จะรู้ได้อย่างไรว่าคำสอนใดผิด คำสอนใดถูก
ผู้ฟัง พอดีมีเพื่อนๆ ที่ฟังธรรมท่านอาจารย์ใหม่ๆ สอบถามมา คำถามที่น่าสนใจว่า เราจะพิจารณาอย่างไร ว่าคำที่เราได้ฟัง เป็นคำจริง จากพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะว่ามีผู้แสดงธรรมมากมาย มีผู้เขียนหนังสือมากมาย แต่เราจะใช้ความเข้าใจอะไร ที่เราจะพิจารณาว่า สิ่งที่ฟัง หรือที่อ่าน หรือศึกษาอยู่นั้น คือ เรื่องจริงที่พุทธเจ้าทรงแสดงไว้ครับ
ท่านอาจารย์ เดี๋ยวนี้ มีสิ่งที่มีจริงๆ ไหม
ผู้ฟัง มีครับ
ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้นถ้าใครสามารถที่จะทำให้รู้ความจริง ของสิ่งที่มีจริง นั่นคือคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ถ้าใครก็ตาม ไม่พูดที่เข้าใจความจริงถึงสิ่งที่มีจริง ก็ไม่ใช่คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นวาจาสัจจะ เกิดจากการตรัสรู้สิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ ซึ่งใครก็ไม่รู้ ถ้าไม่ได้ฟังพระธรรม นี่ก็คือสิ่งที่น่าอัศจรรย์ว่า สิ่งที่มีจริง มีผู้ที่สามารถทำให้คนอื่น ได้รู้ความจริงของสิ่งที่มี
เพราะฉะนั้นผู้ฟังต้องไตร่ตรอง ไม่ใช่เชื่อคำที่ใครพูด แต่ว่ารู้ได้เลย ว่าคำนั้นทำให้มีความเข้าใจ ในสิ่งที่มี ไม่ไช่ไปคิดเองอย่างนั้นอย่างนี้ แต่สิ่งที่มีเดี๋ยวนี้ไม่รู้ความจริงว่า เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยมีปัจจัยที่จะเกิด เช่น เห็น ถ้าไม่มีตา ไม่มีสิ่งที่กระทบตาได้ เห็นก็เกิดไม่ได้ ผู้ที่ฟังพระธรรมก็คือ ผู้ที่รู้ว่าตนเอง ไม่มีความเข้าใจ หรือความเห็นถูก ในสิ่งที่กำลังปรากฏเลย เข้าใจต่างจากความจริง คือ เข้าใจว่าเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่เที่ยง ลืมตาขึ้นมาก็มีแล้ว ไม่เห็นเกิดดับ แต่ว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า ถ้าสิ่งนั้นไม่เกิด และไม่กระทบตาจะปรากฏว่าเป็นรูปร่างลักษณะอย่างนี้ได้ไหม ต้องค่อยๆ ฟัง ค่อยๆ คิด จนกว่าการยึดถือว่าเป็นเราเห็น เราคิดต่างๆ เหล่านี้ จะค่อยๆ รู้ว่าไม่ใช่เรา เพราะอะไร เพราะเป็นธรรมอะไร
เพราะฉะนั้นผู้นั้นรู้ด้วยตัวเอง การเข้าใจถูก ต้องเป็นการเข้าใจถูก ของแต่ละคน ที่ได้ฟังแล้วพิจารณา แล้วก็ตรงกับความเป็นจริง ไม่ใช่พูดเรื่องอื่น
ผู้ฟัง ไม่ใช่พูดเรื่องอื่น แล้วก็ไม่ใช่ไปนั่งหลับตา แล้วคิด
ท่านอาจารย์ แน่นอนค่ะ พระพุทธเจ้าไม่ได้ให้ใครหลับตา เพราะฉะนั้นคนที่ให้คนอื่นหลับตา เป็นพระพุทธเจ้าหรือเปล่า เป็นคำของพระพุทธเจ้าหรือเปล่า มีที่ไหนที่พระองค์จะตรัสให้หลับตา แต่ให้รู้ความจริงที่กำลังอยู่ในขณะนั้น เพราะเกิดจึงมี