ศรัทธาจะมั่นคงขึ้นตามกำลังของปัญญา
อ.นิภัทร ก็เรื่องศรัทธา ผมก็ไม่รู้ว่ามันเกินได้หรือเปล่า ก็มีคำว่า “ปรับอินทรีย์” ปรับยังไงก็ไม่ทราบ
สุ. อินทรีย์มี ๕ สัทธา สติ วิริยะ สมาธิ ปัญญา ที่เป็นประโยชน์ในที่ทั้งปวงก็คือสติ ถ้าสติไม่เกิดจะมีการรู้ไหมว่าศรัทธามากกว่าปัญญา
อ.นิภัทร ผมเคยได้ยิน
สุ. มีศรัทธาจริงๆ เชื่อเลื่อมใสในพระรัตนตรัย แต่ว่าไม่รู้ว่าธรรมคืออะไร
อ.นิภัทร อย่างนี้ก็ไม่ดีสิครับ
สุ. ก็แสดงให้เห็นว่าศรัทธามากกว่าใช่ไหม ปัญญานิดเดียว แล้วที่จะรู้ได้ก็เพราะสติเกิดจึงสามารถที่จะรู้ได้ มิฉะนั้นศรัทธาก็มากกว่าปัญญาไปเรื่อยๆ
อ.นิภัทร สตินี่คงจะไม่มากใช่ไหม
สุ. ทำให้มีการรู้สภาพธรรมในขณะนั้นได้ เพราะเหตุว่าถ้าศรัทธากับปัญญาเสมอกันเพราะสติรู้ว่าขณะไหนมีศรัทธาแต่ว่าขาดปัญญา อย่างผู้ที่มาฟังธรรมก็สามารถที่จะรู้ได้ว่ามีศรัทธาที่จะฟัง และก็ปัญญามีความเข้าใจเพิ่มขึ้นหรือว่าศรัทธาก็เหมือนเดิมคือมาก และปัญญาก็คงน้อยกว่าที่ควรจะเป็นเพราะเหตุว่ายังไม่ได้มีความเข้าใจเท่ากับศรัทธา แต่ถ้าฟังแล้วมีศรัทธามีความเข้าใจตามกำลังของปัญญา มีปัญญาเท่าไหร่ก็มีศรัทธามั่นคงขึ้นเท่านั้น ถ้ามีการฟัง และก็มีความเข้าใจถูกว่าธรรมก็คือสิ่งที่มีจริง พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ความจริงของสัจจธรรมคือสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏ เพราะฉะนั้นเวลาที่ได้ฟังอย่างนี้ก็ไม่ได้เข้าใจผิด และก็มีการที่จะรู้ว่าพระปัญญาคุณของพระผู้มีพระภาคนั้นไม่ใช่เพียงคิด แล้วก็สอนด้วยความละเอียดยิ่ง แต่เป็นเพราะการตรัสรู้ลักษณะของสภาพธรรมนั้นละเอียดยิ่ง ซึ่งบุคคลอื่นไม่สามารถที่จะเสมอเลย ด้วยเหตุนี้พระธรรมที่ทรงแสดงก็ทรงแสดงภาวะความเป็นจริงของสภาพธรรมนั้นตามความละเอียดโดยประการทั้งปวงที่จะอุปการะให้สัตว์โลกเกิดความเห็นถูก ความเข้าใจถูก ในลักษณะของสภาพธรรมนั้น เพราะฉะนั้นผู้ที่เริ่มมีปัญญา ศรัทธามั่นคงขึ้นก็จะรู้ว่าศรัทธาที่มั่นคงขึ้นตามกำลังของปัญญาที่มี
ที่มา ...