ นี่คือประโยชน์ของการที่มีปัญญาระดับขั้นการฟัง และพิจารณา เพราะว่าถ้าไม่มีขั้นนี้ที่จะสามารถรู้ตรงลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังเกิดดับเป็นไปไม่ได้เลย เพราะฉะนั้นก็กำลังสะสมปัญญาซึ่งจะทำให้สามารถเข้าใจถูกต้องในลักษณะของสิ่งที่ปรากฏ


    ที่มา ...

    พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 227


    หมายเลข 11188
    31 ส.ค. 2567