ศึกษา ฟัง ไตร่ตรองเพื่ออะไร
อ.กุลวิไล ในชีวิตประจำวันบางครั้งเราก็จะหวั่นไหวไปกับสิ่งที่ปรากฏทางทวารต่างๆ และก็เป็นปัจจัยให้เราทำอกุศลกรรมได้ง่าย เพราะว่าเราจะเป็นไปกับกระแสของตัณหา โลภะ ซึ่งจะติดข้องในทวารต่างๆ นั่นเองซึ่งก็เป็นเรื่องของการที่จะอบรมปัญญาที่จะทำให้กุศลธรรมเจริญขึ้นในชีวิตประจำวันนั่นเอง
สุ. การฟังธรรมก็คงไม่ลืม เราฟังมาแล้วมาก แล้วก็จะฟังต่อไปด้วยเพื่อประโยชน์คือการรู้จริง เข้าใจถูกต้องในลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฏ ขณะนี้มีสิ่งที่ปรากฏแต่เราก็เข้าใจว่าเป็นคน เป็นสัตว์ เป็นโต๊ะ เป็นเก้าอี้ เป็นทุกอย่างเหมือนเคยในชีวิตประจำวันที่ผ่านมาก่อนที่จะได้ฟังพระธรรม แต่การฟังพระธรรม และเข้าใจว่าทุกอย่างเป็นธรรมก็เป็นสิ่งที่ยาก ต้องอาศัยการฟังเข้าใจ และค่อยๆ รู้ว่าสิ่งที่กำลังได้ยินได้ฟังทั้งหมดเป็นสิ่งที่กำลังมีจริงๆ ในขณะนี้ มิฉะนั้นเราก็ลืมแล้วก็คิดเป็นเรื่องเป็นราวว่าเราได้เข้าใจเรื่องของกุศล เรื่องของอกุศล แต่ขณะนี้สภาพธรรมมี กำลังปรากฏ การศึกษา การฟัง การไตร่ตรองทั้งหมดต้องไม่ลืมว่าเพื่อเข้าใจจริงๆ เห็นถูกจริงๆ ในสิ่งที่กำลังปรากฏ เพราะฉะนั้นก็คงจะเป็นการฟังที่ค่อยๆ สะสมความรู้ความเข้าใจจุดประสงค์ของการศึกษาธรรมว่าไม่ใช่เพื่อที่จะจำเรื่องราวหรือตัวเลข แต่สามารถที่จะรู้ความจริงของสิ่งที่กำลังปรากฏ ชาตินี้จะรู้ได้กี่ขณะหรือว่ายังไม่ได้เริ่มเลย ก็เป็นไปตามเหตุตามปัจจัย แต่ไม่ลืมว่าจุดประสงค์ของการฟังไม่ใช่ไปรู้อื่น แต่เข้าใจถูกต้อง รู้ความจริงของสิ่งที่กำลังปรากฏ เพราะฉะนั้นก็ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกุศลจิต อกุศลจิต วิบากจิต กิริยาจิต ก็คือเรื่องของสภาพธรรมที่มีจริง และเคยยึดถือว่าเป็นตัวตน และเป็นเรา และเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดซึ่งไม่ใช่ความเห็นที่ถูกต้องตามความเป็นจริงของสภาพธรรมนั้น เพราะฉะนั้นในขณะนี้ถ้าจะพูดถึงเรื่องของกุศล ก็ต้องรู้ว่าขณะนี้เห็น เพียงเห็น ไม่ดี ไม่งาม ไม่ได้เป็นสภาพธรรมที่จะทำให้เกิดผล เพราะเหตุว่าขณะนี้ไม่มีการที่ใครที่จะเลือกเห็นได้ ด้วยเหตุนี้การศึกษาธรรมจึงศึกษาสิ่งที่กำลังมีให้เข้าใจในความละเอียดที่เกิดปรากฏเช่น เดี๋ยวนี้เห็น หรือว่าไม่ว่าจะเห็นเมื่อไหร่ ที่ไหนก็ตาม จิตเห็นไม่ใช่กุศล เพราะเหตุว่าเป็นผลที่มีเหตุที่ได้กระทำแล้วเป็นปัจจัยให้เกิดขึ้น
ที่มา ...