โลกแต่ละโลก


        โลกคืออะไร มีอะไรบ้างที่เป็นโลก โลกเป็นเราหรือเปล่า และจะเข้าใจโลก ตามความจริงได้อย่างไร


        อ.สงบ โลกอันนี้ ก่อให้เกิดปัญญาอย่างไรครับ

        ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้นเราคงไม่ลืม ไม่ว่าจะพูดเรื่องอะไรทั้งหมด ต้องมีความเข้าใจชัดเจน ตั้งแต่ต้นว่าคืออะไร ถึงจะมีคำถามต่อไปได้ ด้วยเหตุนี้ก่อนอื่นเลยที่ทุกคนควรจะได้เข้าใจจริงๆ อย่างมั่นคง โลก โลกะคืออะไร

        อ.สงบ คือสิ่งที่เกิดดับ

        ท่านอาจารย์ ต้องมีจริงๆ ใช่ไหม

        อ.สงบ มีจริงครับ

        ท่านอาจารย์ ถ้าไม่เกิด ไม่มี ใช่ไหม

        อ.สงบ ไม่มีครับ

        ท่านอาจารย์ เกิดแล้วดับไหม

        อ.สงบ ดับครับ

        ท่านอาจารย์ ดับทุกอย่างหรือเปล่า ที่เกิด

        อ.สงบ เกิดทุกอย่าง ดับ

        ท่านอาจารย์ นั่นคือโลก เพราะฉะนั้นเดี๋ยวนี้มีโลกไหม

        อ.สงบ มีครับ

        ท่านอาจารย์ ถ้าเป็นบุคคลในครั้งโน้น ฟังธรรมจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านได้อบรมเจริญปัญญามาแล้ว เพราะฉะนั้นไม่ต้องละเอียดมากอย่างที่เราสนทนากัน ตั้งแต่ไม่รู้อะไรเลย จนกระทั่งค่อยๆ มาไล่เรียงให้เข้าใจทีละคำ เพราะรู้ว่าท่านที่ฟังแล้วเข้าใจ กับเราฟังแล้วจะเข้าใจ เท่าท่านหรือเปล่า เมื่อไม่เท่า ใช่ไหม เราก็ต้องเข้าใจจริงๆ จนกว่าจะเป็นอย่างนั้นได้ ด้วยเหตุนี้ เดี๋ยวนี้มีโลกไหม

        อ.สงบ มีครับท่านอาจารย์

        ท่านอาจารย์ โลกอะไร

        อ.สงบ โลกทางตาก็เห็น

        ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้นเห็นเป็นโลกหนึ่ง โลกอยู่ที่ไหน

        อ.สงบ ก็อยู่ที่ตัวเรา

        ท่านอาจารย์ ค่ะ ก็ต้องเห็นที่กาย นอกกายเห็นได้ไหม

        อ.สงบ ไม่ครับ

        ท่านอาจารย์ เพราะตาอยู่ที่ไหน ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ตรงนี้ ถ้าไม่มีตา ขณะนี้สีสันวรรณะต่างๆ ก็ไม่ปรากฏ คนโน้น คนนี้ คนนั้น ก็ไม่มี ไม่ปรากฏ ถ้าไม่มีหู ไม่มีจมูก ไม่มีลิ้น ไม่มีกายกระทบสัมผัส ไม่มีใจที่คิดนึก จะมีอะไร เพราะฉะนั้นทั้งหมดที่มี เป็นโลกทั้งหมด ไม่เว้นเลย ไม่ว่าจะเป็นเห็น ไม่ว่าจะเป็นคิด ไม่ว่าจะเป็นจำ เพราะจำก็ต้องเกิดขึ้นจำ ชอบก็ต้องเกิดขึ้นชอบ ไม่ชอบก็ต้องเกิดขึ้นไม่ชอบ สำคัญตนก็ต้องเกิดขึ้นเป็นความสำคัญตน เพราะฉะนั้นทุกอย่างหมดไม่ว่าอะไรที่เกิดขึ้นเป็นโลก โลกภายนอกมีไหม

        อ.สงบ ต้องมี

        ท่านอาจารย์ ก็ต้องมี เพราะฉะนั้นธรรมไม่ใช่มีแต่เฉพาะที่กาย เพราะว่ารวมหมดทุกอย่าง ไม่ว่าส่วนไหน ตรงไหน ที่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดเกิดขึ้น นั่นเป็นโลกซึ่งต้องดับเป็นธรรมดา

        อ.สงบ ถ้าเป็นปัญญา เป็นยังไงครับ

        ท่านอาจารย์ ปัญญาก็เกิดขึ้นเข้าใจถูกแล้วก็ดับ เป็นโลกหรือเปล่า ทุกอย่างหมด คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเปลี่ยนไม่ได้สักคำเดียว เป็นความจริงถึงที่สุด ถ้าตรัสไว้ว่าสิ่งหนึ่งสิ่งใด มีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา ต้องเป็นอย่างนั้นคือต้องเกิดขึ้นเป็นอย่างนั้น ไม่เป็นอย่างอื่น แล้วก็ดับไป

        อ.สงบ ถ้าเห็นว่าไม่เกิดดับ ก็ไม่ใช่ปัญญาแล้ว

        ท่านอาจารย์ ไม่ใช่เห็น เข้าใจถูก เวลานี้เป็นโลกหรือเป็นเรา

        อ.สงบ เป็นเรา

        ท่านอาจารย์ ถูกไหม

        อ.สงบ ผิด

        ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้นเราเป็นโลกหรือเปล่า

        อ.สงบ ถ้าเรามีโลก ก็ผิดอีก

        ท่านอาจารย์ โลกเป็นเราหรือเปล่า

        อ.สงบ ไม่ได้เป็นเรา

        ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้นโลกแต่ละโลก เป็นแต่ละหนึ่ง เปลี่ยนไม่ได้เลย เห็นก็เป็นหนึ่ง เห็นเมื่อกี้นี้เป็นโลกหรือเปล่า

        อ.สงบ เป็นครับ

        ท่านอาจารย์ เห็นเดี๋ยวนี้ เป็นโลกหรือเปล่า

        อ.สงบ เป็นครับ

        ท่านอาจารย์ โลกเดียวกันหรือเปล่า

        อ.สงบ คนละโลก เกิดดับแล้ว

        ท่านอาจารย์ ค่ะ เพราะคนละเห็น คือทั้งหมดเพื่อความเข้าใจจริงๆ เท่านั้นเอง แต่ละคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ใช่ว่าเราต้องตามไปให้คิดแค่นี้ แต่ต้องไตร่ตรอง จนกระทั่งสามารถที่จะเป็นความเข้าใจที่ไม่เปลี่ยนแปลง เพราะเหตุว่าถ้าเปลี่ยนก็ไม่จริง ไม่ถูกเพราะเปลี่ยนได้ แต่นี่เปลี่ยนไม่ได้เพราะเป็นความจริงถึงที่สุด

        อ.อรรณพ หมายความว่าเป็นโลกแต่ละโลกหรือครับ

        ท่านอาจารย์ แน่นอน หนึ่งเป็นหนึ่ง เพราะฉะนั้นเมื่อกี้นี้ดับแล้วไม่กลับไปอีกเลย ไม่อย่างงั้นก็ยังยึดถือว่าของเก่านั่นแหละมาได้ เป็นเรานี่ไงกลับมาแล้ว ไม่ใช่เลย แต่ละหนึ่งเกิดขึ้นมีปัจจัยเกิดขึ้น และดับไป ไม่กลับมาอีก หาอีกไม่ได้เลยในสังสารวัฏ ไม่ว่าที่โลกไหนทั้งสิ้น

        อ.อรรณพ แต่ถ้าไม่ได้เข้าใจอย่างนี้ ก็คิดว่าเราก็อยู่ในโลก หลับไป ตื่นขึ้นก็ยังอยู่ในโลกนี้ แต่ไม่ได้เป็นโลกแต่ละโลกอย่างที่อาจารย์แสดง

        ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้นไม่สามารถที่จะละความเป็นโลก หรือเป็นเราด้วยความติดข้อง เพราะไม่รู้ความจริงว่า โลกเกิดแล้วดับทันทีแล้วไม่กลับมาอีกเลย การที่จะละการยึดถือสภาพธรรมหนึ่ง สภาพธรรมใดว่าเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดเป็นอัตตา ก็ต่อเมื่อประจักษ์แจ้งว่า ไม่มีแล้วก็มี แล้วก็มาหามีไม่ หายไปเลย เหมือนตอนที่ไม่มี แล้วจะติดข้องอะไร เพราะไม่รู้จึงติดข้อง

        อ.สงบ เหมือนกับว่าเราอยู่กับโลกตลอดเวลา แต่ก็ไม่รู้จักโลกเลย

        ท่านอาจารย์ ไม่รู้จักเลย มีโลกก็ถามหาว่า โลกคืออะไร ถ้าไม่ฟังธรรมตอบได้ไหม โลกคืออะไร ไหนลองตอบสิ


    หมายเลข 11552
    24 ก.พ. 2567