จากปุถุชนถึงความเป็นพระโสดาบัน


    แต่ที่จะรู้ความจริงของสิ่งที่ปรากฏจนกระทั่งหมดความสงสัยในสิ่งที่ได้ยินได้ฟัง แม้แต่คำแรกว่า “ธรรม” เมื่อไหร่ที่มีความเห็นถูก เข้าใจถูกว่าขณะนี้ลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฏไม่ว่าจะเป็นทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ เป็นธรรม แค่นี้ก็ต้องเป็นผู้ตรงซึ่งต้องอาศัยการฟัง เพราะฉะนั้นศรัทธาจะเพิ่มขึ้นเมื่อมีความเข้าใจธรรมขึ้น และศีลก็มีโอกาสที่จะเกิดเป็นศีลที่ละเอียดกว่าเพียงขั้นศีล ๕ หรือว่าศีล ๘ หรือว่าศีล ๒๒๗ ของพระภิกษุตามกำลังของศรัทธา ด้วยเหตุนี้ทั้งหมด ศรัทธา ศีล สุตตะ จาคะ ปัญญา หิริ โอตัปปะเป็นกุศลธรรมทั้งหมดซึ่งเวลาที่เกิดศรัทธาก็จะต้องเกิดกับจิตที่เป็นกุศลทุกประเภท และผู้นั้นก็จะรู้ได้ขณะใดที่กุศลประเภทใดเกิด ขณะนั้นศรัทธามั่นคงไหม ไม่มั่นคงจากปุถุชนซึ่งหนาแน่นด้วยอกุศล กว่าจะถึงความเป็นพระโสดาบันซึ่งไม่ล่วงทุจริตทางกาย วาจา ๕ ประการที่เป็นนิจศีล นี่ก็แสดงให้เห็นว่าถ้ายังไม่ถึงระดับนั้นก็จะมีการที่ศรัทธาเกิดเมื่อไหร่ ศีลก็มีเมื่อนั้นได้ แต่ถ้าขณะใดที่เป็นอกุศล ขณะนั้นศรัทธาก็น้อยมาก เพราะฉะนั้นด้วยเหตุนี้ผู้ที่สมบูรณ์ด้วยศรัทธาที่มั่นคงจึงเป็นพระอริยบุคคล


    ที่มา ...

    พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 233


    หมายเลข 11516
    28 ส.ค. 2567