ฟังธรรมต้องให้ถึงความเป็นธรรมซึ่งไม่ใช่เรา


    ถ้ากล่าวถึงจิตจะค่อยๆ เข้าใจขึ้น เพราะเหตุว่าขณะนี้กำลังมีจิตซึ่งโดยประเภทใหญ่ๆ เราก็จะรู้จักว่าจิตที่เป็นกุศลมี และก็จิตที่เป็นอกุศลก็มี ถูกต้องไหมคะ รู้แค่นี้แต่ว่ายังไม่พอ ยังต้องละเอียดขึ้นว่าเมื่อกุศลจิต และอกุศลจิตมี แล้วก็ตามกำลังของประเภทของจิตที่สามารถที่จะกระทำกรรมต่างๆ ซึ่งเป็นเหตุ ผลของกรรมก็ต้องมี ถูกต้องไหมคะ จะได้เป็นผู้ที่มั่นคงเข้าใจว่าจิตก็คือสภาพธรรมที่มีจริง บางขณะก็เป็นกุศล บางขณะก็เป็นอกุศล แม้ดับไปแล้วก็ยังเป็นปัจจัยสะสมอยู่ในจิตที่จะทำให้พร้อมด้วยกาลปัจจัยที่จะให้ผลเกิดขึ้น สุกงอม ใช้คำว่า “สุกงอม” คือพร้อมที่จะให้ผล สภาพธรรมที่เป็นผล เป็นจิตประเภทวิบากซึ่งเกิดขึ้นเป็นสภาพรู้รับผลของกรรม เป็นผลของกรรมที่มีเจตนาที่จะให้ขณะนั้นเป็นกุศล เป็นปัจจัยที่จะให้กุศลวิบากจิตเกิด ถ้ามีเจตนาที่จะเป็นอกุศลที่จะให้ความลำบากเดือดร้อนแก่ผู้อื่น แม้เจตนาที่เป็นกรรมดับไปแล้วก็เป็นปัจจัยทำให้อกุศลวิบากนั้นเกิด มีเราหรือเปล่า คือฟังธรรมต้องให้ถึงความเป็นธรรมซึ่งไม่ใช่เรา


    ที่มา ...

    พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 235


    หมายเลข 11601
    28 ส.ค. 2567